Apple M2 ห่างกับ Apple M1 แค่ไหน
“ชิป M2 คือจุดเริ่มต้นเจเนอเรชั่นที่ 2 ของชิปตระกูล M ซึ่งพัฒนาล้ำหน้าไปไกลยิ่งขึ้นจากคุณสมบัติอันน่าทึ่งของชิป M1”
จุดสำคัญของ Apple M2
นอกจากตัวเลขความแรงแล้ว จุดสำคัญจริง ๆ ของชิป M2 คือ เป็นชิปประมวลผลขนาด 5 นาโนเมตร กับมีทรานซิสเตอร์ 2 หมื่นล้านตัว มากกว่าชิป M1 ถึง 25% ด้านสเปก M2 รองรับหน่วยความจำหรือแรมได้สูงสุด 24GB แบนด์วิดท์สำหรับหน่วยความจำแบบรวม 100GB/s ในขณะที่ชิป M1 ใส่แรมได้สูงสุดเพียง 16GB อีกทั้งตัวชิป M2 ยังเพิ่มจำนวน Core CPU กับ GPU ได้สูงสุด 8/10 Core ส่วนชิป M1 สูงสุด 8/7 Core
ประสิทธิภาพการประหยัดพลังงาน
อีกจุดเด่นสำคัญของชิปตระกูล M ที่ทาง Apple ชูโรงมาตลอดคือ “การประหยัดพลังงานและความร้อนต่ำ” ต้องยอมรับเลยว่าทั้งชิป M1 กับชิป M1 Pro และ Max ต่างก็มีความแรงสูง แต่มีการใช้พลังงานที่น้อยเกินคาด สำหรับตัวชิป M2 ทาง Apple ระบุเลยว่า
“ชิป M2 มีประสิทธิภาพเร็วกว่าชิปกราฟิกแล็ปท็อป PC รุ่นล่าสุดถึง 2.3 เท่า แต่ใช้พลังงานเพียง 1 ใน 5” และยังกล่าวอีกด้วยว่า “ตัวชิป M2 มีประสิทธิภาพเร็วกว่าชิปแล็ปท็อป PC แบบ 10-core รุ่นล่าสุดเกือบ 2 เท่า แต่ใช้พลังงานเพียง 1 ใน 4 เท่านั้น”
เมื่อใช้พลังงานน้อยลง ก็ส่งผลให้อุปกรณ์ที่ใช้ชิป M2 ไม่จำเป็นต้องมีเครื่องที่หนา ไม่ต้องมีพัดลม และมีพื้นที่สำหรับใส่แบตฯ มากขึ้น และยังกินพลังงานน้อยขึ้น ส่งผลให้มีระยะเวลาการใช้งานแบตเตอรี่ที่สูงว่าแล็ปท็อป PC หลายรุ่นนี้เอง
สุดท้ายหากเทียบการประหยัดพลังงานระหว่างชิป M2 กับ M1 หากใช้พลังงานระดับเดียวกัน ตัวชิป M2 ก็จะมีประสิทธิภาพเหนือกว่าตัว M1 อย่าง CPU ที่ 18% ด้าน GPU ที่ 35% และด้าน Neural Engine ที่ 40% ทั้งหมดนี้คือประสิทธิภาพที่ได้จากชิป M2 และทั้งหมดก็ใช้พลังงานน้อยกว่าชิป M1 ทั้งสิ้น
MacBook Air 14″ กับ MacBook Pro 13″
เมื่อตัวชิป Apple M2 มีมาตรฐานการผลิตที่ 5 นาโนเมตร ก็ส่งผลให้ MacBook Air 14″ มีความบางได้อีก และไม่จำเป็นต้องใช้พัดลมด้