ไม่ทันตั้งตัวเลยจริงๆ สำหรับการเปิดตัว Android N เมื่อค่ำคืนที่ผ่านมา นับเป็นระบบปฏิบัติการรุ่นล่าสุดของ Google ที่ปล่อยออกมาเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้ว่าจะมีขึ้นในงาน Google I/O 2016 ระหว่างวันที่ 18-20 พฤษภาคม ที่แคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา ซึ่งฟีเจอร์ที่เปิดเผยเป็นครั้งแรก จะมีอะไรบ้าง มาดูกันครับ ?
1. Split-Screen Mode
ฟีเจอร์แยกหน้าจอ ที่ช่วยให้ผู้ใช้ Android N สามารถแบ่งครึ่งหน้าจอเพื่อเปิดใช้งาน 2 แอพพลิเคชันพร้อมกันได้ ไม่ว่าจะเป็นแนวนอนหรือแนวตั้งรวมไปถึงสามารถขยายครึ่งหน้าจอฝั่งหนึ่งให้มากกว่ามีแสดงผลมากกว่าอีกฝั่งหนึ่งได้ รองรับการใช้งานทั้งสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ต แต่ฟีเจอร์นี้อาจรองรับการใช้งานได้เฉพาะบางแอพเท่านั้น นอกจากนี้ยังมีโหมด “picture-in-picture” ให้ผู้ใช้สามารถดูวีดีโอภายใต้หน้าต่างเล็กๆ ในขณะใช้งานแอพอื่นไปพร้อมกันได้ด้วย
2. Notifications ที่ใช้งานได้มากขึ้น
แถบแจ้งเตือน หรือ Notifications ใน Android N เพิ่มฟีเจอร์ใหม่ที่เรียกว่า “direct reply” สามารถส่งข้อความตอบกลับได้ทันที เมื่อมีการแถบแจ้งเตือนปรากฏ โดยไม่ต้องเปิดแอพแต่อย่างใด และสามารถกำหนดรายชื่อเป็นรายบุคคลหรือจัดกลุ่มรายชื่อที่ต้องการให้แสดงการแจ้งเตือนพร้อมตอบกลับในทันทีได้
3. Doze ที่ช่วยประหยัดแบต จะดีขึ้นกว่าใน Marshmallow
เดิมทีใน Android Marshmallow จะมีฟีเจอร์ Doze มาให้ด้วยเลย ทำหน้าที่เข้าสู่โหมดประหยัดพลังงานอัตโนมัติ ภายหลังจากที่อุปกรณ์ Android ไม่ได้ใช้งานในช่วงระยะเวลาหนึ่ง แต่ด้วยพฤติกรรมของผู้ใช้สมาร์ทโฟนในปัจจุบันที่ Google อาจมองว่ามีการหยิบจับใช้งานแทบจะตลอดเวลา ดังนั้นฟีเจอร์ Doze ใน Android N จึงถูกพัฒนาให้เปิดใช้งานอัตโนมัติทันทีที่ปิดหน้าจอ พร้อมลดการใช้พลังงานด้วยการปิดการเชื่อมต่อ GPS และการจับสัญญาณ Wi-Fi
4. Project Svelte ลดการใช้แรม
อีกหนึ่งฟีเจอร์ที่่ช่วยให้บางแอพประเภท Background Process/Service มีการใช้แรมที่น้อยลง
5. ปรับแต่ง Quick Settings ได้ง่าย และมากขึ้น
เดิมทีในเมนู Quick Settings ที่หากจะเปิด-ปิดโหมดต่างๆ คงต้องใช้การปาดหน้าลงมาถึงสองครั้ง แต่ใน Android N เมื่อต้องการเรียกใช้งาน Quick Settings เพียงปาดหน้าจอลงมาครั้งแรก ก็จะพบเมนูสำหรับเปิด-ปิดโหมดต่างๆ แบบย่อได้ทันที และจะแสดงเต็มรูปแบบ เมื่อปาดหน้าจอลงมาครั้งที่สอง นอกจากนี้ยังสามารถปรับเลื่อนตำแหน่งโหมดการใช้งานตามที่สะดวกได้เองด้วย
6. ปรับเมนูการตั้งค่าให้เป็นโหมดการใช้งานกลางคืน
หลายคนที่ใช้ Google Maps คงพอรู้ว่า เมื่อเกิดการใช้งานในช่วงค่ำ อินเทอร์เฟซจะปรับเป็นโทนสีมืด ซึ่งคุณสมบัติดังกล่าวได้ถูกนำมาใช้ใน Android N ในส่วนการตั้งค่า เป็นเมนูที่เรียกว่า “System UI Tuner” ที่จะปรับอินเทอร์เฟซเป็นโทนสีมืดอัตโนมัติจะต้องเข้าไปเปิดใช้งานในเมนูนี้เสียก่อน
7. รองรับภาษา JAVA 8
การคอมไพเลอร์แบบใหม่สำหรับ Android สามารถทำงานร่วมกับ Android เวอร์ชันเก่า ไปจนถึงเวอร์ชัน Gingerbread ได้
8. ประหยัดพลังานด้วย Data Saver
เป็นโหมดประหยัดปริมาณการใช้งานภายในตัวระบบปฏิบัติการ
9. บล็อคเบอร์ที่ไม่ต้องการ
อีกหนึ่งฟีเจอร์ใน Android N สามารถบล็อคหมายเลขโทรศัพท์ที่ไม่ต้องการได้ รวมถึงบล็อคการเรียกเข้าของแอพ Hangouts ได้ด้วย
10. Android N ตอนนี้ยังเป็นเวอร์ชันทดสอบสำหรับนักพัฒนา หรือ Developer Preview เท่านั้น
11. ใช้ทดสอบได้ร่วมกับ Nexus 6, Nexus 5X, Nexus 6P, Nexus Player, Nexus 9 และ Pixel C
12. ไม่แนะให้ ผู้ใช้ทั่วไปนำมาใช้งานในเวลานี้ แต่อาจจะเริ่มได้รับอัพเดทช่วงไตรมาสที่ 3 ของปีนี้
อ้างอิงจาก android-developers.blogspot.com และ howtogeek.com