หลังมีการพิจารณามาอย่างยาวนาน ในที่สุดศาลหรือคณะลูกขุน ก็ตัดสินใจให้ Apple ต้องจ่ายค่าละเมิดสิทธิบัตรเทคโนโลยีเพิ่มประสิทธิภาพของชิปประมวลผล เป็นจำนวนเงิน 234 ล้านเหรียญฯ จากที่เคยคาดการณ์ไว้ 862 ล้านเหรียญฯ
ผลสรุป จากกรณีที่ หน่วยงานดูแลด้านสิทธิบัตรของมหาวิทยาลัยวิสคอนซิน แมดิสัน (WARF) ได้ทำเรื่องขอเรียกค่าเสียหายจาก Apple เป็นจำนวนเงินถึง 862 ล้านเหรียญฯ หลังถูกบริษัทดังกล่าว ละเมิดสิทธิบัตรเทคโนโลยีเพิ่มประสิทธิภาพของชิปประมวลผล ที่เคยจดไว้ตั้งแต่ปี 1998 จึงได้ดำเนินการฟ้องร้องมาตั้งแต่ปี 2014 ซึ่งก็อยู่ในระหว่างพิจารณาจนปัจจุบัน
แต่ล่าสุด ทางคณะลูกขุนก็ตัดสินใจว่า Apple มีความผิดจริง แต่ก็ไม่ซะทีเดียว เมื่อดูจากจำนวนเงินที่ต้องจ่ายชดเชยเพียง 234 ล้านเหรียญฯ หรือราวๆ 8,200 ล้านบาทกว่าๆ จากที่จะต้องโดนถึง 862 ล้านเหรียญฯ หรือ 3 หมื่นล้านบาทกว่าๆ หมายความว่า Apple ไม่ได้มีความตั้งใจที่จะละเมิดสิทธิบัตรนี้ ถึงอย่างนั้น ทาง Apple ก็ยังปฏิเสธที่จะให้ความเห็นใดๆ
สำหรับตัวเทคโนโลยีเพิ่มประสิทธิภาพของชิปประมวลนั้น ก็มีฝังอยู่ในเหล่าสมาร์ทโฟนตัวดังของ Apple อาทิ iPhone 5s, iPhone 6/6 Plus รวมไปถึง iPhone 6s และ 6s Plus รุ่นที่เพิ่งจัดจำหน่ายล่าสุดนี้เองด้วย แต่เมื่อดูยอดขายทั้งหมด ของสมาร์ทโฟนที่กล่าวมานี้ ก็เรียกได้ว่า “ขนหน้าแข้งของ Apple คงไม่ร่วง…”
ที่มา : The Wall Street Journal