การเปิดเผยผลประกอบการไตรมาสล่าสุด ตามงบการเงินของบริษัท Apple ต้องเผชิญสถานการณ์ด้านยอดขาย iPhone ที่แม้จะตัวเลขเพิ่มขึ้น แต่กลับเป็นอัตราการเติบโตที่เพิ่มน้อยลง นับตั้งแต่การเปิดตัวครั้งแรกเมื่อปี 2007
ช่วงสามเดือนสุดท้ายของปี 2015 ซึ่งตรงกับไตรมาสแรก ตามงบการเงินของบริษัท Apple สามารถสร้างรายได้ไปถึง 75.9 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ แบ่งเป็นกำไรสุทธิอยู่ที่ 18.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ นับเป็นสถิติใหม่อีกครั้งของ Apple ที่มีรายได้เติบโตต่อเนื่องเมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา โดยยอดขายอุปกรณ์ส่วนใหญ่ แชมป์ยังตกเป็นของ iPhone ที่ขายได้ถึง 74.78 ล้านเครื่อง สร้างกำไรถึง 51.64 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งตัวเลขดังกล่าวเมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา แม้จะมียอดขายที่เติบโต แต่ก็มีสัดส่วนเพียงเล็กน้อยเท่านั้น คิดเป็น 0.42% นับว่าเติบโตเพิ่มขึ้นน้อยที่สุดตั้งแต่เปิดตัว iPhone รุ่นแรก เมื่อปี 2007
ส่วน iPad มียอดขายลดลงต่อเนื่อง ซึ่งไตรมาสล่าสุดขายได้เพียง 16.12 ล้านเครื่อง ลดลงจากเดิมในช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมาถึง 24.74% ขณะที่ Macs มียอดขายลดลงเล็กน้อย ไตรมาสล่าสุดขายได้ 5.31 เครื่อง ลดลง 3.8 % ขณะที่อุปกรณ์อื่นๆ ของ Apple ไม่ว่าจะเป็น Apple Watch และ Apple TV ในภาพรวมมีการเติบโตมากกว่าปีที่ผ่านมาถึง 62% คิดเป็นรายได้อยู่ที่ประมาณ 4.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
ด้วยตัวเลขที่ปรากฏออกมา Tim Cook ได้ออกมายอมรับกับสื่อต่างประเทศว่า สถานการณ์เศรษฐกิจโลกค่อนข้างส่งผลต่อ Apple โดยเฉพาะตลาดในประเทศจีนและฮ่องกงที่ชะลอตัว นอกจากนี้ยังรวมไปถึงประเทศบราซิล, รัสเซีย, ญี่ปุ่น และแคนาดา ที่ต่างประสบปัญหาเศรษฐกิจเช่นกัน แต่ Tim Cook ให้ความมั่นใจว่า Apple มีแผนที่จะลงทุนต่อเนื่องในประเทศจีน รวมทั้งอินเดีย เพื่อกระตุ้นยอดขาย ซึ่งหนึ่งในแผนการอาจเป็นการเปิด Apple Store เป็นต้น
อ้างอิงจาก The Verge และ Mashable
