อะโดบี และไมโครซอฟท์ นำเสนอโซลูชั่นร่วมชุดแรก เพื่อช่วยให้องค์กรต่างๆ ปรับปรุงประสบการณ์ลูกค้าด้วย Adobe Experience Cloud, Microsoft Azure และ Microsoft Dynamics โดยทั้งสองบริษัทได้ขยายความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของบุคลากร และขับเคลื่อนระบบงานธุรกิจที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น
นับจากวันนี้เป็นต้นไป Adobe Sign ซึ่งเป็นบริการลายเซ็นอิเล็กทรอนิกส์ชั้นนำใน Adobe Document Cloud จะกลายเป็นโซลูชั่นลายเซ็นอิเล็กทรอนิกส์ในผลิตภัณฑ์ต่างๆ ของไมโครซอฟท์ รวมถึง Microsoft Office 365 ซึ่งมีผู้ใช้งานรายเดือนกว่า 100 ล้านรายทั่วโลก นอกจากนี้ Microsoft Teams แอปพลิเคชันสนทนากลุ่มสำหรับการทำงานที่ช่วยยกระดับประสิทธิภาพในการทำงานร่วมกันบนแพลตฟอร์ม Microsoft Office 365 จะกลายเป็นบริการด้านการประสานงานร่วมกันสำหรับ Adobe Creative Cloud, Document Cloud และ Experience Cloud นอกเหนือจากการผนวกรวมผลิตภัณฑ์เข้าด้วยกันแล้ว อะโดบีจะใช้ Microsoft Azure เป็นแพลตฟอร์มคลาวด์สำหรับ Adobe Sign อีกด้วย ความร่วมมือของอะโดบีและไมโครซอฟท์ในครั้งนี้จะช่วยให้บุคลากรและทีมงานต่างๆ สามารถประสานงานร่วมกัน ติดต่อสื่อสาร และขับเคลื่อนการตัดสินใจบนอุปกรณ์ต่างๆ
อะโดบีและไมโครซอฟท์เป็นผู้นำด้านซอฟต์แวร์เอกสารและซอฟต์แวร์เสริมประสิทธิภาพการทำงาน โดยมีความเชี่ยวชาญในการสร้างสรรค์นวัตกรรมเพื่อนำเสนอโซลูชั่นที่ได้รับการใช้งานอย่างแพร่หลาย เข้าถึงกลุ่มลูกค้าหลายร้อยล้านรายทั่วโลกผ่านเครื่องมือบนเดสก์ท็อป โมบายล์แอพที่แปลกใหม่ และบริการคลาวด์ นอกเหนือจากความร่วมมือที่ประกาศในวันนี้แล้ว บริษัททั้งสองจะสำรวจโอกาสในการสานต่อความร่วมมือสำหรับเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence – AI), ระบบวิเคราะห์ข้อมูล และระบบงานเอกสารอัตโนมัติที่ชาญฉลาด รวมถึงการยกระดับการทำงานบนระบบคลาวด์ให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
นายอับเฮย์ พาราสนิส ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคโนโลยีของอะโดบี กล่าวว่า “อะโดบีและไมโครซอฟท์ร่วมมือกันเพื่อยกระดับประสบการณ์การทำงานร่วมกันภายในองค์กรที่ทันสมัย โดยอาศัยข้อมูล การระบุตัวตนของผู้ใช้ และระบบอัจฉริยะ เราทั้งสองบริษัทจะร่วมกันพัฒนาบริการคลาวด์แบบครบวงจร โดยใช้โซลูชั่นระดับชั้นนำอย่าง Adobe Sign และ Office 365 ซึ่งช่วยให้องค์กรธุรกิจปรับปรุงการดำเนินงานโดยใช้เทคโนโลยีดิจิตอล ควบคู่ไปกับการนำเสนอประสบการณ์สุดประทับใจให้แก่ลูกค้า”
นางเพ็กกี้ จอห์นสัน รองประธานบริหารฝ่ายพัฒนาธุรกิจของไมโครซอฟท์ กล่าวว่า“ภายใต้ความร่วมมือกับอะโดบี เรามุ่งมั่นที่จะสนับสนุนความคิดสร้างสรรค์ และสนับสนุนวัฒนธรรมของการทำงานร่วมกันเป็นทีมสำหรับลูกค้าที่ทำงานร่วมกันของเรา เพื่อให้พวกเขาสามารถปลดล็อกสร้างโอกาสต่างๆ ด้วยรูปแบบการทำงานที่พัฒนาอย่างรวดเร็วในปัจจุบัน ไมโครซอฟท์มีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ขยายความร่วมมือกับอะโดบีให้ครอบคลุม 3 บริการคลาวด์ของเรา ได้แก่ Microsoft Azure, Office 365 และ Dynamics 365 ซึ่งจะช่วยให้ลูกค้าได้รับประโยชน์จากการผนวกรวมเทคโนโลยีเพื่อนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงทางดิจิตอล”
