อวสานเว็บล่ม ส่องเบื้องหลังเทคโนโลยี Azure App Service

ในยุคที่คนหันมาพึ่งพาบริการบนออนไลน์มากขึ้น ปัญหาเว็บล่มมีผลต่อความน่าเชื่อถืออย่างมาก เมื่อบริการต่างๆ ถูกยกขึ้นไปอยู่บนเว็บ และแอปพลิเคชัน อย่างการขายสินค้า หรือจองเข้ารับบริการ ที่หัวใจสำคัญคือระบบที่ต้องรองรับการเข้าถึงของคนจำนวนมากพร้อมกันได้แบบไม่ติดขัดจนทำให้เกิดเหตุการณ์เว็บล่ม เอาดื้อๆ

ภาพของหลายคนคุ้นเคยกับการจองคิวฉีดวัคซีนล่วงหน้าผ่านแอปพลิเคชันหรือแม้แต่ผู้ให้บริการเครือข่ายมือถือ ที่จำเป็นเปิดให้จองพร้อมกันผ่านหน้าเว็บอย่างเลี่ยงไม่ได้ ซึ่งโอกาสที่เว็บจะล่ม หรือขาดการเชื่อมต่อกับ Server เป็นไปได้ง่ายมาก ในช่วงเวลาพีคที่คนโหลดหน้าเว็บพร้อมกันมากกว่า 3 แสนครั้ง หรือ 3 แสน transaction  ต่อวินาที

ในอดีตเราอาจจะต้องลงทุนมหาศาลเพื่อขยายขนาดของ Server เพื่อให้รองรับ Peakload อย่างการเช่า Virtual Machine (VM) หรือเพิ่ม Load Balance ให้เพียงพอกับความต้องการ แต่ตอนนี้เทคโนโลยีได้พัฒนาไปไกลขึ้น มีแพลตฟอร์ม Web As a Service เข้ามาเสริม ทำให้การจัดการกับปัญหาเว็บล่ม ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป

การเตรียมระบบเพื่อรองรับบริการออนไลน์ การขายสินค้าที่มีจำนวนจำกัด แต่กลับมีความต้องการสูง ตัวอย่างเช่นเปิดจอง iPhone รุ่นใหม่ รวมถึงการขายขายผ่านอีคอมเมิร์ช เป็นหนึ่งในเหตุผลที่ทำให้หลาย ๆ ธุรกิจต้องเตรียมพร้อมรับมือกับความเสี่ยงของทรานแซคชั่นที่เพิ่มขึ้นในชั่วขณะหนึ่ง โดยอาจมากถึง 10,000 คนต่อวินาที และหากธุรกิจไม่สามารถรองรับการทำงานในชั่วโมงเร่งด่วนได้ จะส่งผลให้ผู้ใช้งานทำธุรกรรมออนไลน์ไม่สำเร็จ นั่นหมายถึงรายได้ที่ขาดหายไปจากความติดขัดของระบบ

เบื้องหลังแอปพลิเคชันลงทะเบียนวัคซีน

Solution ที่ดีพอ จะช่วยรับมือกับสถานการณ์และความเสี่ยงที่เกิดขึ้นได้ พร้อมกับบริหารค่าใช้จ่ายไม่ให้บานปลายตามมา

AIS เป็นหนึ่งในองค์กรที่ให้บริการแอปพลิเคชันจุดรับลงทะเบียนวัคซีนโควิด-19 ผ่านระบบคลาวด์ของ Microsoft Azure

ทำให้สามารถรับมือกับผู้เข้าใช้บริการออนไลน์จำนวนมากถึง 1 แสนคน ภายในระยะเวลาไม่ถึง 4 ชั่วโมงที่เปิดให้บริการได้อย่างไม่ติดขัด

Azure App Service เป็นโซลูชั่นที่ให้บริการในรูปแบบ Platfrom as a Service ที่น่าสนใจ และได้รับความนิยมมากในปัจจุบัน รองรับการใช้งานตั้งแต่ธุรกิจขนาดเล็กไปจนถึงขนาดใหญ่ ที่กำลังมองหาโซลูชั่นเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการลูกค้าภายใต้งบประมาณที่สามารถเพิ่มหรือลดได้ตามความต้องการ

Azure App Service เป็นหนึ่งในบริการของ Microsoft ที่รองรับที่ Web App และ Mobile App จุดเด่นคือเป็น PaaS ที่เข้าถึง OS, Middleware และ Runtime ซึ่งเป็นสิ่งที่นักพัฒนามองหา เพราะปัญหาใหญ่ที่ของการเชื่อมต่อระบบคือความเข้ากันได้ของซอฟต์แวร์ที่ใช้เขียนโปรแกรม

ในขณะที่  Azure ถูกออกแบบมาให้รองรับได้หลายภาษา ทั้ง .NET, Node.js , Java, Docker, PHP, Ruby, Python ใช้งานได้ทั้งบนระบบปฏิบัติการ Windows และ Linux สามารถเชื่อมต่อกับ IT services อื่น ๆ อย่างเช่น DNS, Active Directory, AI  และการมี Server บน Intelligence Cloud ที่รองรับได้มากขึ้น โอกาสที่เว็บจะล่มจึงน้อยลง

จุดเด่นที่ทำให้ Azure App Service ได้รับความนิยม คงหนีไม่พ้นฟังก์ชั่นที่ยืดหยุ่น ช่วยกำหนดสเปคให้เหมาะสมกับปริมาณการใช้งานได้ ทำให้สามารถปรับสเกลขยายการรองรับได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ แม้มีจำนวนผู้ใช้งานมากกว่าที่ได้คาดการณ์ไว้

อีกทั้งยังควบคุมการใช้งานได้ดีขึ้นผ่าน Dashboard ที่ใช้งานง่าย เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการมอนิเตอร์ และควบคุมค่าใช้จ่ายไม่ให้ปานปลายในภายหลัง

โดยไม่ต้องลงทุนสร้างเซิร์ฟเวอร์ใหม่ขึ้นมารองรับ  โดยระบบสามารถทำงานบน Data Center ของธุรกิจได้ ทำให้มั่นใจเรื่องความปลอดภัยและตอบโจทย์การใช้งาน ไม่ต้องกังวลปัญหาเว็บล่มอีกต่อไป

ไม่ใช่แค่ธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อมเท่านั้น นักพัฒนาโปรแกรมบางรายได้ทดลองนำ Azure App Service ไปพัฒนาให้ใช้งานร่วมกับแอปพลิเคชัน e-Commerce ได้โดยคิดค่าใช้จ่ายแบบรายเดือน ทำให้การใช้งาน App Service แพร่หลายมากขึ้น

ดาวน์โหลดมาทดลองใช้ฟรีได้ ส่วนค่าบริการเพิ่มเติม สามารถปรับแต่งให้เหมาะกับการใช้งานได้ในภายหลัง

รู้จักกับเครื่องมือสร้าง Wep App แบบมือโปร ที่ใครก็ทำได้>> https://www.facebook.com/MSFTTH/posts/1658370001194332

ต้องการรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://www.fusionsol.com/contact-us/

อ่านบทความอื่น ๆ ของ Techhub