หลังจากที่เราตามติดผลการแข่งขันนัดหยุดโลกระหว่างปัญญาประดิษฐ์ AlphaGo จาก Google Deepmind และแชมป์โกะโลก Lee Sedol มาหลายวัน เมื่อวานนี้ AlphaGo ก็สามารถโค่นแชมป์ได้สำเร็จแล้ว แถมเป็นการชนะแบบขาดลอยถึง 3 นัดรวดเลยทีเดียว
“เมื่อผมกลับไปดูการแข่งทั้ง 3 นัดที่ผ่านมา แม้ผมจะสามารถย้อนเวลาแล้วกลับไปแข่งใหม่ได้ ผมคิดว่าผมก็คงจะไม่ชนะอยู่ดี เพราะผมประเมิน AlphaGo ไว้ต่ำเกินไป” Lee Sedol กล่าวในงานแถลงข่าวหลังการแข่งขันโกะนัดที่ 3
นับว่าเป็นการแข่งขันโกะครั้งสำคัญครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์โลกเลยทีเดียว เพราะไม่ใช่การแข่งระหว่างมนุษย์กับมนุษย์ทั่วไป แต่เป็นการแข่งเกมหมากล้อมระหว่างมนุษย์และสมองกล ซึ่งมีคนติดตามการแข่งครั้งนี้กว่า 3 ล้านคน แม้ว่า Lee Sedol จะพ่ายแพ้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว 3 นัดซ้อน แต่การแข่งขันอีก 2 นัดจะยังดำเนินต่อไป เพื่อให้ครบ 5 นัด ซึ่งนัดสุดท้ายจะสิ้นสุดในวันอังคารที่จะถึงนี้
จากความชาญฉลาดของ AlphaGo นี้ ทำให้ใครหลายคนอาจตั้งคำถามว่าสักวันหนึ่งสมองกลเหล่านี้จะมาทำงานแทนที่มนุษย์เราหรือไม่ แต่ Oren Etzioni นักวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์และ CEO ประจำสถาบัน Allen ได้กล่าวไว้ว่าการสอนให้คอมพิวเตอร์อ่านหนังสือและตอบคำถามได้นั้นยังเป็นเรื่องที่ต้องพัฒนากันอีกพักใหญ่ๆ ดังนั้นมันจึงยังไม่สามารถมาทำงานทุกอย่างแทนที่มนุษย์ได้ในเร็ววันนี้ ยกตัวอย่างเช่น เมื่อเขาทดลองให้คอมพิวเตอร์อ่านหนังสือวิชาวิทยาศาสตร์ของเด็กม.2 แล้วตอบคำถาม คอมพิวเตอร์สามารถทำคะแนนได้เพียง 60% เท่านั้น
“การทำความเข้าใจประโยคประโยคหนึ่งนั้นซับซ้อนเสียกว่าการให้คอมพิวเตอร์เล่นโกะเสียอีก” Etzioni กล่าว ดังนั้นชัยชนะของ AlphaGo ในครั้งนี้จึงไม่ได้หมายความว่ามนุษยชาติกำลังพ่ายแพ้ให้กับปัญญาประดิษฐ์
“การสร้างหุ่นยนต์สำหรับใช้งานในบ้านนั้นเป็นอะไรที่ยากกว่าการเล่นโกะมาก หุ่นยนต์จะเป็นจำต้องมี Common sense ความคล่องแคล่ว ซึ่งสิ่งเหล่านั้นยังขาดใน AI อยู่”
แม้กระนั้นเราก็คงปฏิเสธไม่ได้ว่ายุคสมัยของหุ่นยนต์นั้นวิ่งไล่เรามาทุกขณะ หากเราไม่พัฒนาตัวเองก็คงจะพ่ายแพ้ให้หุ่นยนต์จริงๆเข้าสักวัน