“อินฟินิกซ์” รุกตลาดระดับไฮเอนด์ เปิดตัวสมาร์ทโฟนรุ่น “ZERO 5” สุดยอดเทคโนโลยี ดันเป็นเรือธงรุ่นใหม่ล่าสุด เอาใจสาวกคอเกมส์ ชี้พิกัดวางจำหน่าย 12 ธันวาคมนี้
เปิดตัว Infinix ZERO 5 ชูจุดขาย RAM ขนาด 6 GB ขับเคลื่อนด้วย CPU Helio P25 พร้อมกล้องหลังคู่แบบออฟติคอลซูม รองรับการซูมถึง 10 เท่า กล้องหน้า 16ล้านพิกเซล พร้อมโหมด Bokeh ให้เซลฟี่สวยแบบหน้าเป๊ะ หลังฟุ้ง หน้าจอแสดงผลขนาด 5.98 นิ้ว Full HD สุดยอดเทคโนโลยีจาก SHARP พร้อมเปิดศูนย์บริการแห่งที่ 2 ที่ห้างไอทีสแคร์ หลักสี่ ในเดือนมกราคม 61
บริษัท อินฟินิกซ์ โมบิลิตี้ จำกัด (Infinix Mobility) เดินหน้ารุกตลาดประเทศไทย ก้าวสู่เดือนที่ 3 ปล่อยทีเด็ดเอาใจคนชอบใช้งานแอปพลิเคชั่นหนักๆ โดยออกผลิตภัณฑ์ล่าสุด สมาร์ทโฟนรุ่น “ZERO 5” ซึ่งได้เปิดตัวและกำหนดวางจำหน่ายแล้วผ่านตัวแทนจำหน่ายและช่องทางออนไลน์ โดยนำเสนอสุดยอดเทคโนโลยีและการออกแบบโทรศัพท์มือถือที่ทันสมัย เพื่อมุ่งตอบโจทย์การใช้งานของผู้บริโภค และสร้างประสบการณ์ใหม่ๆ ผ่านงานสุดยอดงานดีไซน์ และเทคโนโลยีมามัดใจคอเกมส์และโปร กล้องทั่วประเทศ
คุณจุลลดา ทรัพย์สารสิน กรรมการบริหาร บริษัท อินฟินิกซ์ ไทยแลนด์ กล่าวว่า อินฟินิกซ์ เป็นแบรนด์ที่มุ่งเน้นนำเสนอเทคโนโลยีทางการสื่อสารเพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคในยุคดิจิตอลจากประเทศจีน โดยมีการเจริญเติบโตแบบก้าวกระโดดมาโดยตลอด โดยแบรนด์อินฟินิกซ์ได้ก่อตั้งขึ้นในปี 2013 ด้วยจุดมุ่งหมายที่จะโฟกัสเรื่องของธุรกิจสมาร์ทโฟน ผ่านการวิจัยและการพัฒนาบนพื้นฐานประสบการณ์การใช้งานจริงของผู้บริโภค โดยมีศูนย์การออกแบบอยู่ที่ประเทศฝรั่งเศส และเซี่ยงไฮ้ ซึ่งประสบความสำเร็จเป็นอย่างสูงในฐานะอินเตอร์
อินฟินิกซ์ เป็นแบรนด์ที่ทำตลาดมาแล้วทั่วโลก โดยในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ได้ทำตลาดมาแล้ว ทั้งในอินโดนีเซีย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ เวียดนาม และการมาเมืองไทยครั้งนี้ อินฟินิกซ์มุ่งที่จะนำเสนอเทคโนโลยีที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ในทุกเซกเม้นท์ ในราคาที่สมเหตุสมผล มุ่งเน้นคุณภาพ การออกแบบ และความรวดเร็วในการให้บริการหลังการขาย