AirTag ของ Apple อุปกรณ์รูปเหรียญขนาดเล็กที่ให้ผู้ใช้ค้นหาสิ่งของที่หายไปได้ โดยไม่นานมานี้ ชายเทนเนสซีคนหนึ่งใช้ AirTag ติดตามรถที่ถูกขโมยไป ทำให้ตำรวจสามารถนำรถของเขากลับมาได้ง่ายขึ้น
.
ในความจริง เขาติดกล้องวงจรปิดที่โฟกัสเลนส์ไปที่รถของเขาโดยเฉพาะ แต่นั่นมันอาจไม่เพียง หากขโมยปกปิดตัวตน จะไม่สามารถรู้ได้ว่าเขาคือใคร แต่การเอา AirTag ไว้ในรถ ทำให้ iPhone สามารถค้นหาสัญญาณและตามจนพบได้ง่ายกว่า
.
ทำไม AirTag ของ Apple ถึงมีประสิทธิภาพสูง ไม่ว่าจะมุมไหนของโลก ก็สามารถค้นหาเจอได้… เพราะ Apple ได้สร้างเครือข่ายหนึ่งขึ้นมาชื่อว่า Find My และหากเราได้ใช้อุปกรณ์ของ Apple สักหนึ่งอย่าง ไม่ว่าจะ iPhone , iPAD , Mac ต่าง ๆ ก็จะสามารถใช้เครือข่าย Find My ผ่าน Apple ได้ครับ
.
สำหรับการใช้ค้นหา AirTag ด้วยโทรศัพท์ iPhone ที่มีคนใช้งานทั่วโลก และ iPhone ทุกเครื่องจะถูกตั้งค่าให้เปิดใช้ Find My ไว้ ระบบนี้จะเปิดใช้งาน Bluetooth เบื้องหลังแยกจากระบบปกติ เพื่อให้ AirTag สามารถส่งสัญญาณเข้าไปที่ iPhone เครื่องนั้นได้ จากนั้น iPhone เครื่องดังกล่าวจะส่งสัญญาณผ่านเครือข่าย Find My ไปให้เจ้าของ AirTag เพื่อแจ้งตำแหน่ง
.
พูดง่าย ๆ หากรถเราหาย แต่เราใส่ AirTag ไว้ในรถ แม้ว่าจะมันจะถูกขโมยไปไกลหลายร้อยกิโลเมตร หรือต่างประเทศ หากใกล้ ๆ รถเรามีผู้ใช้ iPhone อยู่สักคน เราก็จะรู้ตำแหน่งรถเราได้ทันที ซึ่ง AirTag จะส่งคลื่นความถี่ต่ำที่มีระยะที่กว้างมาก ทำให้ค้นหา ยังไงก็เจอ
.
ส่วนตัวก็ไม่ได้เชียร์ Apple ทุกเรื่องนะ บางเรี่องก็แอบด่าอยู่บ่อยครั้ง (ฮ่า ๆ ) แต่บางเรื่องก็ต้องยอมรับว่ามันดี หากเทียบกับอุปกรณ์ GPS อื่น ๆ ที่อาจต้องเสียเงินค่าเน็ตเพิ่มและต้องคอยชาร์จมันบ่อย ๆ AirTag นับว่าสะดวกกว่ามากครับ
.
ที่มาข้อมูล
https://9to5mac.com/2022/07/25/airtag-finds-stolen-suv/