หลังงาน CES 2015 ที่ผ่านมา หลากหลายค่ายดังเหล่าผู้ผลิตมือถือหรือสมาร์ทโฟนทั้งหลาย ต่างพากันปล่อยของแบบหูดับตับไหม้ เพื่อที่จะเอาชีวิตรอดในการแข่งขันสมรภูมิตลาดสมาร์ทโฟน โดยเฉพาะเทคโนโลยี 64 บิต ที่กำลังเดือดอยู่ขณะนี้ ในที่นี้จึงได้มีการรวบรวมข้อมูลสมาร์ทโฟนที่รองรับการประมวลผลแบบ 64 บิต ที่น่าสนใจ และกำลังจะมาเร็วๆนี้ โดยมีด้วยกัน 7 รุ่นทั้งหมด มาติดตามกันได้
หลังจากที่ Apple ได้ผลิตสมาร์ทโฟนอย่าง iPhone 5s ที่สามารถประมวลผลแบบ 64 บิตได้เป็นเจ้าแรก จนเป็นที่ฮือฮากันสุดๆ ในช่วงปี 2014 ณ ปัจจุบัน หลายคนน่าจะทราบกันแล้วว่า ในปี 2015 นี้ สมาร์ทโฟนของทางฝัง Android นั้น จะเริ่มผลิตสมาร์ทโฟนที่รองรับการประมวลผลแบบ 64 บิต ออกมาบ้าง เพื่อไม่ให้น้อยหน้า เมื่อเร็วๆนี้ ก็ได้มีบางค่ายเปิดตัวกันไปบ้างแล้ว นับเป็นจุดขายใหม่ประจำปี 2015 นี้ ครั้งนี้ก็จะขอโชว์เหล่าบรรดาสมาร์ทโฟนที่มาพร้อมกับการแสดงผลแบบ 64 บิต ทั้งหลาย มีอยู่ด้วยกันทั้งหมด 7 รุ่น แต่ละรุ่นจะน่าสนใจมากแค่ไหนนั้น ไปดูกันโล้ด
(ภาพจาก phonearena)
1.ASUS ZenFone 2 (ZE551ML)
ประเดิมกันที่ตัวแรก กับสมาร์ทโฟนสุดร้อนแรงตัวล่าสุด ที่ทำเอาสะเทือนกันทั้งวงการ กับการมาของ ASUS ZenFone 2 สมาร์ทโฟนจากค่ายยักษ์ใหญ่ สัญชาติไต้หวันชื่อดังอย่าง ASUS หลังปีก่อนได้เปิดตัวซีรีย์ ZenFone ไปก่อนหน้านี้ ทำเอาคู่แข่งรายอื่นจุกกันไปตามๆกัน มาคราวนี้กับเจ้า ZenFone 2 (ZE551ML) ที่มาพร้อมกับ หน้าจอขนาด 5.5 นิ้ว กล้องหลัง 13 ล้านพิกเซล และกล้องหน้า 5 ล้านพิกเซล RAM 4 GB !! ที่สำคัญ รองรับการประมวลผลแบบ 64 บิต อีกด้วย ทั้งนี้สำหรับ ZenFone 2 จะอีกรุ่นย่อย คือรุ่น Ram 2 GB (Z550ML) ที่ราคาเริ่มต้นเพียง 6,000 บาท ซึ่งในรุ่นนี้ก็ยังมีชิป 64 บิต ติดมาด้วย ถือเป็นราคาที่ถูกสุดๆ สำหรับใครที่อยากสัมผัสกับเทคโนโลยี 64 บิตใน Android ก่อนใคร (แม้ว่าจะตัดสเปคไปบ้างเมื่อเทียบกับรุ่น 4 ฺGB) สำหรับรุ่น Ram 4 GB จะมีราคาขึ้นมาหน่อย คาดว่าคงไม่เกินหมื่นบาทแน่ๆ
รายละเอียดสเปค
OS : Android 5.0 Lollipop with new ZenUI
CPU : Intel Atom quad-core 2.3 GHz 64 Bit
GPU : PowerVR G6430
Display : หน้าจอ 5.5 นิ้ว (1,920 x1,080) Full HD 1080, IPS, 403ppi, Gorilla Glass 3
RAM : 4 GB
ROM : 16 GB / 32 GB / 64 GB
Micro SD : 64 GB
Camera : กล้องหลัง 13MP เทคโนโลยี PixelMaster , กล้องหน้า 5MP
