รีวิว : Mi WiFi Router 3 มาพร้อม Dual Band สัญญาณแรง แซงทะลุราคา

Mi WiFi Router 3 เราเตอร์รุ่นเบาบางและราคาย่อมเยาอีกรุ่น รอบนี้มาพร้อม Dual Band ปล่อยสัญญาณทั้ง 2.4 GHz กับ 5 GHz ในความเร็วรวม AC1200

หลังรีวิวศิษย์น้อง Mi Router 3C ไปแล้ว คราวนี้มาดูศิษย์พี่ Mi Router 3 บ้าง ก็เป็น WiFi Router รุ่นบางเบาอีกตัวจาก Xiaomi โดยสีขาวล้วนเหมือนกัน หน้าตาก็เหมือนกัน เพียงแต่ตัวนี้มีขนาดใหญ่ขึ้นเล็กน้อย และมาพร้อม Dual Band ปล่อยสัญญาณทั้ง 2.4 GHz กับ 5 GHz ในความเร็วรวม AC1200 อัพเกรดสเปกแรมกับรอมเพิ่มเป็น 128MB กับซีพียู MT7620A สุดท้ายช่อง USB 2.0 หนึ่งพอร์ต เรียกได้ว่าเป็นศิษย์พี่ที่บรรลุวิชาไปอีกขั้นนั้นเอง สำหรับเจ้า Mi Router 3 ก็มีชื่อเสียงเลื่องลือมาไม่น้อย ถึงหน้าตาที่ไม่รู้จะบางไปไหน กับราคาที่ตัดหน้า Router รุ่นอื่นพอควร คือถูกมาก ๆ ผิดกับสเปกในตัวมัน แบบนี้ต้องพิสูจน์ !! มาดูกันเลยครับ

สเปก Mi Wifi Router 3 (ดูรายละเอียดได้ที่นี่)

  • เสาสัญญาณ Powerful high gain external จำนวน 4 เสา (2.4G x 2, maximum 5dBi; 5G x2, maximum 6 dBi)
  • เป็น Dual Band รองรับการปล่อยสัญญาณทั้ง WiFi 2.4GHz (300Mbps) และ 5 GHz (867Mbps) รวมเป็น AC1200
  • รองรับ Router Mode/Accesspoint Mode/Repeater Mode
  • รองรับ IEEE 802.11a/b/g/n/ac กับ IEEE 802.3/3u
  • ระบบความปลอดภัย WPA-PSK/WPA2-PSK encryption, wireless access control, SSID hiding, intrusion detection, DoS protection, access control manager และ SSID isolation
  • หน่วยประมวลผล MediaTek MT7620A
  • แรม 128MB DDR2 รอม 128MB SLC Nand Flash
  • พอร์ตเชื่อมต่อ LAN (10/100M) จำนวน 2 ช่อง กับ WAN (10/100M) จำนวน 1 ช่อง
  • พอร์ต USB 2.0 จำนวน 1 ช่อง
  • ควบคุมการทำงานผ่านแอพฯ MI WIFI ใช้งานได้ทั้ง Android กับ iOS
  • ขนาด : 19.50 x 13.10 x 2.35 cm
  • น้ำหนัก : 220 g

แกะกล่อง

ในกล่องก็ประหยัดอุปกรณ์เหมือนเคย โดยมีแค่ตัวเครื่อง ชุดไฟเลี้ยง และคู่มือกับ QR-code โหมดตัวแอพฯ Mi Wi-Fi เท่านั้น

วัสดุและดีไซน์

หน้าตาไม่ต่างจาก Mi Router 3C (เหมือนเลยดีกว่า) ตัวเครื่องมาเป็นสีขาวคลีน ๆ บางเบา และใช้พลาสติกผิวเรียบลื่นเหมือนกัน ต่างแค่ขนาดที่ใหญ่ขึ้นเล็กน้อยเท่านั้น

จุดเด่นของ Mi Router 3 ก็ยังคงอยู่ที่ความบางนี้เอง

สำหรับเสาสัญญาณทั้ง 4 ที่ยังคงยาวได้ใจ แต่รุ่นนี้จะเป็น 2.4GHz x 2 (5dBi) และ 5GHz x 2 6 (dBi) อย่างละ 2 เสา สองสัญญาณ Dual Band มาพร้อมความเร็ว AC1200 แบ่งเป็น 300Mbps สำหรับ 2.4GHz และ 867Mbps สำหรับ 5 GHz

