ASUS Republic of Gamers ประกาศเปิดตัว Rampage V Edition 10 มาเธอร์บอร์ดรุ่นเรือธงพิเศษของทาง ASUS ซึ่งผลิตขึ้นเป็นพิเศษเพื่อฉลองครบรอง 10 ปีของ ROG โดยมาเธอร์บอร์ดรุ่นนี้ได้รับการพัฒนาขึ้นมาเพื่อให้ชาวเกมเมอร์และนักโอเวอร์คล๊อกสามารถทำลายทุกๆขีดจำกัด
Rampage V Edition 10 ได้ทำลาย 3 สถิติโลกและเป็นอันดับที่ 1 ใน 14 การทดสอบด้วยโปรแกรม Benchmark ทั้งแบบ 2D และ 3D ด้วยชิพเซ็ต Intel® X99 สำหรับโปรเซสเซอร์ Intel Core™ i7 รุ่นใหม่ที่มีซ็อคเก็ตแบบ LGA 2011-v3, Rampage V Edition 10 ได้สร้างมาตรฐานใหม่ให้กับอุตสาหกรรมนี้ ขุมกำลังใหม่ล่าสุดของ ROG นั้นมีคุณสมบัติใหม่อันน่าทึ่งมากมาย อาทิ เช่น ระบบแสงไฟ Aura RGB – ที่มาพร้อมกับส่วนควบคุม LED อิสระแบบออนบอร์ด ทั้งห้าจุด (five independently-controlled onboard areas)และหนึ่งหัวต่อไฟ RGB แบบ 4 พิน สำหรับแถบไฟ RGB ที่ต่อเพิ่มเติม
Rampage V Edition 10 ยังได้รับการติดตั้งเทคโนโลยีพิเศษต่างๆมากมายเพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่นักโอเวอร์คล๊อกมืออาชีพและชาวเกมเมอร์ระดับฮาร์ดคอร์ ซึ่งประกอบด้วย Extreme Engine Digi+ โมดูลควบคุมแรงดันไฟฟ้า (VRM) สำหรับการจ่ายไฟที่ราบรื่นและสมบูรณ์ที่สุด, เทคโนโลยี ASUS T-Topology รุ่นสอง สำหรับการเพิ่มประสิทธิภาพขั้นสูงสุดของ DDR4 และ 5-Way Optimization สำหรับการโอเวอร์คล๊อกที่ง่ายและมีความเสถียร ด้วยการคลิ๊กเพียงครั้งเดียว และ FanXpert4 สำหรับการระบายความร้อนขั้นสุดยอด
Rampage V Edition 10 อัดแน่นไปด้วยเทคโนโลยีมากมายที่ช่วยส่งมอบประสบการณ์การเล่นเกมที่ดีที่สุดให้แก่คุณ ระบบเสียง SupremeFX Hi-Fi ภายนอก เพื่อเสียงที่สมบูรณ์แบบไร้ที่ติ, Intel Gigabit Ethernet แบบคู่ (dual Intel Gigabit Ethernet) และ GameFirst ทำงานควบคู่กันเพื่อการเชื่อมต่อเน็ตเวิร์คที่ราบรื่น, ASUS SafeSlot ที่ได้รับการพัฒนาขึ้นมาใหม่, สล็อตแบบ PCI Express® ที่เพิ่มความแข็งแรงด้วยวิธี insert-molding tech – เพื่อป้องกันกราฟิกการ์ดของคุณ มาเธอร์บอร์ดใหม่นี้ยังได้ติดตั้ง แผง I/O แบบ pre-mounted ที่เป็นสิทธิบัตรเฉพาะ (patent-pending pre-mounted I/O shield) เพื่อรูปแบบอันเป็นเอกลักษณ์, การติดตั้งที่ง่ายกว่าเดิม และความทนทานที่มากยิ่งขึ้น
Rampage V Edition 10 ยังเพิ่มความเร็วในทุกๆการส่งผ่านข้อมูล ด้วยการเชื่อมต่อแบบพิเศษที่ติดตั้งอยู่บนมาเธอร์บอร์ด ซึ่งประกอบด้วย U.2, M.2, USB 3.1 และ 3×3 802.11ac Wi-Fi
ประสิทธิภาพที่ทำลายสถิติโลก: สามสถิติใหม่ของโลกและเป็นอันดับหนึ่งใน14การทดสอบระดับโลก (14 global first places.)