Sim : Dual-Sim ใช้ Micro-SIM รองรับ 4G
Connect : Wi-Fi 802.11 ac, Bluetooth 4.0, NFC
Battery : Li-Po 3000 mAh (มีระบบการชาร์จพลังงานแบบฉับไว)
Colors : แดง,ดำ,ขาว,ทอง
ราคาโดยประมาณ
รุ่น Ram 4 GB คาดไม่เกินหมื่น (รุ่น Ram 2 GB ประมาณ 6,000 บาท)
2.LG G Flex 2
(ภาพจาก androidcentral)
อีกครั้งกับสมาร์ทโฟนสุดแหวกแนว LG G Flex 2 จากค่าย LG โดยเป็นรุ่นที่สานต่อจาก LG G Flex ที่มีการพัฒนาในเรื่องของสเปกและการใช้วัสดุที่ดีกว่าเดิม เจ้า G Flex 2 ตัวนี้มีลักษณะการดีไซน์ตัวเครื่องแบบโค้งมนในทุกๆ มุม คล้ายพระจันทร์เสี้ยว ซึ่งต่างจากรุ่นก่อนอย่างเห็นได้ชัด ทั้งนี้เพื่อรองรับแรงบิดงอที่ดีกว่าเก่านั้นเอง ในด้านเทคโนโลยีที่เพื่มเข้ามาก็มี ชิปประมวลผล Snapdragon 810 แบบ Octa Core 64 บิต ซึ่งถือเป็นสมาร์ทโฟนรุ่นแรกเลยที่ใช้ชิปตัวนี้ ส่วนอื่นๆที่น่าสนใจก็มี Self-healing ที่ทำให้สามารถลบรอยขีดข่วนที่เกิดกับเครื่องได้ กระจก Dura Glass ที่เพิ่มความทนทานต่อแรงกดมากกว่ารุ่นเดิมถึง 20% นับว่าเป็นสมาร์ทโฟนอีกรุ่น ที่ผู้คนให้ความสนใจไม่แพ้ Zenfone 2 เลย
รายละเอียดสเปค
OS : Android 5.0 Lollipop
CPU : Qualcomm Snapdragon 810 Octa Core 2.0 GHz 64 Bit
GPU : Adreno 430
Display : หน้าจอ 5.5 นิ้ว (1,920 x1,080), Full HD, หน้าจอแบบ Curved P-OLED, กระจก Dura Glass, 401 ppi
RAM : 2 GB / 3 GB
ROM : 16 GB / 32 GB
Micro SD : 128 GB
Camera : กล้องหลัง 13 ล้านพิกเซล มีระบบแฟลชคู่ โฟกัสภาพด้วยเลเซอร์ ระบบป้องกันภาพสั่นไหว OIS , กล้องหน้า 2.1 ล้านพิกเซล
Sim : ใช้ Micro-SIM รองรับ 4G
Connect : Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac, Bluetooth 4.1
Battery : Li-Po 3000 mAh
Colors : สีแดง Flamenco Red และสีเงิน Platinum Silver
ราคาโดยประมาณ
ยังไม่เปิดเผย แต่คาด 2x,xxx บาท
3.OPPO R1C
(ภาพจาก liliputing)
ทาง OPPO เองก็ไม่น้อยหน้า ในเมื่อตลาดสมาร์ทโฟน 64 บิต กำลังมาแรงอยู่ขณะนี้ เมื่อวันที่ 14 มกราคม 2015 ก็ได้มีการเปิดตัว OPPO R1C สมาร์ทโฟนสุดงามที่ด้านหลังโชว์วัสดุระดับพรีเมียม อย่างกระจก Sapphire Glass ที่มีความแข็งแกร่งทนทานเป็นพิเศษ เพิ่มความหรูหรายิ่งนัก ตัวเครื่องเองจะมีความบางเฉียบในระดับเพียง 6.85 มิลลิเมตร แน่นอนว่า รองรับการประมวลผลแบบ 64 บิตด้วย มาพร้อมกับ หน่วยประมวลผล Octa-Core 1.5 GHz Qualcomm Snapdragon 615 กับ Color OS 2.0.1 ระบบปฏิบัติการปรับแต่งเฉพาะตัวจากทาง Oppo (ข้างในยังเป็น Android 4.4 KitKat)