ช่องระบายความร้อนใต้ล่าง และช่องบอกรายละเอียดตัวเครื่อง

สภาพตอนกางเสาทั้ง 4

ด้านหลัง ก็ประกอบไปด้วยพอร์ต LAN 2 ช่อง และ WAN 1 ช่อง กับช่องเสียบไฟเลี้ยงแบบ AC แต่รุ่นนี้จะมีพอร์ต USB 2.0 ให้อีกหนึ่งช่อง เอาไว้ทำ File Server เก็บไฟล์ข้อมูลส่วนตัว เพื่อทำเป็น Cloud ขนาดย่อม ๆ ของตัวเองได้

ประสิทธิภาพ

บรรยากาศขณะทดสอบ (มี Home Cloud เพิ่มมาหนึ่ง)

ไฟบอกสถานะดวงเดียวของเขา… (มีสีส้ม แดง และน้ำเงิน)

เช่นเคย การใช้งานตัว Mi Router 3 ต้องติดตั้งแอพฯ Mi Wi-Fi ก่อน จากนั้นก็ Setup เครื่อง และตั้งรหัส Wi-Fi ให้เรียบร้อย

เนื่องจากมี Dual Band และช่อง USB 2.0 ทำให้มีบางฟีเจอร์เพิ่มเข้าใหม่ต่างจากรุ่น 3C ด้วย เดี๋ยวลองมาไล่ดูกันว่ามีอะไรบ้าง

เริ่มจาก “Storage” เนื่องจากตัวเครื่องมีช่อง USB 2.0 ทำให้เราสามารถเอาแฟลชไดร์ฟหรือ External Harddisk มาต่อเพิ่มเติมได้ ก็จะได้เป็น Cloud ขนาดย่อมของตัวเอง สามารถเข้าถึงไฟล์ต่าง ๆ ผ่านอินเทอร์เน็ตได้ทุกที่มุกเวลาเลย

ต่อไปก็ “Dual-band Wi-Fi” เป็นฟีเจอร์ช่วยเลือกการเชื่อมต่อสัญญาณ 2.4 GHz และ 5 GHz ให้เองอัตโนมัติ โดยมันจะวิเคราะห์เองเลยว่า อยู่ตรงไหนควรต่อสัญญาณไหนถึงจะดีที่สุด ก็ช่วยให้เรารู้จักใช้ 5 GHz บ้าง มากกว่า 2.4 GHz ที่ใช้ประจำ (และมีปัญหาสัญญาณชนกันบ่อย ๆ เพราะใช้กันเยอะ) ได้ดีทีเดียว

ลองเทสความแรงสัยญาณ WiFi ก็เหมือนกับรุ่น 3C เลยครับ สัญญาณ 2.4 GHz ยังคงแรงได้ใจเมื่อเทียบกับ Router ตัวอื่น ๆ ส่วน 5 Ghz ก็ไล่เลี่ยกัน แซงบ้าง ไม่แซงบ้าง และเมื่อลองเทสความเร็วอินเทอร์เน็ต ก็ต้องตกใจที่มันพุ่งไปถึง 30 Mbps กันเลย

ทีนี้ลองออกห่างมา 2 ห้อง ความแรงสัญญาณก็ลดลงตามธรรมเนียม

คราวนี้ลองเทสความเร็วอินเทอร์เน็ตผ่านเว็บ speedtest ยอดนิยม ก็ยังคงได้ความเร็ว 30 Mbps แถมมากกว่าเก่าอีก (ภาพซ้าย 2.4 GHz ภาพขวา 5 GHz) ตรงนี้ลองเทสดูหลาย ๆ ครั้งแล้ว ก็ยังคงได้ความเร็วนี้เสมอ

สรุป

ตอนรีวิวตัว Mi Router 3C ก็ทึ่งในความแรงของมันแล้ว มาลองรุ่น Mi Router 3 ที่เป็นศิษย์พี่ใหญ่นี้ ก็ทึ่งยิ่งกว่าเดิมครับ คือมันแรงจริง แต่ก็มีข้อเสียตรงแอพฯ ที่ยังดูไม่ค่อยสมบูรณ์ตามที่เคยรีวิวไป และตัวเครื่องค่อนข้างมีความร้อนสะสม หลังลองเชื่อมต่อหลาย ๆ อุปกรณ์ ซึ่งน่าจะมาจากความบางของเครื่องนี้เอง สำหรับ Dual Band กับ USB 2.0 ก็ทำให้ตัวเครื่องตอบโจทย์คนใช้ Wi-Fi ได้มากขึ้น สุดท้ายราคาของ Mi Router 3 ก็อยู่ที่ประมาณ 1,290 บาทเท่านั้น ถูกมาก และมีราคามากกว่ารุ่น 3C ไม่มากเลยครับ