พร้อมกับเน้นการพัฒนาและสร้างความสัมพันธ์กับช่องทางการจัดจำหน่ายให้แข็งแกร่งซึ่งถือหัวเป็นหัวใจหลักในการทำตลาดในประเทศไทย โดยเราได้แต่งตั้ง บริษัท เทเลทัช จำกัด ให้เป็นตัวแทนนำเข้าและจำหน่ายอย่างเป็นทางการ เพื่อบริหารและวางนโยบายช่องทางการจัดจำหน่าย โดยปัจจุบันอินฟินิกซ์ได้วางจำหน่ายสินค้าแล้วทั่วประเทศโดยเฉพาะในช่องทางต่างจังหวัด สามารถสร้างยอดผู้ใช้งานได้มากกว่า 10,000 เครื่อง จากยอดเครื่องนำเข้ากว่า 20,000 เครื่อง โดยมุ่งเน้นกิจกรรมทางการตลาด ณ จุดขาย เพื่อสร้างประสบการณ์ความพึงพอใจให้กับลูกค้าที่ได้สัมผัสคุณภาพของเครื่องจริง ร่วมกับการทำการตลาดบนสื่อออนไลน์ ทั้งจากเฟสบุ๊คอินฟินิกซ์เอง รวมถึงการรีวิวสินค้าในเวปไซด์ เพจ และบล็อกเกอร์ชั้นนำต่าง ๆ รวมถึงการนำเสนอสินค้าในช่องทางออนไลน์เพื่อสร้างความสะดวกในการเข้าถึงลูกค้า อาทิเช่น Lazada และ Shopee
ในด้านบริการหลังการขาย อินฟินิกซ์ยังชูจุดขายหลักเพื่อสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้าด้วยแคมเปญ “ประกันหน้าจอแตก 1 ปี เปลี่ยนฟรีไม่มีเงื่อนไข” ที่มอบให้กับลูกค้าที่ซื้ออินฟินิกซ์ทุกรุ่น
ผลิตภัณฑ์ของอินฟินิกซ์ แบ่งออกได้เป็น 4 กลุ่มด้วยกัน กล่าวคือ กลุ่ม HOT Series ซึ่งเป็นกลุ่มแรกที่เรานำเข้ามาทำตลาดในไทย ได้แก่ HOT4 Pro และรุ่น Smart ซึ่งได้รับการตอบรับจากลูกค้าเป็นอย่างดี เน้นความคุ้มค่าของราคา ด้วยหน้าจอขนาดใหญ่คมชัดแบบ HD ระบบเสียงคุณภาพสูงด้วยเทคโนโลยี Dirac 3D Surrounding และแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ กลุ่มที่สองคือ S Series เป็นกลุ่มสินค้าที่จับกลุ่มลูกค้าที่ชอบการถ่ายภาพแล้วอัพขึ้นโซเชี่ยลมีเดีย กับ S2Pro ที่ชูจุดขายที่กล้องหน้าคู่พร้อมเลนส์มุมกว้างสูงที่สุด 135 องศา เป็นเครื่องแรก เพื่อให้ลูกค้าสนุกกับมุมมองการถ่ายใหม่แบบ Wefie เก็บหมดไม่ตกกรอบ สำหรับกลุ่มที่สามคือ NOTE Series ที่อินฟินิกซ์เพิ่งแนะนำเข้าตลาดมาเมื่อ 2 เดือนที่แล้ว คือ รุ่น NOTE4 Pro ที่มาพร้อมกับปากกา Xpen เพื่อสร้างประสบการณ์สำหรับลูกค้าที่ชอบการจดบันทึก การทำโน้ต หรือชอบตกแต่งภาพคอมเมนท์ภาพผ่านสมาร์ทโฟน และกลุ่มสินค้า ZERO Series ที่นำเสนอเทคโนโลยีระดับสูงเพื่อตอบโจทย์ในด้านความเร็วแรงด้วย RAM 6 GB ในการใช้งาน และเทคโนโลยีกล้องถ่ายภาพในระดับกล้องโปร กับ ZERO 5 ที่มาพร้อมกับเทคโนโลยีกล้องหลังคู่แบบออฟติคอลซูม โดยจากการตอบรับในการทำตลาดในช่วงไตรมาสที่ผ่านมา ทำให้เรามั่นใจได้ว่าในปี 2561 เราจะบรรลุยอดขายกว่า 300,000 เครื่อง อย่างแน่นอน