รายละเอียดสเปค
OS : Android 4.4 KitKat with Color OS 2.0.1
CPU : Qualcomm Snapdragon 615 Octa-Core 1.5 GHz 64 Bit
GPU : Adreno 405
Display : หน้าจอ 5 นิ้ว (1.280 x 720) 720p 294 ppi
RAM : 2 GB
ROM : 16 GB
Micro SD : 128 GB
Camera : กล้องหลัง 13 ล้านพิกเซล ใช้เซนเซอร์ Sony Exmor IMX214 F 2.0 , กล้องหน้า 5 ล้านพิกเซล
Sim : Dual-Sim ใช้ Micro-SIM รองรับ 4G
Connect : 802.11 b/g/n, Bluetooth 4.0
Battery : Li-Ion 2420 mAh
Colors : Dark Blue และ White
ราคาโดยประมาณ
13,200 บาท
4.Xiaomi Mi Note Pro
(ภาพจาก gsmarena)
มาดูทางด้าน Phablet กันหน่อย หรือ สมาร์ทโฟนกึ่งมือถือกึ่งแท็บเล็ต หลายคนเห็นเจ้านี้แล้ว คงนึกในใจแน่ๆว่า Samsung Galaxy Note 4 กับ Xiaomi Mi Note Pro นี้ ใครจะเหนือกว่ากัน เพราะทั้งหน้าตา และ ชื่อรุ่น คล้ายกันพอควร ลักษณะของเด่นๆของ Mi Note Pro ก็จะมีกระจก Gorilla Glass 3 เป็นส่วนประกอบตัวเครื่อง มีกรอบโลหะ Metal Frame ทั้งสองช่วยเพิ่มความทนทานต่อแรงกระแทก และเพิ่มความโดดเด่นให้กับตัวเครื่อง ยังไม่พอ ตัวเครื่องยังมีความบางเพียง 6.95 เท่านั้น (บางยิ่งกว่า Note 4 อีก ที่บาง 8.5 มิลลิเมตร) นอกเหนือจากวัสดูที่ว่าสุดยอดแล้ว ภายในก็โหดไม่แพ้กัน เพราะมีชิป Snapdragon 810 ยัดมาให้ด้วย แน่นอนว่ารองรับ 64 บิต เช่นเคย สำหรับเจ้า Xiaomi Mi Note Pro จะมีรุ่นย่อยอีกรุ่นว่า Xiaomi Mi Note ซึ่งก็จะมีสเปกลดลงมาหน่อย
รายละเอียดสเปค
OS : Android 5.0 Lollipop
CPU : Qualcomm Snapdragon 810 Octa-Core 2.0 GHz 64 Bit
GPU : Adreno 430
Display : หน้าจอ 5.7 นิ้ว กระจกจอโค้ง 3D curved Quad HD (2560 x 1440) 515 PPI
RAM : 4 GB
ROM : 64 GB
Micro SD : –
Camera : กล้องหลัง 13 ล้านพิกเซล ระบบป้องกันภาพสั่นไหว OIS ไฟแฟลชแบบ Dual-LED Flash ใช้เซ็นเซอร์ Sony Exmor IMX214 , กล้องหน้า 4 ล้านพิกเซล
Sim : Dual-Sim ใช้ Micro-SIM รองรับ 4G
Connect : Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac, Bluetooth 4.0
Battery : Li-Ion Polymer 3090 mAh
Colors : ดำ ขาว และ ทอง
ราคาโดยประมาณ
17,400 บาท
5.Lenovo Vibe X2 Pro
(ภาพจาก androidcentral)
