การศึกษาในเดนมาร์กพบว่า AI สามารถทำนายอุดมการณ์ทางการเมืองของคน ๆ นั้นได้เพียงสแกนใบหน้า ซึ่งมีความแม่นยำมากถึง 61 เปอร์เซ็น
ต้องยอมรับว่า ไม่ว่าประเทศไหน ๆ มักจะมีการเมืองเมืองที่แบ่งออกเป็นสองขั้วใหญ่ ๆ ซึ่งเทคโนโลยีพบว่า นักการเมืองฝ่ายขวา (ของเดนเมาร์กนะ ไม่ใช่ไทย) มักจะมีสีหน้าที่มีความสุขหากดูจากภาพถ่าย ในขณะที่คนที่ถ่ายภาพด้วยสีหน้าที่เป็นกลางมักจะถูก AI ระบุว่าเป็นพวกฝ่ายซ้าย
แน่นอนว่า วิธีการสอน AI ให้แยกความแตกต่างข้างต้น นักวิจัยได้สอนให้คอมพิวเตอร์เรียนรู้และประมวลผลข้อมูลในการตัดสินว่าใครอยู่ฝ่ายไหน ด้วยการใช้ข้อมูลภาพจำนวนกมาก ซึ่งนอกจากอุดมการณ์ทางการเมืองแล้ว ยังสามารถบอกเกี่ยวกับ บุคลิกภาพหรือความฉลาดได้ในทันทีเช่นกัน
นักวิทยาศาสตร์ฝึกฝนโครงข่ายประสาทเทียมด้วยภาพถ่ายนักการเมืองหลายพันภาพ จากข้อมูลการเลือกตั้งระดับเทศบาลของประเทศในปี 2560 แต่ภาพเหล่านี้ต้องได้รับการคัดกรองจากนักวิจัยด้วย ซึ่งพวกเขาจะไม่นำรูปถ่ายของผู้สมัครที่ไม่ได้มีฝ่ายซ้ายหรือฝ่ายขวาอย่างชัดเจนมาให้ AI เรียรู้ เพราะอาจจะทำให้ AI สับสนได้ โดยคัดเลือกผู้สมัครรับเลือกตั้งทางการเมืองมาจำนวนทั้งหมด 4,647 ภาพ โดย 1,442 เป็นภาพของนักการเมืองหญิง
ในส่วนของ AI นักวิจัยใช้เทคโนโลยีการจดจำการแสดงสีหน้าจาก Microsoft เพื่อวัดสภาวะทางอารมณ์ที่เห็นในภาพถ่าย เช่นเดียวกับอัลกอริธึมอื่นๆ เพื่อระบุความน่าดึงดูดใจจากสภาพแวดล้อมที่เป็นอยู่ ณ ขณะถ่ายภาพ พวกเขายังใช้รูปถ่ายของสมาชิกรัฐสภาเดนมาร์กจำนวนหนึ่งเพื่อทดสอบความแม่นยำของอัลกอริทึมด้วย
โดยรวมแล้ว การวิจัยพบว่า AI ที่ได้รับการฝึกฝนจากข้อมูลสามารถทำนายอุดมการณ์ได้อย่างแม่นยำถึง 61 เปอร์เซ็น ซึ่งแสดงให้เห็นว่าอัลกอริทึมสามารถทำนายความเกี่ยวข้องทางการเมืองได้เกินครึ่ง
ดู ๆ ไปแล้ว การพัฒนา AI ส่วนใหญ่ก็จะใช้วิธีการที่คล้ายกัน คือใช้ข้อมูลจำนวนมาก ๆ ให้ AI ได้เรียนรู้ แต่ปัญหาคือ เครื่องมือนี้มันจะดีจริง ๆ หรอ มันจะไม่ถูกนำไปกลั้นแกล้งกันใช่หรือไม่ ? แล้วคนทั่วไปอย่างเรา จะรับมือกับอนาคตที่เปลี่ยนแปลงไปเร็วขนาดนี้ได้ทันไหม …