ซึ่งพิสูจน์ให้เห็นถึงประสิทธิภาพที่ไร้คู่แข่ง, ROG Rampage V Edition 10 ได้สร้างสถิติโลกใหม่ถึงสามอย่างและเป็นอันดับหนึ่งใน14การทดสอบระดับโลก ด้วยโปรแกรมBenchmark ทั้งแบบ 2D และ 3D ขุมพลังประสิทธิภาพใหม่ของ ROG สามารถเร่งความเร็วซีพียู Intel Core i7-6950X ขึ้นสู่ระดับที่สูงที่สุด โดยมีความถี่อยู่ที่ 5726.84 MHz รายละเอียดของคะแนนในทุกโปรแกรมBenchmark จะแสดงในตารางด้านล่าง
เพื่อการเล่นเกมและโอเวอร์คล๊อกที่ดีที่สุด: 5-Way Optimization, FanXpert4, Extreme Engine Digi+ และ T-Topology
ด้วย 5-Way Optimization, Rampage V Edition 10 จึงสามารถจัดการการปรับแต่งที่ยุ่งยากทั้งหมดได้ภายในคลิ๊กเดียว, ในทันที, เร่งประสิทธิภาพในการทำงานที่ควบคุมได้ขั้นสูง (highly-controllable performance boosts) และเทคโนโลยีพิเศษของ ROG ยังสามารถเพิ่มประสิทธิภาพแบบไดนามิคที่สำคัญให้กับคอมพิวเตอร์ของคุณตามการใช้งานแบบเรียลไทม์, เพื่อประสิทธิภาพอันสุดยอดของ CPU, ประหยัดพลังงาน, การจ่ายไฟแบบดิจิตอลอย่างมีเสถียรภาพ, ระบบพัดลมที่เย็นและเงียบ แม้กระทั้งระบบเน็ตเวิร์คและการตั้งค่าระบบเสียงก็จะถูกปรับแต่งให้เหมาะกับแอพลิเคชั่นที่คุณชื่นชอบ
เทคโนโลยีระบบควบคุมพัดลมและปั๊มน้ำขั้นสูง, Rampage V Edition 10 ยังได้รับการปรับแต่งให้สามารถส่งมอบประสิทธิภาพอันสุดยอด – ซึ่งทั้งหมดสามารถควบคุมได้อย่างง่ายได้ผ่านทาง FanXpert4 ด้วยเซ็นเซอร์อุณหภูมิที่ติดตั้งบนมาเธอร์บอร์ดและฮาร์ดแวร์แบบ 4 พิน /3 พิน PWM/DC โหมดตรวจสอบ (hardware-level 4-pin/3-pin PWM/DC mode detection), FanXpert4 จึงสามารถให้สมดุลที่ดีที่สุดระหว่างประสิทธิภาพในการระบายความร้อนระดับสูงโดยมีเสียงรบกวนที่ต่ำ
Rampage V Edition 10 ยังติดตั้งหัวต่อของปั๊มน้ำแบบเฉพาะ (dedicated water-pump header) บนมาเธอร์บอร์ด เพื่อประสิทธิภาพในการระบายความร้อนที่ดีที่สุด และยังรองรับพัดลมที่ต้องการกระแสไฟสูง (High-amp fan) โดยสามารถจ่ายไฟได้สูงถึง 3 แอมป์ – เพื่อความยืดหยุ่นในการระบายความร้อนที่ดีที่สุดสำหรับการโอเวอร์คล๊อกอย่างเต็มพิกัดหรือการระบายความร้อนด้วยน้ำ แผงควบคุมของ Turbo Core App ทำให้กระบวนการปรับแต่งและการเร่งประสิทธิภาพฮาร์ดแวร์ต่างๆเป็นเรื่องที่ไม่ยุ่งยาก, จึงเป็นเรื่องง่ายสำหรับชาวเกมเมอร์ที่จะได้รับความสนุกสนานในการเล่นเกมมากที่สุดและโอเวอร์คล๊อกได้อย่างดีที่สุด
Rampage V Edition 10 ได้รับการติดตั้ง Extreme Engine Digi+, ระบบควบคุมไฟแบบดิจิตอลของ ROG ซึ่งประกอบด้วย ตัวควบคุม PWM แบบ custom designed, PowlRstage® IR3555 MOSFET จาก Infineon, โช้คอัลลอย MicroFine และ ตัวเก็บปะจุแบบ 10K black-metallic เพื่อการจ่ายแรงดันไฟฟ้าหลักที่ราบรื่นที่สุดและเที่ยงตรงที่สุด
