หลังจากกระหน่ำเปิดตัว Zenfone 4 หลายรุ่นไปตั้้งแต่เดือนสิงหาคม หลายคนคงเห็นแล้วว่าทิศทางของการพัฒนาสมาร์ทโฟนของ ASUS หันมาเน้นกล้องคู่เป็นหลัก ภายใต้คอนเซปต์ “We Love Photo” น่าสนใจว่า ASUS ประเทศไทย จะนำทั้งหมดมาวางจำหน่ายในเลยหรือไม่ แต่ที่ชัดเจนและมาแบบเงียบๆ มีด้วยกันสองรุ่น หนึ่งในนั้นที่ aripfan จะมีรีวิวกัน นั่นคือ Asus Zenfone 4 Max Pro (ZC554KL)
สเปค Asus Zenfone 4 Max Pro (ZC554KL)
- หน้าจอ 5.5 นิ้ว ความละเอียด HD (1280 x 720 พิกเซล) 267 ppi
- ถาดซิมแบบ Triple-Slot Tray
- ระบบปฏิบัติการ Android 7.1.1 Nougat ครอบทับด้วย ZenUI
- ชิปประมวลผล Qualcomm Snapdragon 430 ประเภท Octa-core ความเร็ว 1.4GHz
- หน่วยประมวลผลกราฟิก Adreno 505
- แรม 3GB
- หน่วยความจำภายใน 32GB, รองรับ microSD Card ความจุสูงสุด 256GB
- กล้องหลังเลนส์คู่ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล + 5 ล้านพิกเซล (Ultra Wide), ค่ารูรับแสง f/2.0, แฟลช LED, ระบบโฟกัสภาพแบบ PDAF (Phase Detection Auto Focus), โหมด PixelMaster 4.0, รองรับการบันทึกวีดีโอที่ความละเอียดสูงสุด 1080p@30fps
- กล้องหน้าความละเอียด 16 ล้านพิกเซล, ค่ารูรับแสง f/2.0 พร้อมแฟลช LED
- รองรับสแกนลายนิ้วมือ
- พอร์ต microUSB 2.0, USB OTG
- การเชื่อมต่อ : Wi-Fi 802.11 b/g/n, Wi-Fi Direct, hotspot, Bluetooth 4.1, รองรับเครือข่ายสัญญาณทุกคลื่นในไทย
- แบตเตอรี่ความจุ 5000 mAh
- ราคา 7,990 บาท
อุปกรณ์ภายในกล่องประกอบไปด้วย หูฟัง, อะแดปเตอร์, สาย USB, dock และเคสใส
ดีไซน์
Asus Zenfone 4 Max Pro (ZC554KL) ตัวเครื่องใช้โลหะเป็นวัสดุหลัก ขึ้นรูปในลักษณะที่เรียกว่า Unibody เน้นความเรียบง่าย แฝงด้วยความหรูหรา พื้นผิวด้านหลังมีความมันวาว หากลองสัมผัสอาจรู้สึกได้ถึงความลื่นเล็กน้อย
หน้าจอ 5.5 นิ้ว เป็นประเภท IPS LCD ความละเอียดการแสดงผลอยู่ที่ HD (1280 x 720 พิกเซล) เหนือจากหน้าจอจะเป็นลำโพงสำหรับสนทนา ถัดไปเป็นกล้องหน้าความละเอียด 16 ล้านพิกเซล พร้อมแฟลช LED ส่วนท้ายจากหน้าจอจะเป็นปุ่มโฮมคอยทำหน้าที่ย้อนกลับมาสู่หน้าโฮม และเป็นสแกนลายนิ้วมือในตัว ด้านซ้ายกับด้านขวาจะเป็นปุ่ม back กับ Recent app ไม่มีไฟในตัว
พอร์ตที่ใช้ในสมาร์ทโฟน ASUS รุ่นนี้ ยังเป็น microUSB 2.0 ซึ่งจะมีลำโพงคู่อยู่ติดกับพอร์ต
ตำแหน่งตัวเครื่องด้านขวาจะเป็นที่อยู่ของปุ่มเพิ่ม-ลดเสียง กับปุ่มเปิด-ปิดเครื่อง ส่วนตัวเครื่องด้านซ้ายเป็นถาดใส่ซิมประเภท Triple-Slot Tray หมายความว่า ผู้ใช้สามารถใส่ซิม nano ได้พร้อมกัน 2 ซิม และบวกเพิ่มด้วย microSD Card ได้ทันที ไม่ต้องแบ่งแบบรักพี่เสียดายน้องอีกต่อไป และในรุ่นนี้ยังมีช่องต่อหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตร ให้ต่อหูฟังที่คุณชื่นชอบได้อีกเช่นเคย
ซอฟต์แวร์
ภายใน Asus Zenfone 4 Max Pro (ZC554KL) ใช้ระบบปฏิบัติการ Android 7.1.1 Nougat ครอบทับด้วย ZenUI
PowerMaster เมนูบริหารจัดการทรัพยากรภายในเครื่อง เพื่อให้เครื่องมีความพร้อมใช้งานอย่างสม่ำเสมอ
เจสเจอร์สัมผัส : เป็นเมนูที่ให้ผู้ใช้สามารถสั่งงานผ่านการสัมผัสในรูปแบบต่างๆ เพื่อเรียกใช้แอพที่้ต้องการ
การเล่นเกม
