ปกติแล้ว การเผาศพจะต้องใช้ความร้อนสูง ซึ่งนั่นจะเกิดเป็นมลพิษที่ปล่อยสู่ชั้นบรรยากาศ
ที่ต่างประเทศ บริษัท Bio-Response Solutions ได้คิดค้นอุปกรณ์ชื่อว่า Aquamation ขึ้นมา เพื่อเปลี่ยนวิธีการเผาศพ ไปใช้สารละลายด่างที่ให้ความร้อนเพื่อย่อยสลายร่างกายแทน โดยเหลือไว้เพียงโครงกระดูกเพื่อนำไปทำพิธีทางศาสนาต่อ
ในระหว่างกระบวนการนี้ ร่างกายจะถูกวางไว้ในภาชนะอัดความดัน ในภาชนะจะมีของเหลวคือน้ำและโพแทสเซียมไฮดรอกไซด์ หรือเรียกอีกอย่างว่าโซดาไฟ สารละลายนี้จะให้ความร้อนประมาณ 90 – 150°C ในภาชนะที่มีแรงดัน
เมื่อความดันในภาชนะเพิ่มขึ้น สารละลายจะค่อยๆ สลายสารอินทรีย์ หรือก็คือจะย่อยสลายศพไปเรื่อย ๆ โดยอาจใช้เวลาหลายชั่วโมง กระบวนการนี้จะทำให้ทุกอย่างกลายเป็นของเหลว ยกเว้นกระดูก
จากนั้น กระดูกจะถูกนำไปเข้าเตาอบจนกลายเป็นฝุ่นสีขาว นำใส่ในโกศและมอบให้กับญาติผู้เสียชีวิต
ตามข้อมูลบริษัท กระบวนการนี้ “ใช้พลังงานน้อยกว่าการเผาด้วยไฟถึง 90 เปอร์เซ็นต์ และไม่ปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่เป็นอันตรายใด ๆ
นอกจากนี้ ของเหลวที่เหลือไว้จากกระบวนการย่อยสลายสารอินทรีย์ จะเป็นแร่ธาตุต่าง ๆ เช่น เกลือและกรดอะมิโน สามารถใช้ทำเป็นปุ๋ยหรือทำให้สารละลายเป็นกลาง เพื่อปล่อยลงสู่แหล่งน้ำได้อย่างปลอดภัย…
จริง ๆ แล้วในบ้านเราส่วนใหญ่ ก็ไม่ได้มีบริษัทที่ทำเรื่องนี้อย่างจรังจังเนอะ เพราะส่วนใหญ่ก็จะไปจบที่วัด แม้จะมีการควบคุมมลพิษ แต่ก็ยังมีการปล่อยมลพิษออกมา ถ้าวัดเปลี่ยนไปใช้แบบนี้ได้ อากาศในบ้านเราคงจะสะอาดมากขึ้นครับ
.
ที่มาข้อมูล
interestingengineering