ASUS T-Topology รุ่นที่สอง ทำให้การโอเวอร์คล๊อกหน่วยความจำ DDR4 มีประสิทธิภาพที่ดีกว่าเดิม รูปแบบที่กำหนดขึ้นมา (A customized trace layout) จะช่วยลดสัญญาณแทรกข้ามวงจรและและเสียงรบกวน ทำให้มั่นใจถึงการส่งผ่านสัญญาณที่สอดคล้องกัน เพื่อเสถียรภาพและการทำงานรวมกันของหน่วยความจำที่ดียิ่งขึ้น
ความสวยงามและความแข็งแกร่ง: ระบบแสงไฟ Aura RGB LED และ หัวต่อแถบไฟ RGB (strip header), แผง I/O แบบ pre- mounted (pre-mounted I/O shield) และ SafeSlot
Rampage V Edition 10 มีการติดตั้งโปรแกรมจัดการระบบแสงไฟ Aura เพื่อใช้ควบคุมไฟ RGB LED บนบอร์ดและแถบไฟLEDที่ติดตั้งเพิ่มเติม ซอฟท์แวร์ Aura สามารถแสดงถึงอิสระในความคิดสร้างสรรค์ด้วยรูปแบบแสงสีที่แตกต่างกันถึงเก้าแบบ และคุณสามารถนำเอฟเฟคแสงไฟของคุณไปใช้ร่วมกับอุปกรณ์อื่นที่รองรับการทำงานของ Auraได้
ด้วยหัวต่อแถบไฟ Aura RGB ที่ติดตั้งอยู่บนบอร์ด (Aura RGB-strip header), Rampage V Edition 10 จะทำให้ผู้ที่ชื่นชอบในการตกแต่งชุดอุปกรณ์ลืมความยุ่งยากในระบบควบคุมไฟ RGB LED แบบต่อแยกภายนอกไปเลย และเพื่อให้มั่นใจถึงการทำงานร่วมกันได้อย่างดีที่สุด ROG ได้ร่วมงานกับบริษัทผู้ผลิตแถบไฟ RGB LED และบริษัทผู้ผลิตเคสที่มีชื่อเสียงมากมาย อาทิเช่น CableMod, IN WIN, DEEPCOOL, NZXT, BitFenix, Phanteks – เพื่อให้ชาวเกมเมอร์สามารถตกแต่งชุดอุปกรณ์ด้วยแสงจาก RGB LED ได้อย่างง่ายดาย ภายใต้สัญลักษณ์ Aura Ready
Rampage V Edition 10 ยังมาพร้อมกับแผง I/O แบบสแตนเลสสตีล ที่ใช้งานง่ายและมีการป้องกันที่แข็งแรง แผงI/Oแบบใหม่นี้ไม่เพียงแต่มีจุดเด่นด้านการใช้งาน: การคิดค้นอันเป็นสิทธิบัตรเฉพาะของทาง ASUS นี้ ยังช่วยยกระดับความสวยงามของ Rampage V Edition 10 และทำให้การประกอบคอมพิวเตอร์ง่ายขึ้นกว่าเดิม
ความสวยงามที่มาพร้อมกับความแข็งแรง ในรูปแบบของ SafeSlot – สล๊อตแบบ PCIe® ได้รับการคิดค้นโดย ASUS และได้รับการออกแบบมาให้มีความทนทานต่อแรงกดและแรงเฉือนที่ดีมากขึ้น ผลิตในขั้นตอนเดียวด้วยกระบวนการติดตั้งชิ้นส่วนแบบใหม่ (insert-molding process) โดยติดสล๊อต (slot) เข้ากับโลหะเสริมความแข็งแรงเพื่อให้สล๊อตแข็งแรงมากขึ้น, SafeSlot ยึดแน่นหนาลงบนมาเธอร์บอร์ดด้วยจุดเชื่อมพิเศษ
ระบบเสียง, เน็ตเวิร์คและภาพที่ดีที่สุด: SupremeFX Hi-Fi, Intel Gigabit LAN แบบคู่ (dual Intel Gigabit LAN) และรองรับ 4-Way SLI