คงเป็นคำถามลำดับต้นๆ สำหรับคนที่เล็งสมาร์ทโฟนรุ่นนี้จาก ASUS ว่าใช้เล่น ROV ได้ไหม คำตอบของแอดมิน คือ “เล่นได้ครับ” แต่ประสิทธิภาพหรือความลื่นอยู่ในระดับกลางๆ ครับ ไม่ได้แย่หรือดีเวอร์ เนื่องด้วยปัจจัยของชิปประมวลผลและหน่วยประมวลผลกราฟิกนั้นไม่ได้เป็นตัวท็อป
แบตเตอรี่
ถัดจากเรื่องของเล่นเกม คำถามที่ถูกถามกันมาก คือ แบตเตอรี่ คนเล่นเกมส่วนใหญ่คงกังวลว่าการเล่น ROV จะทำให้แบตเตอรี่หมดเร็วรึเปล่า ซึ่งภายใน Asus Zenfone 4 Max Pro (ZC554KL) อัดแบตเตอรี่มาให้ถึง 5000 mAh พร้อมการจัดสรรพลังงานของระบบปฏิบัติการ Android Nougat ที่ผสานกับตัวฮาร์ดแวร์ ทำให้การใช้งานในทุกรูปแบบเป็นไปอย่างต่อเนื่องใน 1 วันครับ
การถ่ายภาพ
หากพูดถึงจุดเด่นของ Asus Zenfone 4 Max Pro (ZC554KL) อยู่ตรงไหน แอดมินกล้าบอกได้ครับว่า อยู่ที่กล้องเนี่ยล่ะ ! เริ่มกันที่กล้องหลังเลนส์คู่ ตามสเปคบอกว่า 16 ล้านพิกเซล + 5 ล้านพิกเซล (Ultra Wide), ค่ารูรับแสง f/2.0, แฟลช LED, ระบบโฟกัสภาพแบบ PDAF (Phase Detection Auto Focus), โหมด PixelMaster 4.0, รองรับการบันทึกวีดีโอที่ความละเอียดสูงสุด 1080p@30fps
บางส่วนของโหมดถ่ายภาพจากกล้องหลัง
ซึ่ง Ultra Wide ของเลนส์กล้องตัวที่สองสามารถถ่ายภาพได้ในมุมกว้างถึง 120 องศา ซึ่งใครที่อยากถ่ายภาพแบบ landscape สามารถเลือกเมนูได้ทันทีเมื่อเปิดกล้องครับ โดยในหน้ากล้องจะเห็นว่ามีปุ่มให้ด้านบนอยู่สองปุ่ม ปุ่มแรกจะเป็นการใช้กล้องตัวแรกมที่้จะให้ภาพในลักษณะปกติ ในสัดส่วน 4 : 3 แต่หากเรากดอีกปุ่มหนึ่งระบบจะเปลี่ยนมาใช้เลนส์ Ultra Wide ให้อัตโนมัติ ทำให้เราเห็นภาพในมุมกว้างถึง 120 องศา นับเป็นเรื่องดีสำหรับคนที่ชอบถ่ายภาพแบบ landscape ครับ
ตามที่ลูกศรสีแดงชี้ เป็นปุ่มสำหรับเลือกใช้ Ultra Wide เพื่อการถ่ายในมุมกว้าง 120 องศา
กล้องหน้าให้ความละเอียดมาที่ 16 ล้านพิกเซล, ค่ารูรับแสง f/2.0 พร้อมแฟลช LED มีโหมด Beauty มาให้ด้วย สำหรับใครที่อยากพึ่งการตกแต่งใบหน้าให้สวยใสเรียบเนียนแบบอัตโนมัติ พร้อมกันนี้ใครในกรณีที่ต้องการเซลฟี่แบบกลุ่มหลายๆ คน ก็ยังมีโหมด Selfie Panorama ที่ให้มุมกว้างสูงสุด 140 องศา มาเป็นตัวเลือกเพื่อใช้งานอีกด้วย
ตัวอย่างภาพถ่าย
ภาพถ่ายแบบ 4:3
ภาพถ่ายด้วย Ultra Wide ให้ภาพมุมกว้าง 120 องศา
ภาพถ่ายแบบ 4:3
ภาพถ่ายด้วย Ultra Wide ให้ภาพมุมกว้าง 120 องศา
ภาพถ่ายแบบ 4:3
ภาพถ่ายด้วย Ultra Wide ให้ภาพมุมกว้าง 120 องศา
บทสรุปสำหรับ Asus Zenfone 4 Max Pro Review
งานออกแบบของสมาร์ทโฟนรุ่นนี้ของ ASUS ทำออกมาได้ค่อนข้างดีเลยครับ น้ำหนักอาจจะมากไปเล็กน้อยเมื่อเทียบกับสมาร์ทโฟนบางรุ่นในขนาดและระดับราคาใกล้เคียงกัน ลูกเล่นภายในระบบไม่ได้มีสิ่งใดหวือหวา ซึ่งจุดเด่นจริงๆ ถูกรวมไว้ที่กล้องหลังเลนส์คู่ เป็นตัวเลือกที่เหมาะกับผู้ใช้ที่ต้องการสมาร์ทโฟนที่สามารถถ่ายภาพวิวทิวทัศน์หรือภาพในแบบ landscape โดยไม่ต้องตั้งค่าใดๆ ให้ยุ่งยาก ขณะที่แบตเตอรี่ 5000 mAh ยืนยาวได้ใน 1 วัน หายห่วงครับ
Asus Zenfone 4 Max Pro (ZC554KL) กำหนดราคาวางจำหน่ายในเมืองไทยอยู่ที่ 7,990 บาท ตัวเครื่องมีให้เลือก 3 สี ได้แก่ สีดำ (Deepsea Black), สีทอง (Sunlight Gold) และสีชมพู (Rose Pink)