การผนวกรวมเทคโนโลยีชุดแรกภายใต้ความร่วมมือในครั้งนี้คาดว่าจะพร้อมใช้งานสำหรับลูกค้าภายในไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า
- การผนวกรวมระหว่าง Microsoft Office 365 และ Adobe Sign จะนำเสนอการเซ็นชื่อแบบอิเล็กทรอนิกส์ที่รวดเร็วและปลอดภัยบน Office 365 รวมถึง Microsoft Word, Microsoft Powerpoint และ Microsoft Outlook ซึ่งจะรองรับการเซ็นชื่อในเอกสารแบบอิเล็กทรอนิกส์บนทุกอุปกรณ์ได้อย่างง่ายดาย
- การผนวกรวม Adobe Creative Cloud และ Adobe Stock เข้ากับ Microsoft Teams จะช่วยให้ลูกค้าของอะโดบีที่ทำงานด้านครีเอทีฟสามารถเข้าถึงพื้นที่ทำงานร่วมกันระดับโลก ซึ่งจะเพิ่มความรวดเร็วในการแสดงความเห็นเกี่ยวกับงานครีเอทีฟ การทบทวน และการตัดสินใจ การผนวกรวม Microsoft Teams จะขยายไปสู่ Adobe Experience Cloud ในอนาคต
- การผนวกรวม Adobe Sign เข้ากับ Microsoft Teams จะเพิ่มความรวดเร็วให้กับกระบวนการสร้าง อนุมัติ และเซ็นชื่อในข้อตกลงอิเล็กทรอนิกส์ โดยครอบคลุมหลากหลายทีมงาน แอพ Adobe Sign ใน Microsoft Teams ประกอบด้วยแท็บสำหรับส่งเอกสารเพื่อเซ็นชื่อ และบ็อทที่ช่วยให้สมาชิกทีมสามารถจัดการและติดตามเอกสาร
- การผนวกรวม Adobe Sign กับ Microsoft Flow จะช่วยให้ผู้ใช้สามารถสร้างเวิร์กโฟลว์ดิจิตอลแบบครบวงจร ด้วยการเพิ่ม Adobe Sign ให้กับกระบวนการ Microsoft Flow อีกไม่กี่เดือนข้างหน้า องค์กรต่างๆ จะได้รับประโยชน์จากการผนวกรวม Flow เข้ากับแอพพลิเคชั่นอื่นๆ ของไมโครซอฟท์ เช่น SharePoint, Dynamics และ OneDrive
นายเจมี่ แมคเลแลน ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคโนโลยีของ J. Walter Thompson Worldwide กล่าวว่า “เมื่ออะโดบีและไมโครซอฟท์ผนึกกำลังร่วมกันเพื่อสร้างสรรค์นวัตกรรม ลูกค้าก็จะได้รับประโยชน์อย่างมาก ในฐานะผู้ใช้งาน Microsoft Teams, Adobe Sign และ Adobe Creative Cloud อย่างจริงจัง เรารู้สึกยินดีกับประโยชน์ที่ได้รับจากการผนวกรวมเทคโนโลยีดังกล่าว ซึ่งจะช่วยปรับปรุงความคิดสร้างสรรค์ การทำงานร่วมกันเป็นทีม และประสิทธิภาพโดยรวมในเอเจนซี่ของเรา”
นายอลัน เลพอฟสกี้ รองประธานและหัวหน้านักวิเคราะห์ของ Constellation Research กล่าวว่า “บริษัทที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในปัจจุบันให้ความสำคัญกับการเสริมศักยภาพให้แก่พนักงานเพื่อให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ประสิทธิภาพการทำงานของบุคลากรมักจะถูกลดทอนเมื่อต้องใช้หลายๆ แอพพลิเคชั่นที่ไม่สามารถทำงานร่วมกันได้อย่างเหมาะสม การผนวกรวมระบบที่รองรับการทำงานร่วมกันของทีม ลายเซ็นอิเล็กทรอนิกส์ และเนื้อหาครีเอทีฟเข้าด้วยกัน ช่วยให้ลูกค้าได้รับประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นอย่างมาก และปูทางไปสู่การปรับปรุงวิธีการทำงานในอนาคต”
การวางจำหน่าย
Adobe Sign สำหรับ Microsoft Dynamics และ Microsoft SharePoint พร้อมใช้งานแล้ว ส่วนการผนวกรวม Adobe Sign สำหรับ Microsoft Teams, Microsoft Flow, Microsoft Word, Microsoft PowerPoint และ Microsoft Outlook คาดว่าจะพร้อมใช้งานภายในช่วงไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า และการผนวกรวม Adobe Creative Cloud เข้ากับ Microsoft Teams คาดว่าจะพร้อมใช้งานภายในช่วงไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้าเช่นกัน ตามมาด้วยการผนวกรวม Experience Cloud