ปี 2025 แล้ว AI ไม่ใช่เรื่องไกลตัวอีกต่อไป เราต้องยอมรับอย่างหนึ่งว่า AI ยังไม่สามารถเข้ามาแทนที่เราได้แบบ 100% แต่คนที่ไม่ใช้หรือต่อต้าน อาจจะเสียเปรียบคนที่ใช้เป็น เข้าใจ และรู้จักใช้งานให้เกิดประโยชน์ ซึ่งจะทำให้งานเสร็จไวขึ้น มีประสิทธิภาพมากขึ้น และอาจได้ไอเดียใหม่ ๆ ด้วย
Techhub อยากมาทุกคนมาดู 5 วิธีใช้ AI เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพในการทำงานมากขึ้น ทั้งช่วยให้งานเสร็จไวขึ้น และได้ไอเดียต่าง ๆ ได้เร็วขึ้น
1. สรุปข้อมูลและวิเคราะห์แบบเหนือชั้น
ใครเจอเอกสารยาวเหยียด หรือประชุมเป็นชั่วโมงแล้วต้องสรุป AI ช่วยเราได้นะช่วยเราได้นะ เพียงแค่โยนข้อมูลเข้าไป (เอกสาร, เสียง, วิดีโอ) AI ก็จะสรุปประเด็นสำคัญ วิเคราะห์ข้อมูล และดึง insight เด็ดๆ ออกมาให้เราแบบรวดเร็ว ไม่ต้องเสียเวลาอ่านเองทั้งหมด แถมยังช่วยให้เราตัดสินใจได้แม่นยำขึ้นอีกด้วย
ตัวอย่างเช่น ผมใช้ Copilot (ใน Microsoft 365) แปลข้อความเสียงเป็น Text จากนั้นก็ใช้ AI อีกตัว (ChatGPT หรือ Gemini) สรุปเนื้อหาสำคัญ ๆ ออกมา ทำให้เราไม่ต้องมานั่งถอดเทปการประชุมทั้งหมดที่บันทึกไว้ครับ
2.สรุปบทเรียนหรือข้อมูลภาษาอังกฤษ
อันนี้จะคล้ายๆ กับวิธีแรกนะ แต่เชื่อว่าทุกคนน่าจะรู้ว่า คนที่เก่งภาษาอังกฤษ จะสามารถเข้าถึงคลังข้อความรู้ที่ลึกมากกว่า เพราะเป็นภาษาสากล แล้วคนที่ไม่เก่งล่ะ ทำยังไง ?
หากเราต้องการเรียนเนื้อหาฟรี ๆ หรืออยากได้ข้อมูลบางอย่างจาก Youtube แล้วฟังไม่ออก กดให้ Youtube แปลให้ ก็แปลตรงตัวเกินไป มาลองดูวิธีนี้กัน
1.ให้เราก๊อปลิงก์จาก Youtube แล้วแปลงเป็น MP3
2.นำไฟล์เสียง Upload เข้าไปใน Microsoft 365 ออนไลน์ (มีเวอร์ชั่นทดลองใช้ฟรีนะ) ในหัวข้อ Transcribe (รูปไมค์โครโฟน) แล้วแปลงไฟล์เสียงเป็น Text
3.นำข้อมูลเหล่านั้นมาให้ AI แปล ส่วนตัวใช้ Gemini 2.0 Experimental Advanced ซึ่งแปลได้เข้าใจง่ายมาก ๆ ครับ
3.ใช้ AI สร้าง Presentation
เคยเสียเวลากับการมานั่งออกแบบ Presentation ไหม ข้อมูลแน่นปึ๊ก แต่ออกแบบไม่ดี ก็ทำให้คนไม่อยากดูได้เหมือนกัน โดยปัจจุบัน มี AI หลายตัวที่เราสามารถใช้เพื่อสร้าง Presentation ออกมา บางตัวก็ใช้ฟรีตั้งแต่ครั้งแรก ที่เป็นโควต้าจำกัดแบบรายเดือน ซึ่งหากเราใช้ไม่เยอะ ก็ไม่ต้องซื้ออย่าง SlidesAI ที่ติดตั้งส่วนขยายลงใน Google Slide ได้
หรือจะเป็น AI ตัวอื่น ๆ อย่าง Beautiful.ai , Slidesgo หรืออื่น ๆ ก็ลองเลือกใช้งานกันดูครับ เพียงแค่โยนข้อมูลลงใน AI ก็จะสร้าง Presentation สวย ๆ ออกมาให้เราได้ง่าย ๆ เลย
4. การเพิ่มประสิทธิภาพส่วนบุคคล
1.เราสามารถให้ AI เรียนรู้สไตล์การทำงานและความต้องการของเรา พร้อมกับแนะนำเครื่องมือ, ซอฟต์แวร์, หรือแหล่งข้อมูลที่เหมาะสมเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน
2.วิเคราะห์รูปแบบการทำงานเพื่อหาจุดที่ต้องปรับปรุง โดย AI สามารถชี้ให้เห็นจุดที่สามารถปรับปรุงเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพได้ เช่น แนะนำให้เราพักเบรกเป็นระยะ หรือจัดสรรเวลาสำหรับงานที่ต้องใช้สมาธิสูง
3.ให้คำแนะนำเฉพาะบุคคลสำหรับการพัฒนาทักษะ AI สามารถวิเคราะห์ทักษะปัจจุบันของเราและแนะนำหลักสูตรหรือทรัพยากรการเรียนรู้ที่เหมาะสมเพื่อช่วยให้เราพัฒนาทักษะที่จำเป็นในอนาคต เช่น ในอนาคต เราอยากจะเปลี่ยนงาน ก็ให้ AI แนะนำได้ว่า ทักษะใดที่จำเป็นต้องรู้ รวมถึงคอร์สต่าง ๆ สำหรับเรียนรู้
5. เรียนรู้ทักษะใหม่ๆ ได้ไวขึ้น
โดยเราสามารถให้ AI เป็นติวเตอร์ส่วนตัวของเราได้ ไม่ว่าจะอยากเรียนภาษา เขียนโค้ด หรือทักษะอื่นๆ ซึ่ง AI อย่าง Gemini ก็มีเวอร์ชั่น Learning Coach ที่จะเป็นโค้ชส่วนตัวสำหรับการเรียนรู้สิ่งต่าง ๆ ออกแบบแผนการเรียนรู้ ช่วยให้เราเรียนรู้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
และทั้งหมดนี้ คือ 5 วิธีการในการใช้ AI ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน และการพัฒนาตนเอง อ่านแล้ว ไปลองใช้กันนะครับ ซึ่งต้องยอมรับว่า ในปี 2025, AI ได้กลายเป็นเครื่องมือสำคัญที่เข้ามามีบทบาทในชีวิตการทำงานของเราอย่างชัดเจน
แม้ว่า AI จะยังไม่สามารถทดแทนมนุษย์ได้อย่างสมบูรณ์ แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่าผู้ที่สามารถประยุกต์ใช้ AI ได้อย่างเชี่ยวชาญจะมีความได้เปรียบอย่างมาก ทั้งในแง่ของความรวดเร็ว, ประสิทธิภาพ, และความคิดสร้างสรรค์ใหม่ๆ