ขณะที่ คุณปิยะพงษ์ บัวบาน ผู้จัดการฝ่ายผลิตภัณฑ์ กล่าวว่า สำหรับสมาร์ทโฟนรุ่น “ZERO 5” ถือเป็นรุ่นเรือธงของแบรนด์อินฟินิกซ์ จะวางจำหน่ายในเดือนธันวาคมศกนี้ เรานำเสนอสุดยอดเทคโนโลยี เอาใจผู้ที่ชื่นชอบใช้งานเครื่องแบบฮาร์ดคอ โดยเฉพาะกลุ่มคอเกม และผู้ที่ต้องเปิดใช้งานแอปพลิเคชันหนักๆ พร้อมกันหลายตัว ดังนั้น ZERO 5 จึงตอบโจทย์ด้วย RAM ขนาด 6 GB พร้อม CPU HelioP25 และสำหรับโปรกล้องที่ชอบการถ่ายภาพ เรียกได้ว่าแชะทุกที่ แชร์ทุกโมเมนต์ด้วยเทคโนโลยีกล้องหลังคู่ ด้วยเทคโนโลยีออฟติคอลซูม ด้วยแบบเลนส์เทเลโฟโต้ขนาด 13 ล้านพิกเซล และเลนส์ไวด์ขนาด 12 ล้านพิกเซล ที่รองรับการซูมถึง 10 เท่า และกล้องหน้าขนาด 16 ล้านพิกเซล ที่มาพร้อมโหมด Bokeh เพื่อให้มั่นใจว่าทุกช็อต สวย เก๋ แบบหน้าเป๊ะ หลังฟุ้ง พร้อมหน้าจอขนาดใหญ่ 5.98 นิ้ว ความละเอียดระดับ Full HD จาก SHARP แบบอึดขนาด 4,350 มิลลิแอมป์ พร้อมเทคโนโลยี Xcharge4.0 ล่าสุดของอินฟินิกซ์ ที่ชาร์จเพียง 10 นาที ก็สามารถคุยต่อได้ถึง 230 นาที นอกจากนั้นเติมเต็มประสิทธิภาพของตัวเครื่อง ใช้งานสะดวก ปลอดภัย เป็นส่วนตัวยิ่งขึ้น และสนุกกับธีมดาวน์โหลดแบบไม่อั้น กับ XOS3.0 ฮัมมิ่งเบิร์ด
นอกจากนั้นยังได้จัดแคมเปญประกวดภาพถ่ายสำหรับลูกค้าที่ใช้ ZERO5 โดยแบ่งการประกวดออกเป็น 3 กลุ่ม คือ Portrait, Natural และAnimal ซึ่งผู้ชนะเลิศในแต่ละกลุ่ม จะได้รับแพ็คเก็จเดินทางยังเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีนอีกด้วย ซึ่งสามารถติดตามได้จากเฟสบุ๊คอิน
“ต้องบอกเลยว่า ได้รับการตอบรับจากลูกค้าเป็นที่น่าพึงพอใจ ฟีดแบคของลูกค้าที่ได้จับเครื่อง และใช้งานเครื่องของอินฟีนิกซ์ ส่วนใหญ่จะประทับใจคุณภาพตัวเครื่อง การดีไซน์ ฮาร์ดแวร์ และซอฟต์แวร์ที่มีทีม R&D เอง ลูกค้าจะสนุกกับแอฟพลิเคชั่น และธีมดาวน์โหลดต่าง ๆ ที่เราเตรียมไว้สำหรับลูกค้าอินฟินิกซ์โดยเฉพาะ สำหรับผู้ที่ต้องการดูข้อมูลเพิ่มเติมสามารถติดตามข่าวสารอินฟินิกซ์ได้ที่ Facebook www.facebook.com/InfinixThailand และ www.infinix.mobility.com/th” คุณปิยะพงษ์ กล่าวทิ้งท้าย