Vibe X2 Pro สมาร์ทโฟนรุ่นที่ต่อยอดจาก Vibe X2 ในช่วงปลายปี 2014 ซึ่งไม่ทันไร ณ งาน CES 2015 Lenovo ก็เปิดตัวรุ่นใหม่อย่างไว แสดงให้เห็นว่า สถานการณสมาร์ทโฟนช่วงนี้ ร้อนแรงจริงๆ มาดูกันที่เจ้า Lenovo Vibe X2 Pro กันหน่อยว่า มันมีอะไรที่พัฒนาต่อจากรุ่นเก่าบ้าง เห็นอะไรแปลกๆไหมครับ ตรงตัวเครื่องมีลายเลเยอร์ซ้อนกันสามสีชวนสะดุดตา (เห็นแล้วหิวขนมชั้น) นอกจากดีไซน์แปลกตาแล้ว อีกหนึ่งที่เพิ่มมาก็ ชิปประมวลผล Snapdragon 615 octa-core แน่นอนที่ต้องมีคือ รองรับ 64-bit แต่ที่หน้าตกใจไปกว่านั้นคือในเรื่องของกล้อง ทั้งกล้องหน้า และ กล้องหลัง ความละเอียดระดับ 13 ล้านพิกเซล เท่ากันทั้งคู่ !! ขา Selfie คงชอบใจกันน่าดู (หรืออาจไม่ เพราะเห็นความจริงเกิน…..)
รายละเอียดสเปค
OS : Android 4.4 KitKat
CPU : Qualcomm Snapdragon 615 Octa-Core 1.5 GHz 64 Bit
GPU : Adreno 405
Display : หน้าจอ 5.3 นิ้ว (1,920 x1,080) Full HD 1080p 416 ppi
RAM : 2 GB
ROM : 32 GB
Micro SD : 128 GB
Camera : กล้องหลัง 13 ล้านพิกเซล มีระบบ Face Detection เน้นการโฟกัสใบหน้า , กล้องหน้า 13 ล้านพิกเซล
Sim : Dual-Sim ใช้ Nano-SIM รองรับ 4G
Connect : Wi-Fi 802.11 b/g/n/ac , Bluetooth 4.0
Battery : Li-Ion Polymer 2410 mAh
Colors : Champagne Gold, Rock Pink, Electric Blue
ราคาโดยประมาณ
ยังไม่เปิดเผย
6.HTC Desire 826
(ภาพจาก gsmarena)
อีกหนึ่งสมาร์ทโฟน 64 บิต ระดับกลางจากค่าย HTC กับชื่อรุ่น Desire 826 ที่ได้เปิดตัวกันในงาน CES 2015 เช่นกัน หลังเปิดตัว Desire 320 รุ่นเบาไป ก็ตามมาด้วยรุ่นกลางอย่างเจ้านี้ ที่ดีไซน์ออกมาเหมื่อน Desire EYE อย่างกับแกะ ลักษณะเด่นไม่มีอะไรมาก ที่น่าสนใจคือ ซอฟต์แวร์กล้อง HTC EYE Experience ชิปประมวลผลแบบ 64 บิต และมาพร้อมกับ Android 5.0 Lollipop เท่านั้น ก็ถือเป็นอีกรุ่นทางเลือกสำหรับใครที่อยากได้สมาร์ทโฟน 64 บิต ในราคาย่อมเยา และคุณภาพจากค่าย HTC
รายละเอียดสเปค
OS : Android 5.0 Lollipop
CPU : Qualcomm Snapdragon 615 Quad-core 1.7 GHz 64 Bit
GPU : Adreno 405
Display : หน้าจอ 5.5 นิ้ว (1,920 x1,080) Full HD 1080p 401 ppi
RAM : 2 GB
ROM : 16 GB
Micro SD : 128 GB
Camera : กล้องหลัง 13 ล้านพิกเซล , กล้องหน้า 4 ล้านพิกเซล
Sim : Dual-Sim ใช้ Nano-SIM รองรับ 4G
