Apple ได้ริเริ่มแนวคิด การใช้โทรศัพท์แทนกระเป๋าสตางค์ หรือที่เรียกว่า “Apple Pay” โดยเทคโนโลยี NFC เป็นหลัก ที่ติดมากับ Iphone 6 รวมทั้ง Apple Watch ด้วย เพื่อสร้างความปลอดภัยสำหรับการใช้จ่ายมากยิ่งขึ้น
จบกันไปเรียบร้อยแล้ว กับงานเปิดตัวสุดฮือฮาเมื่อคืนวานที่ผ่านมา “Wish we could say more” จากทาง Apple ซึ่งก็ได้มีการเปิดตัวอุปกรณ์ใหม่ๆ ทั้ง iphone 6/6 plus และ Apple Watch จนสำนักข่าวหลายๆเจ้า พากันลงข่าวนี้กันอย่างอุตลุดทีเดียว มาในส่วนนี้จะขอพูดถึงระบบใหม่จากทางแอปเปิลบ้าง ซึ่งถือเป็นครั้งแรกเลยที่ทางแอปเปิล ได้นำเอาเทคโนโลยี “NFC” มาใช้งานจนได้ จากที่มีการปฏิเสธมานาน ซึ่งครั้งนี้ได้นำมาใช้งานในส่วนของระบบตัวใหม่ที่เรียกว่า Apple Pay หรือ ระบบชำระเงินผ่าน Iphone นั้นเอง รายละเอียดเป็นอย่างไรนั้น ไปดูกันได้
รายละเอียดของตัว Apple Pay นั้น การทำงานหลักๆ ก็จะมีการใช้ตัวเซ็นเซอร์แถบด้านบนของไอโฟน สำหรับการสแกน โดยจะมีเครดิตการ์ดของแต่ละคน แสดงอยู่บน Passbook (บริการตั๋วดิจิตอลของไอโฟน) ตามภาพข้างบน สำหรับวิธีการเพิ่มบัตรเครดิตเข้าไปนั้นก็ทำได้โดยการใช้บัตรเครดิตที่ใช้กับ Apple ID หรือ ถ่ายรูปหน้าบัตรเครดิตเลยก็ยังได้ (เวลาถ่ายคงต้องเล็งดีๆหน่อย) ก่อนจ่ายเราต้องแตะนิ้วไปที่ Touch ID ก่อน และมีเงื่อนไขว่า ที่ร้านจะต้องมีเครื่องสแกนแถบ NFC ด้วย (ถ้าร้านข้าวเหนียวหมูปิ้งหน้าปากซอยมีเครื่องนี้ คงจะดีไม่น้อย) ซึ่งทั้งนี้เรายังสามารถใช้ Apple Watch แตะที่เครื่อง NFC ของที่ร้านเพื่อชำระเงินได้เช่นกัน และเห็นมีข่าวมาว่า ระบบนี้สามารถใช้ร่วมกับบาง App ได้ เช่น OpenTable, Groupon and Target
สำหรับในเรื่องของความปลอดภัยนั้น ทางแอปเปิลได้ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้เป็นอย่างมาก(หลังจากบอบช้ำอย่างหนักจากกรณีของ iCloud) ถึงขนาดการันตีเลยว่า “easy, secure and private” (ง่าย ปลอดภัย และเป็นส่วนตัว) แอปเปิลได้บอกว่า เมื่อเราชำระเงินผ่าน Apple Pay ที่ไหนก็ตาม ข้อมูลการซื้อของเราจะไม่ถูกส่งออกไปทางอินเทอร์เน็ต โดยที่แอปเปิลจะไม่รู้เลยว่า เราใช้จ่ายไปกับอะไรบ้าง เพราะข้อมูลทั้งหมดนั้นจะถูกเก็บอยู่ในไอโฟนของเราเท่านั้น นอกจากนี้เวลาเราไปใช้จ่ายที่ไหน พนักงานจะไม่เห็นชื่อจริงของคุณ รวมทั้ง หมายเลขบัตรเครดิต เพื่อช่วยลดโอกาสของการฉ้อโกงนั้นเอง แต่ถ้าเกิดเราทำไอโฟนหายละ ก็ไม่เป็นปัญหา เพราะเราสามารถใช้ Find My iPhone ในการชำระแทนได้
ทั้งนี้แอปเปิลได้จัดการตกลงเจรจากับทางธนาคาร และบริษัทบัตรเครดิตไว้เรียบร้อยแล้ว เช่น Visa, Mastercard, American Express เป็นต้น นอกจากนี้ยังรวมไปถึงร้านค้าใหญ่ๆ อย่าง Disney Store and Walt Disney World Resort, Duane Reade, Macy’s, McDonald’s, Sephora, Staples, Subway, Walgreens and Whole Foods Market และ ร้านค้าอีกกว่า 220,000 ร้าน ในอเมริกาด้วย (สำหรับประเทศไทยคงต้องรออีกซักพัก)
สรุปตัว Apple Pay นี้คือ ระบบชำระเงินบน Iphone ผ่านบัตรเครดิตของเรา ด้วยเทคโนโลยี NFC จากที่เคยบอกว่า “มันยังไม่จำเป็น” สุดท้าย ทาง Apple ก็นำมาใช้จนได้ ด้านการใช้งาน ก็มีเพียง “จับ แตะ จ่าย” ขอเพียงให้ร้านมีเครื่องสแกน และเรามี Iphone (ที่ต่อเน็ตตลอดเวลา) เพียงเท่านี้ เราก็สามารถสนุกกับการจ่ายเงินที่ทำให้ชีวิตง่ายขึ้นโดย Apple Pay กันได้แล้ว แต่โดยส่วนตัวแล้ว ผมคงขอสนุกกับการใช้จ่ายแบบ “สากล” อย่างการ ควักแบงค์ นับเหรียญ ไปก่อนละกัน เพราะเกรงว่า ถ้าเราใช้จ่ายกันได้ง่ายขนาดนั้น ชีวิตเราคงไม่ง่ายขึ้นแน่ถ้า ตังค์ไม่เหลือ……
ที่มา(รวมรูปภาพ) : cultofmac.com , 9to5mac.com
