แนวโน้มของ iPhone หลังจากนี้อีก 2 ปีข้างหน้า จะเกิดการเปลี่ยนแปลงอีกครั้ง ไม่เพียงแค่ iPhone 7 ที่จะเปิดตัวปลายปี 2016 ซึ่งกระแสข่าวลือในต่างประเทศวิเคราะห์ว่าจะเป็นการใช้ดีไซน์ใหม่อีกครั้ง และหลังจากนั้นในปี 2018 สิ่งที่จะเกิดขึ้นกับ iPhone 8 จะเป็นการปรับมาใช้หน้าจอประเภท OLED แทนที่ของเดิม
คุณสมบัติของหน้าจอประเภท OLED ให้ประสิทธิภาพทั้งความคมชัดและสีสันของภาพที่ดูสดมากขึ้น แต่ใช้พลังงานต่ำ ซึ่งปัจจุบันคู่แข่งอย่าง Samsung หรือแม้กระะทั่ง LG เริ่มผลักดันเทคโนโลยีหน้าจอ OLED ที่ตนเองเป็นผู้พัฒนาขึ้น สู่อุปกรณ์หลากหลายชนิดมากขึ้น อาทิ สมาร์ททีวี, สมาร์ทโฟน, สมาร์ทวอทช์, แท็บเล็ต เป็นต้น ทางด้าน Apple เองก็เริ่มมีการใช้หน้าจอ OLED บ้าง แต่เกิดขึ้นเฉพาะ Apple Watch เท่านั้น ส่วน iPhone ยังคงใช้หน้าจอประเภท LCD เช่นเดิม
ด้วยประสิทธิภาพและความนิยมของหน้า OLED ที่กำลังก้าวหน้าอย่างต่อเนื่องบนอุปกรณ์ของ Samsung และ LG ทำให้ Apple มีท่าทีร่วมวงนำเทคโนโลยีหน้าจอดังกล่าวมาใช้กับ iPhone ที่จะพัฒนาขึ้นในปี 2018 หรือ iPhone 8 แทนที่หน้าจอ LCD ที่ใช้กับ iPhone รุ่นปัจจุบัน
อย่างไรก็ตามหาก Apple ต้องการนำหน้าจอ OLED มาใช้กับ iPhone จริง อาจต้องเผชิญกับต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้น แต่ก็นับว่าเป็นเรื่องที่ท้าทายสำหรับ Apple ไม่น้อย กับการเจรจากับผู้ผลิตในการบริหารจัดการและหาแนวทางร่วมกัน เพื่อไม่ให้ราคา iPhone ในตลาดแพงขึ้นกว่าเดิม
นอกจากนี้ Ming-Chi Kuo นักวิเคราะห์จาก KGI ตั้งข้อสังเกตว่า Apple จะยังคงใช้หน้าจอแบบเดิมต่อไปอีกอย่างน้อย 3 ปี เนื่องจากมีข้อมูลอ้างว่าโรงงานผลิต Foxconn เตรียมลงทุนผลิตหน้าจอประเภท TFT-LCD ที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูง เป็นจำนวนมากในปี 2018 ซึ่งคาดว่าจะรองรับการใช้กับ iPhone รุ่นใหม่ในอนาคตอันใกล้นี้
อ้างอิงจาก Macrumors และ Cultofmac