สสว. จับมือ 5 สถาบันดัง แถลงข่าวเปิดโครงการเอสเอ็มอีออนไลน์ ปีที่3 ชูแนวคิด Digital to Global ปั้นผู้ประกอบการเอสเอ็มอีลุยตลาดออนไลน์สากล
นายสุวรรณชัย โลหะวัฒนกุล ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) กล่าวในงานแถลงข่าวโครงการส่งเสริมพัฒนาตลาดอิเล็กทรอนิกส์สำหรับเอสเอ็มอี ปีงบประมาณ 2562 ว่า สสว. ได้ดำเนินการร่วมกันกับมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี (มทร.ธัญบุรี) มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และสถาบันพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม เปิดโครงการเอสเอ็มอีออนไลน์ปีที่ 3 ภายใต้แนวคิด Digital to Global ยกระดับศักยภาพผู้ประกอบการไทยสู่ตลาดออนไลน์สากล ผ่าน e-Marketplace ชั้นนำทั้งระดับโลกและระดับภูมิภาค
โดยโครงการเอสเอ็มอีออนไลน์ปีที่ 3 จะมุ่งเน้นการเพิ่มช่องทางสร้างยอดขายและส่งเสริมผู้ประกอบการเอสเอ็มอีทั่วประเทศให้มีโอกาสเข้าถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมายได้สะดวก โดยเข้าไปช่วยเตรียมความพร้อมในการนำสินค้าเข้าสู่ตลาดออนไลน์ ให้ความรู้และคำปรึกษาในการทำธุรกิจบนตลาดออนไลน์ การจัดกิจกรรมสนับสนุนการขายบนตลาดออนไลน์ อาทิ การส่งเสริมการขาย การชำระเงิน การส่งสินค้าให้ถึงมือลูกค้าอย่างเป็นระบบ สร้างความรู้ความเข้าใจและยกระดับผู้ประกอบการในการดำเนินธุรกิจค้าขายทางออนไลน์อย่างยั่งยืน
จากตัวเลขในปี 2560 – 2561 มีเอสเอ็มอีที่เข้าร่วมโครงการได้รับความรู้เกี่ยวกับการทำตลาดออนไลน์แล้วกว่า 120,000 ราย เตรียมความพร้อมในการถ่ายภาพสินค้าและจัดทำรายละเอียดสินค้ากว่า 265,000 ผลิตภัณฑ์ และสามารถเปิดร้านค้าออนไลน์ได้กว่า 20,000 ร้านค้า และสร้างยอดขายให้กับผู้ประกอบการกว่า 450 ล้านบาท และเป้าหมายสำคัญของโครงการในปี 2562 คือการต่อยอด ส่งเสริมและพัฒนาผู้ประกอบการภายใต้แนวคิด Digital to Global มุ่งยกระดับศักยภาพผู้ประกอบการให้พร้อมแข่งขันในตลาดออนไลน์ระดับสากล ผ่าน e-Marketplace ชั้นนำ เช่น Amazon และ Alibaba ขายสินค้าไปทั่วโลก Far-e ขายตลาดจีน Kha-leang.com ขายตลาดเวียดนาม กัมพูชา และ พม่า Shopee เชื่อมโยงตลาดสิงคโปร์ PCHome เชื่อมโยงตลาดไต้หวัน Priceza เชื่อมโยงตลาด Southeast Asia
“การดำเนินงานของ สสว. และ 5 หน่วยร่วม พร้อมด้วยสมาคมผู้ประกอบการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ไทย จะเปิดการอบรมให้ผู้ประกอบการทั่วประเทศ โดยการถ่ายทอดองค์ความรู้ในทุกมิติทั้งแบบ Online, Offline และ Workshop ฝึกปฏิบัติจริง ตั้งแต่การถ่ายภาพสินค้า การจัดทำเนื้อหาสินค้า การเปิดร้านค้าออนไลน์ การทำ Digital Marketing และการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขาย โดยมีเป้าหมายในการส่งเสริมผู้ประกอบการไม่น้อยกว่า 50,000 ราย เตรียมความพร้อมสินค้าและบริการไม่น้อยกว่า 100,000 ผลิตภัณฑ์ และสร้างยอดขายให้กับผู้ประกอบการไม่น้อยกว่า 640 ล้านบาท เพื่อเสริมสร้างศักยภาพผู้ประกอบการให้มีความพร้อมในการแข่งขันในโลกดิจิทัล ทั้งระดับประเทศและระดับนานาชาติได้” นายสุวรรณชัย กล่าว
สำหรับหน่วยร่วมสำคัญทั้ง 5 แห่ง ได้แบ่งพื้นที่รับผิดชอบทั่วประเทศ โดย มทร.ธัญบุรี รับผิดชอบพื้นที่ภาคกลางและตะวันตก ม.ราชภัฏสวนสุนันทา รับผิดชอบพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคตะวันออก ม.เชียงใหม่ รับผิดชอบพื้นที่ภาคเหนือตอนบน สถาบันพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม รับผิดชอบพื้นที่ภาคใต้ และ ม.ธรรมศาสตร์ รับผิดชอบพื้นที่ภาคเหนือตอนล่าง ขณะเดียวกันยังได้บูรณาการความร่วมมือกับ e-Marketplace เพื่อสนับสนุนและมอบสิทธิพิเศษแก่ผู้ประกอบการที่เข้าร่วมโครงการ คือ Lazada, Shopee, Thailandmall, Far-e, Kha-leang.com, Inwmall, Tarad.com, PCHome, Beautynista, Pinsouq, shopseason, Priceza, Wongnai และ Hungryhub
ด้าน รศ.ดร.ประเสริฐ ปิ่นปฐมรัฐ อธิการบดี มทร.ธัญบุรี กล่าวในฐานะหน่วยร่วมว่า สสว. ให้โอกาสกับมหาวิทยาลัยได้ร่วมทำงานมาอย่างยาวนาน จึงมีประสบการณ์กับกลุ่มเอสเอ็มอีหลายกลุ่ม และมีงานวิจัย นวัตกรรม สิ่งประดิษฐ์ และมีศูนย์นวัตกรรมและความรู้มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี “RMUTT Innovation and Knowledge Center” ที่พร้อมจะเชื่อมโยง บูรณาการและส่งเสริมผู้ประกอบการเอสเอ็มอีอย่างเต็มศักยภาพตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำและปลายน้ำ ในการสร้างมาตรฐานและคุณภาพระดับสูงต่อไป และกล่าวอีกด้วยว่า “เอสเอ็มอีเปรียบเสมือนเส้นเลือดของประเทศ ถ้าเอสเอ็มอีเข้มแข็ง ประเทศไทยก็เข้มแข็ง”
ผู้ประกอบการที่สนใจเข้าร่วมสามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมและสมัครเข้าร่วมโครงการกับหน่วยงานร่วมในแต่ละพื้นที่ทั่วประเทศฟรี โดยไม่มีค่าใช้จ่ายใดทั้งสิ้น และติดตามรายละเอียดได้ที่ Facebook : SMEONLINE BY OSMEP และแอปพลิเคชั่น SME CONNEXT
เห็นภาพบรรยากาศเริ่มต้น ที่ทุกภาคส่วนร่วมมืออย่างแข็งขันอย่างนี้แล้ว…รับรองว่าเศรษฐกิจไทยจะคึกคักมากกว่าที่เป็นอยู่แน่นอน!!