บริษัท เอซุส (ประเทศไทย) จำกัด เปิดตัว VivoBook S14/S15 (S431/S531) โน้ตบุ๊กพกพาขนาด 14 และ 15 นิ้วตามลำดับ มาพร้อมสีสันโดนใจวัยรุ่น 5 สีสะท้อนตัวตนคนรุ่นใหม่ที่มีไลฟ์สไตล์ไม่หยุดนิ่ง โดดเด่นด้วยดีไซน์ใหม่สะดุดตาที่มาพร้อมนวัตกรรม Ergolift (คีย์บอร์ดยกทำมุม) เพื่อการพิมพ์งานที่สะดวกยิ่งขึ้น
VivoBook S14/S15 ยังนำเสนอนวัตกรรมขอบจอบางทั้งสี่ด้าน (4-sided NanoEdge Display) ยกระดับประสบการณ์การใช้งานที่เต็มตามากขึ้นด้วยสัดส่วนอัตราหน้าจอต่อเครื่องมากถึง 88% มาพร้อม ซีพียูสูงสุด 8th Generation Intel® Core™ i7 และการ์ดจอ NVIDIA® GeForce MX250 พร้อมหน่วยความจำสูงสุด 1TB PCle SSD (RAM)โดย S14/S15 เป็นโน้ตบุ๊กรุ่นแรกในตระกูล VivoBook ที่นำเสนอกล้องอินฟาเรด (IR)
เอซุสยังเปิดตัว VivoBook S14/S15 พร้อมกันถึง 5 สีสุดชิคให้แฟนๆได้เลือกตามความชอบ ได้แก่ Moss Green, Punk Pink, Cobalt Blue, Transparent Silver และ Gun Metal ทั้งนี้ยังนับเป็นครั้งแรกของโน้ตบุ๊กตระกูล VivoBook ที่เพิ่มโลโก้ VivoBook บนฝาหน้า พร้อมการออกแบบใหม่ของช่องระบายอากาศและลำโพงด้านล่างตัวเครื่อง ตัวเครื่องที่มาพร้อมขอบจอบางทั้งสี่ด้านยังช่วยให้ตัวเครื่องมีขนาดกะทัดรัด ด้วยน้ำหนักเพียง 1.4 กิโลกรัม และ 1.8 กิโลกรัมตามลำดับ ผู้ใช้สามารถเก็บใส่กระเป๋าทำงานหรือกระเป๋าเป้ สะดวกสบายต่อการพกพาใช้งานนอกบ้าน
ฟีเจอร์เด่นอย่างนวัตกรรมขอบจอบางทั้งสี่ด้าน (4-sided NanoEdge Display) เพียง 5.2 มม. ช่วยเพิ่มสัดส่วนอัตราหน้าจอต่อเครื่องกว่า 88% ทำให้ผู้ใช้เพลิดเพลินกับการใช้งานได้เต็มตามากขึ้น ทั้งยังมาพร้อมนวัตกรรม ErgoLift การออกแบบฝาพับช่วยยกตัวเครื่องให้สูงขึ้น 3.5 องศา ช่วยให้ใช้งานคีย์บอร์ดได้สะดวกยิ่งขึ้น
VivoBook S14/S15 มาพร้อม Intel-powered Wi‑Fi 5 (802.11ac) ที่จะช่วยให้การใช้งานอินเทอร์เน็ตรวดเร็วขึ้นรุ่นกว่าหน้า นอกจากนี้ยังมาพร้อมกล้อง IR ล๊อกอินด้วยใบหน้า ทำงานอย่างแม่นยำร่วมกับ Windows Hello ผู้ใช้งานสามารถเริ่มต้นการใช้งานได้อย่างง่ายดายเพียงใช้ใบหน้าในการปลดล๊อกเข้าสู่ระบบ และยังมาพร้อมลำโพงรับรองโดยแบรนด์ Harman Kardon ให้คุณภาพเสียงครบทุกรายละเอียด
VivoBook S15 เริ่มวางจำหน่ายแล้วตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป และ VivoBook S14 จะเริ่มวางขายตั้งแต่กลางเดือนกรกฏาคมเป็นต้นไป ในราคาเริ่มต้นที่ 24,990 บาท ณ ร้านไอทีชั้นนำทั่วประเทศ ติดตามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://www.facebook.com/ASUSTHAILAND