เนียนเกิน ChatGPT รุ่นล่าสุด ถูกใช้สร้าง ใบเสร็จปลอม

การพัฒนาของเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) นำมาซึ่งประโยชน์และความท้าทายใหม่ๆ หนึ่งในประเด็นที่น่ากังวลล่าสุดคือ ความสามารถของ AI ในการสร้างภาพที่สมจริง ซึ่งรวมถึงการสร้างเอกสารสำคัญอย่างใบเสร็จรับเงิน ที่มีความใกล้เคียงกับของจริงอย่างมาก

ล่าสุด มีข้อมูลว่า ChatGPT รุ่นล่าสุด (4o) สามารถสร้างภาพ ใบเสร็จปลอม จากการป้อนคำสั่งเพียงไม่กี่ประโยค ใบเสร็จเหล่านี้สามารถจำลองรายการสินค้า, ค่าอาหาร, หรือบริการต่างๆ ได้อย่างแนบเนียน ซึ่งหากดูแบบอย่างผิวเผิน อาจแยกแยะได้ยากจากใบเสร็จจริง ยิ่งเฉพาะกับพนักงานที่ยุ่ง ๆ อยู่ที่เค้าเตอร์

ความสามารถดังกล่าวสร้างความกังวลอย่างยิ่งต่อภาคธุรกิจ โดยเฉพาะร้านค้าปลีกและร้านอาหาร เนื่องจากอาจถูกนำไปใช้ในทางมิชอบ เช่น

1.มิจฉาชีพอาจสร้างใบเสร็จปลอมเพื่อเรียกร้องขอคืนเงินสำหรับสินค้าที่ไม่ได้ซื้อจริง หรือซื้อจากแหล่งอื่น
2. พนักงานในองค์กรอาจใช้ใบเสร็จปลอม (เช่น ค่าอาหาร, ค่าเดินทาง) เพื่อเบิกค่าใช้จ่ายปลอม ๆ จากบริษัท

แม้ว่าใบเสร็จที่สร้างโดย AI อาจยังไม่สมบูรณ์แบบ 100% หากเราดูอย่างละเอียด อาจพบความผิดปกติเล็กน้อยของแบบอักษร, การจัดวาง, หรือลักษณะแสงเงาที่ไม่สอดคล้องกับรอยยับบนกระดาษหากเป็นภาพถ่าย แต่ต้องยอมรับว่า มีความสมจริงเพียงพอที่จะทำให้เกิดความเข้าใจผิดได้

ที่สำคัญคือ ไอจุดผิดเล็ก ๆ เหล่านี้ สามารถแก้ไขได้ ผ่านการปรับคำสั่ง (Prompt) ให้ AI สร้างใหม่ หรือใช้ซอฟต์แวร์แก้ไขภาพ เช่น Photoshop เพื่อเพิ่มความสมจริงยิ่งขึ้น

สำหรับร้านค้าออนไลน์ อาจจะต้องระวังกันไว้นิดนึงครับ ไม่แน่ใจว่ามีมิจฉาชีพไทย นำมาทำหรือยัง โดยต้องตรวจสอบผ่านวิธีการต่าง ๆ ต่อไปนี้คือ

1.ยึดระบบข้อมูลเป็นหลัก ระบบจัดการคำสั่งซื้อ (Order Management System), ประวัติการชำระเงิน, และข้อมูลการจัดส่ง ภายในระบบของของเรา คือแหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือที่สุฉดในการยืนยันสถานะคำสั่งซื้อและการทำธุรกรรม

2.ตรวจสอบคำขอคืนสินค้า/บริการอย่างรัดกุม โดยทุกครั้งที่มีการขอคืนสินค้าหรือคืนเงิน ให้ตรวจสอบข้อมูลอ้างอิง (เช่น หมายเลขคำสั่งซื้อ, ชื่อลูกค้า, รายการสินค้า, วันที่ซื้อ) กับข้อมูลในระบบของผู้ค้าอย่างละเอียด ว่าตรงกันและสมเหตุสมผลหรือไม่

3.ระวังความไม่สอดคล้องกัน หากลูกค้าส่งหลักฐาน เช่น รูปถ่ายใบเสร็จ ที่มีข้อมูลไม่ตรงกับข้อมูลในระบบ (เช่น วันที่, รายการ, ยอดเงิน) ให้ตั้งข้อสังเกตและตรวจสอบอย่างละเอียดถี่ถ้วนยิ่งขึ้น

4.เก็บรักษาหลักฐานการทำธุรกรรม: เก็บบันทึกข้อมูลการสั่งซื้อ, การชำระเงิน, การสื่อสารกับลูกค้า, และหลักฐานการจัดส่งไว้อย่างเป็นระบบ เพื่อใช้เป็นหลักฐานหากเกิดข้อกรณีต่าง ๆ ขึ้น

แม้ผู้พัฒนา AI อย่าง OpenAI จะพยายามหาแนวทางป้องกันการนำเทคโนโลยีไปใช้ในทางที่ผิด แต่การควบคุมทำได้ยากเนื่องจากเทคโนโลยีได้ถูกเผยแพร่ออกไปในวงกว้างแล้ว ดังนั้น ผู้ประกอบการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ค้าออนไลน์ อาจจะต้องระวังตัวมากขึ้น พร้อมกับปรับปรุงกระบวนการตรวจสอบภายในให้รัดกุมยิ่งขึ้น โดยให้ความสำคัญกับข้อมูลจากระบบของตนเองเป็นหลัก

ที่มา

extremetech