ผลประกอบการของ Facebook ในไตรมาส 4 ประจำปี 2013 (ตุลาคม-ธันวาคม) ยังมีอัตราการเติบโตและสร้างรายได้ถึง 2.58 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันในปี 2012 ถึง 63% นับเป็นการเติบโตที่ทำให้มาร์ก ซัคเกอร์เบิร์ก (Mark Zuckerberg) ซีอีโอ Facebook ยิ้มไม่หุบเลยทีเดียว
อย่างไรก็ตามการก้าวเข้าสู่ปี 2014 ยังถือว่ามีความท้าทายรอ Facebook อยู่พอสมควร โดยเฉพาะอย่างยิ่งการรักษาฐานผู้ใช้ให้คงอยู่กับ Facebook ต่อไป หรือการเพิ่มจำนวนผู้ใช้ให้มากขึ้นด้วยการพัฒนาระบบออนไลน์ให้สามารถเข้าถึงผู้คนในประเทศกำลังพัฒนาให้มากขึ้น ซึ่ง Markellos Diorinos ผู้จัดการฝ่ายการสร้าง engagement ของ Upstream วิเคราะห์ว่าการดำเนินนโยบาย Facebook for Every Phone ในยุครุ่งเรืองนี้อย่างต่อเนื่องส่งผลต่อการสร้างกำไรได้อย่างเป็นกอบเป็นกำ นอกจากนี้ในการวิจัยของ Upstream ยังพบว่าความพึงพอใจต่อการใช้ Facebook บนมือถือถึงน้อยกว่าเดสก์ทอปก็จริงอยู่ แต่มูลค่าการใช้งานบนมือถือยังสูงกว่าเดสก์ทอปถึง 92%
Markellos Diorinos กล่าวต่อไปว่าผู้ใช้ Facebook บนฟีเจอร์โฟนยังมีอัตราที่สูงกว่า Android และ iPhone ซึ่ง Facebook จำเป็นต้องเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับการกำหนดเป้าหมายเพื่อการโฆษณาให้มากขึ้น รองรับกับกลุ่มผู้เข้าชมอื่นๆ ทั้งที่หลายปีที่ผ่านมาแทบไม่มีความเป็นไปได้เลย
นอกจากนี้ในบางช่วงเวลาแอพ Facebook Messenger ยังได้รับความนิยมมากกว่าแอพ Facebook หลัก เนื่องจากผู้ใช้มือถือใช้งานเพื่อติดต่อกับผู้อื่นนั่นเอง แต่อย่างไรก็ตาม Facebook บนมือถือยังเป็นเรื่องที่ยุ่งยากต่อการจัดการอย่างจริงจัง นอกเสียจากการใช้งานบนเดสก์ทอป
ทั้งนี้การให้บริการอินเทอร์เน็ตยังเป็นปัจจัยสำคัญที่จะช่วยให้บริการ Facebook สามารถเข้าถึงตลาดเกิดใหม่ได้ โดย Markellos Diorinos ระบุว่าเป็นประเทศในแทบแอฟริกาที่ถึงจะเป็นตลาดเกิดใหม่ที่ใหญ่พอสมควรแต่ยังขาดแคลนในเรื่องของการเข้าถึงอินเทอร์เน็ต ดังนั้นโครงการ internet.org หรือการทำให้ประชาชนในประเทศโลกที่ 3 มีช่องทางใช้งานอินเทอร์เน็ตได้สะดวกและสามารถใช้ประโยชน์จากอินเทอร์เน็ตได้แบบทั่วถึง ที่มีมาร์ก ซัคเกอร์เบิร์ก เป็นตัวตั้งตัวตีอยู่ขณะนี้จึงเป็นหนทางที่จะช่วยให้อินเทอร์เน็ตกับผู้ใช้ในตลาดเกิดใหม่สามารถเชื่อมถึงกันได้ ตลอดจนเป็นก้าวแรกที่จะนำไปสู่การใช้ Facebook ต่อไป
source : insidefacebook
