ออฟฟิศที่ดีควรมีบรรยากาศสบายเหมาะกับการทำงาน ซึ่งแน่นอนนว่าการทำให้ออฟฟิศโปร่งด้วยการลดของที่ไม่จำเป็น และใช้เทคโนโลยีเข้าช่วยในบางจุดก็จะช่วยให้ออฟฟิศโดนใจคนทำงานมากยิ่งขึ้น
มีคนเคยกล่าวว่าเราใช้เวลาอยู่กับออฟฟิศมากกว่าอยู่บ้าน ซึ่งความเป็นจริงก็ดูจะใกล้เคียงกับคำพูดดังกล่าว ด้วยเหตุนี้การทำให้ออฟฟิศน่าอยู่น่าทำงานจึงกลายเป็นเรื่องจำเป็นขึ้นมาทันที ออฟฟิศที่ดีควรมีบรรยากาศสบายเหมาะกับการทำงาน ซึ่งแน่นอนว่าการทำให้ออฟฟิศโปร่งด้วยการลดของที่ไม่จำเป็น และใช้เทคโนโลยีเข้าช่วยในบางจุดก็จะช่วยให้ออฟฟิศโดนใจคนทำงานมากยิ่งขึ้น วันนี้พี่มิ้งค์มี “4 ไอเดียปรับออฟฟิศให้ไฮเทคโดนใจ SME” มาฝากครับ
1.เปลี่ยนผนังให้เป็นมากกว่าผนัง
เป็นที่รู้กันดีว่าการ Brainstorm (ระดมความคิด) ถือเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมสำคัญของการทำงานในยุคนี้ แต่เพราะพื้นที่เรามีจำกัด การทำให้ผนังออฟฟิศให้เป็นมากกว่าผนังจึงเป็นสิ่งที่เรามักทำกัน ถ้าทำแบบง่ายๆ ก็อาจแค่หากระดานไวท์บอร์ดมาติด แต่ก็อาจดูเชยไปนิดเพราะเดี๋ยวนี้โปรเจ็กเตอร์รุ่นใหม่ๆ ก็สามารถยิงเข้าผนังแล้วใช้ปากกาที่มาพร้อมโปรเจ็กเตอร์เพื่อการเขียน และสามารถเซฟเก็บเป็นภาพไว้เป็นรายงานสรุปการประชุม
2.โต๊ะสมานฉันท์
ว่ากันว่าความคิดสร้างสรรค์มักมาพร้อมกับบรรยากาศทำงานที่แปลกใหม่เสมอ ดังนั้นแนวคิด Sharing Space หรือการเตรียมพื้นที่ในออฟฟิศให้คนทำงาน สามารถโยกย้ายเปลี่ยนที่นั่งทำงานได้ตามใจชอบจึงเริ่มมีให้เห็นในหลายออฟฟิศ เพียงแต่บริษัทต้องวางระบบให้คล่องตัวมากที่สุด อาทิ การใช้เครื่องพิมพ์ที่เชื่อมต่อกับเน็ตเวิร์ก ที่ไม่ว่าจะสั่งพิมพ์ตรงไหนภายในออฟฟิศก็ทำได้ ดังนั้นช่วงเช้าเราอาจเลือกไปนั่งทำงานที่ชั้น 2 แต่บ่ายๆ อาจขยับไปทำงานที่ชั้น 4 แทน เพราะจะได้ดูวิวที่หน้าต่างช่วงบ่ายๆ ก็เป็นได้
3.ไร้สายช่วยได้เยอะ
ต่อเนื่องจากไอเดีย “โต๊ะสมานฉันท์” บวกกับยุคเส้นสายกำลังจะหมดไป (หมายถึงสายไฟ สายแลน ที่รกรุงรังนะครับ) ใช่แล้วครับพี่มิ้งค์กำลังพูดถึงการทำให้ออฟฟิศเป็นระบบไร้สาย เนื่องจากมีระบบอินเตอร์เน็ตไร้สายที่เสถียรมากขึ้น แถมเทคโนโลยีไร้สายสมัยนี้ยังช่วยในการทำงานแบบ Remote ที่แม้ตัวจะอยู่นอกออฟฟิศ แต่ยังสามารถสั่งงานด้วยระบบไร้สายเหมือนมีออฟฟิศเคลื่อนที่
4.เลือกเฟอร์นิเจอร์ Multi-Function
ไอเดียนี้คงคล้ายๆ กับสำนวนยิงปืนนัดเดียวได้นกหลายตัว การเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์ในออฟฟิศก็เช่นกัน ที่เราควรเลือกซื้อแบบที่ใช้งานได้หลายอย่าง เพราะช่วยลดพื้นที่วางของ ทำให้ออฟฟิศดูโล่งสะอาดตา ตัวอย่างเช่น หาโซฟาที่ปรับเป็นที่เก็บของ หรือใช้โต๊ะที่สามารถยืดขยายได้เพื่อรองรับคนประชุมที่มากขึ้น และที่ขาดไมได้เลยคือเลือกเครื่องพิมพ์ประเภทมัลติฟังก์ชัน ที่ทำได้ทั้งพิมพ์ ถ่ายเอกสาร สแกน และแฟ็กซ์ ซึ่งปัจจุบัน Brother ก็มีเครื่องพิมพ์เลเซอร์ขาวดำมัลติฟังก์ชัน ที่ตอบโจทย์ในเรื่องนี้ ได้แก่ รุ่น MFC-L2715DW, MFC-L2570DW, และ MFC-L2770DW ที่เน้นเรื่องศักยภาพในการพิมพ์ที่เหนือกว่า ไม่ว่าจะเป็นความเร็วในการพิมพ์ 34 แผ่น/ นาที พิมพ์แผ่นแรกรวดเร็วทันใจ เชื่อมต่อแบบไร้สายบนอุปกรณ์เคลื่อนที่ ประหยัดค่าใช้จ่าย ด้วยโทนเนอร์ที่พิมพ์ได้สูงสุดถึง 3,000 หน้า พิมพ์งานได้มากขึ้น ด้วยต้นทุนต่อหน้าที่ต่ำลง นอกจากนี้ยังมีฟังก์ชันรักษาความปลอดภัยอย่าง Secure Function Lock (เฉพาะรุ่น , MFC-L2570DW, และ MFC-L2770DW) ช่วยจำกัดการเข้าถึงโดยใช้ PIN แก่ผู้ใช้ที่ได้รับอนุญาตเท่านั้น
รายละเอียดเพิ่มเติม http://bit.ly/monolaserprinter