Connect : Wi-Fi 802.11a/b/g/n , Bluetooth 4.0
Battery : Li-Po 2600 mAh
Colors : Various
ราคาโดยประมาณ
ยังไม่เปิดเผย (คาดน่าจะหมื่นต้นๆ)
7.Samsung Galaxy A7
(ภาพจาก gsmarena)
ปิดท้ายกันด้วย สมาร์ทโฟนจากค่ายดังอย่างซัมซุง ที่ได้เปิดตัวรุ่นต่อยอดตระกูล A อย่าง Samsung Galaxy A7 ก่อนหน้านี้ก็ได้เปิดตัวรุ่นเล็กอย่่างรุ่น A3 กับ A5 ไปแล้ว มาส่วนของรุ่น A7 ว่ากันด้วยลักษณะเด่นก็จะมี การโชว์ความบางแบบสุดๆ ที่เค้าว่า บางที่สุดในซัมซุง เพียง 6.3 มิลลิเมตร มีการผลิตตัวเครื่องแบบ All-Metal Unibody คือทั้งตัวประกอบขึ้นรูปเป็นชิ้นเดียวกันและเป็นโลหะทั้งตัว หน้าจอ Super AMOLED และสุดท้าย รองรับการประมวลผลแบบ 64 บิต (ขนาดรุ่นนี้ยังใช้วัสดุขนาดนี้แล้วรุ่น Galaxy S6 ล่ะ จะเป็นยังไง) เพิ่มเติมเล็กน้อย Galaxy A7 จะแบ่งย่อยเป็นสองรุ่น คือ รุ่นสองซิม จะใช้ ชิป Snapdragon 615 กับ GPU Adreno 405 และ รุ่นซิมเดียว จะใช้ชิป Exynos 5430 กับ GPU Mali-T628 MP6
รายละเอียดสเปค
OS : Android 4.4 KitKat
CPU : รุ่นสองซิม Qualcomm Snapdragon 615 Octa-Core (1.5GHz Quad A53 + 1.0GHz Quad A53) 64 Bit
รุ่นซิมเดียว Exynos 5430 Octa-Core (1.8GHz Quad A15 + 1.3GHz Quad A7) 32 Bit
GPU : รุ่นสองซิม Adreno 405 , รุ่นซิมเดียว Mali-T628 MP6
Display : หน้าจอ 5.5 นิ้ว (1,920 x1,080) Full HD 1080p Super AMOLED 401 ppi
RAM : 2 GB
ROM : 16 GB
Micro SD : 64 GB
Camera : กล้องหลัง 13 ล้านพิกเซล , กล้องหน้า 5 ล้านพิกเซล
Sim : Dual SIM รองรับ LTE/3G , Dual Standby รองรับ LTE
Connect : Wi-Fi 802.11 a/b/g/n , Bluetooth 4.0
Battery : Li-Ion 2600 mAh
Colors : Pearl White, Midnight Black, Champagne Gold
ราคาโดยประมาณ
19,700 บาท
จบกันไปเรียบร้อย สำหรับรายละเอียดของสมาร์ทโฟนทั้ง 7 รุ่น ที่ในตอนนี้แม้จะยังไม่มีขายในไทย แต่เชื่อว่าไม่นานหรอกครับ อาจมีบางคนคงสงสัยว่า “แล้วเจ้าชิปประมวลผล 64 บิต มันดียังไง” สั้นๆเลยคือมัน แรง เร็ว สมจริง และประหยัดพลังงานกว่าแบบ 32 บิตครับ อีกคำถามหนึ่งคือ “แล้วรุ่นใหญ่อย่าง HTC One M9 , Sony Z4 , Samsung Galaxy S6 จะมาตอนไหน ?” คำตอบรออยู่ที่งาน Mobile World Congress ครับ ซึ่งจะจัดขึ้นในช่วงเดือนมีนาคมปีนี้ โดยทางเหล่าค่ายยักษ์ใหญ่ก็ให้สัญญากันแล้วว่า “มาแน่” อดใจรอกันอีกนิดครับ และกำตังค์ไว้ให้พร้อม………