Rampage V Edition 10 มาพร้อมกับ SupremeFX Hi-Fi, แอมป์สำหรับชุดหูฟังแผงด้านหน้า (a front-panel hedphone amp) ที่ให้เสียงที่เที่ยงตรงตามต้นฉบับในสตูดิโอ – เสียงที่ใสและบริสุทธิ์จะส่งตรงไปยังหูของผู้ฟังด้วยตัวแปลงสัญญาณดิจิตอลเป็นอนาล็อก (DAC) ESS®ES9018K2M, ออปแอมป์คู่ (dual op-amp) Texas Instrument LM4562 และแอมป์หูฟัง (headphone amp) TPA6120A2 จะทำงานประสานกันอย่างกลมกลืน เพื่อถ่ายทอดทุกรายละเอียดเสียงอย่างเที่ยงตรง ปราศจากความผิดเพี้ยนและเสียงรบกวน ซึ่งผลลัพธ์ที่ได้ คือ คุณภาพเสียงระดับ 32-bit/386kHz และมีสัญญาณส่งออกมากกว่า 6 VRMS และค่าความต้านทานได้สูงสุดถึง 600 โอห์ม
SupremeFX Hi-Fi มีตัวแปลงสัญญาณอนาล๊อกเป็นดิจิตอล (ADC) Cirrus Logic เพื่อคุณภาพในการบันทึกเสียงที่ยอดเยี่ยม และ เพื่อชัยชนะในการเล่นเกม Sonic Radar II จะแสดงแผนที่เสียงในสมรภูมิรบเพื่อช่วยให้ผู้เล่นสามารถรับรู้ถึงตำแหน่งของคู่แข่งและเพื่อนร่วมทีมในทันที
Rampage V Edition 10 ได้ติดตั้งระบบควบคุม Intel Ethernet แบบคู่ (dual Intel Ethernet) รุ่นล่าสุด (I219-V และ I211-AT) เพื่อการเล่นเกมที่ราบรื่นและรวดเร็วกว่าเดิม ระบบLAN ของ Intel นั้นมีข้อดีอันโดดเด่นเป็นสองเท่า คือ ลดการทำงาน (overhead) ของซีพียู และ มีการส่งผ่านข้อมูลของ TCP และ UDP ที่ยอดเยี่ยม ดังนั้นจึงมีพลังงานในการประมวลผลที่มากขึ้นสำหรับเกมของคุณ
นอกจากนี้ มาเธอร์บอร์ดรุ่นใหม่นี้ยังเปิดโอกาสให้ชาวเกมเมอร์ปลดปล่อยขุมกำลังอย่างเต็มรูปแบบของการใช้กราฟิกการ์ดหลายตัว เพื่อการแสดงผลภาพที่ลื่นไหล และมีพื้นที่ช่องว่างระหว่างการ์ดแต่ละตัวที่เหมาะสม สวิตซ์ที่ติดตั้งบนบอร์ดจะช่วยให้นัก DIY สามารถเลือกเปิดหรือปิดการใช้งานกราฟิกการ์ดในขณะทำการ SLI® หรือ CrossfireX™
การเชื่อมต่อแบบ Next-Gen ที่ดีที่สุด: 3×3 802.11ac Wi-Fi, NVMe U.2, M.2, SATA และ USB 3.1
Rampage V Edition 10 จะช่วยเร่งความเร็วในทุกการเชื่อมต่อ ด้วย 802.11ac Wi-Fi แบบ 3×3 dual-band 2.4/5GHz ที่มีความเร็วในการส่งข้อมูลสูงสุดที่ 1300 Mbps นอกจากนี้ยังมี ตัวเชื่อมต่อ NVM Express (NVMe) U.2 และ M.2 รุ่นล่าสุด เพื่อการใช้งานร่วมกับอุปกรณ์เก็บข้อมูลรุ่นล่าสุด ที่สามารถเสียบและใช้งานได้ในทันทีโดยมีความเร็วในการส่งข้อมูลสูงสุดที่ 32 Gbps
ด้วยพอร์ต USB 3.1 Type-A จำนวนสองพอร์ต และ USB 3.1 Type-C จำนวนสองพอร์ต ทำให้ Rampage V Edition 10 สามารถรองรับการใช้งานร่วมอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อด้วยUSBทั้งหมดที่มีอยู่ในขณะนี้ และมีความสะดวกสบายในการใช้งานด้วย USB 3.1 Type-C ที่เชื่อมต่อในทิศทางใดก็ได้ – และด้วย USB 3.1 Boost ซึ่งเป็นเทคโนโลยีพิเศษของทางASUS จะทำให้คุณสามารถเร่งประสิทธิภาพทำงานของ USB 3.1 ให้ได้ดียิ่งขึ้น
Rampage V Edition 10 ยังได้ติดตั้งซ็อคเก็ต SATA บนบอร์ดจำนวน 10 จุด เพื่อครอบคลุมการเก็บข้อมูลที่เพิ่มมากขึ้น
การวางจำหน่าย
ASUS Rampage V Edition 10 พร้อมวางจำหน่ายในประเทศไทยต้นเดือน กรกฎาคม 2559