จำได้ว่าผมมีโอกาสรีวิว Moto G5 Plus ไปเมื่อปลายเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา หลังจากนั้นไม่กี่เดือน Moto G5s Plus ก็เปิดตัวตามมาติด ๆ ซึ่งครั้งนี้ผมก็ไม่พลาดหยิบมาบอกเล่าข้อดี ข้อเสีย พร้อมข้อแตกต่างที่โดดเด่นขึ้นจากรุ่นก่อนหน้าครับ
สเปค Moto G5s Plus
- ขนาดตัวเครื่องโดยรวม 153.5 x 76.2 x 8.0 มิลลิเมตร น้ำหนัก 168 กรัม
- ใส่ได้ 2 ซิม ประเภท Nano SIM
- หน้าจอขนาด 5.5 นิ้ว ความละเอียด Full HD (1920 x 1080 พิกเซล 401 ppi), กระจกครอบหน้าจอ Corning Gorilla Glass 3
- ระบบปฏิบัติการ Android 7.1 Nougat
- ชิพประมวลผล Qualcomm Snapdragon 625 Octa-Core ความเร็ว 2.0GHz, GPU : Adreno 506
- แรม 4GB, หน่วยความจำภายใน 32GB, รองรับ microSD card ความจุสูงสุด 128GB
- กล้องหลังคู่ ความละเอียด 13 ล้านพิกเซล, รูรับแสง f/2.0, แฟลช LED, รองรับการบันทึกวีดีโอที่ความละเอียดสูงสุด 4K Ultra HD (30 fps)
- กล้องหน้าความละเอียด 8 ล้านพิกเซล, รูรับแสง f/2.0, แฟลช LED
- พอร์ตเชื่อมต่อ Micro USB 2.0, ช่องต่อหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตร
- มีสแกนลายนิ้วมือที่ปุ่มโฮม
- ป้องกันละอองน้ำด้วยเทคโนโลยี Nano-Coating
- แบตเตอรี่ความจุ 3000 mAh พร้อม turbopower ชาร์จ 15 นาที ใช้งานได้สูงสุด 6 ชั่วโมง
- ราคา 9,990 บาท
ตัวเครื่อง
ตัวเครื่อง Moto G5s Plus มีขนาดแตกต่างจาก Moto G5 Plus ครับ หนากว่า น้ำหนักมากกว่า ขนาดหน้าจออัพเกรดใหญ่ขึ้นจาก 5.2 นิ้ว เป็น 5.5 นิ้ว ความละเอียดเท่าเดิม แต่ค่า ppi ใน G5s Plus น้อยกว่ารุ่น G5 Plus จอแสดงผลถูกครอบด้วยกระจก Corning Gorilla Glass 3 กันรอยขีดข่วน ด้านหลังเป็นโลหะที่ขึ้นรูปในลักษณะที่เรียกว่า Unibody ซึ่งภาพรวมดีไซน์เปลี่ยนไปอย่างชัดเจนครับ
ส่วนปุ่มที่มีหน้าตาคล้ายปุ่มโฮมยังคงเป็นตำแหน่งสำหรับสแกนลายนิ้วมือ ส่วนปุ่มโฮมจะอยู่ท้ายสุดบนหน้าจอ เช่นเดียวกับปุ่ม back และ recent app
กล้องหลังคู่
โมดูลกล้องยังยื่นออกมาจากตัวเครื่องครับ มากับเลนส์คู่ ความละเอียด 13 ล้านพิกเซล เพิ่มขึ้นจากรุ่น G5 Plus แต่ภายในไมได้มาพร้อมเทคโนโลยี Dual Pixel ถูกทดแทนด้วยระบบปรับแต่งความตื้นลึกของภาพ ส่วนค่ารูรับแสงเป็น f/2.0 แตกต่างจากรุ่น G5 Plus ที่ใช้รูรับแสง f/1.7 ส่วนโหมดอื่น ๆ ในกล้องหลังยังประกอบไปด้วย โหมดพาโนรามา และโหมด Pro ครับ
UI จากโหมดกล้องหลัง
ซึ่งความแตกต่างที่เกิดขึ้นกับกล้องหลังของ G5s Plus ผมพอเข้าใจได้ว่าทาง Motorola พยายามทำให้เห็นว่าในรุ่นนี้มีอะไรที่เด่นกว่า G5 Plus บ้าง แม้จะมีการตัดเทคโนโลยี Dual Pixel ที่ผมคิดว่าเป็นจุดที่ช่วยให้การถ่ายภาพมีประสิทธิภาพครับ แต่การทดแทนด้วยระบบปรับแต่งความตื้นลึกของภาพก็น่าจะช่วยให้ผู้ที่ชอบถ่ายภาพแบบชัดตื้น หรือหน้าชัดหลังเบลอได้สนุกไปอีกแบบ และที่สำคัญหากนำเทคโนโลยีทุกอย่างใส่ลงไปพร้อมกันหมด ราคาของ Moto G5s Plus คงสูงกว่า 9,990 บาทแน่นอนครับ
โหมด “Dept enable”
การถ่ายภาพหน้าชัดหลังเบลอ จะมีโหมดที่เรียกว่า “Dept enable” มาให้เลือกครับ ซึ่งเราสามารถกำหนดจุดที่ต้องการโฟกัส เพื่อให้จุดอื่นๆ เบลอได้ก่อนกดถ่ายภาพ นอกจากนี้หลังจากที่้เราถ่ายภาพด้วยโหมด Dept enable เสร็จแล้ว ยังสามารถแก้ไขลักษณะของการเบลอได้ในภายหลัง ซึ่งจะมีโหมดให้เลือก ได้แก่ การเลือกจุดที่ต้องการให้เป็นขาวดำ, เลือกจุดที่ต้องการโฟกัส และการเปลี่ยนพื้นหลัง
สำหรับกล้องหน้า อัพเกรดขึ้นจาก 5 ล้านพิกเซล เป็น 8 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.0 มีแฟลชมาให้ พร้อมโหมดการถ่ายภาพบุคคล HDR, โหมด Beauty และโหมด Pro ครับ
ตัวอย่างภาพถ่าย
โหมด Dept enable
Pure Android
เป็นสมาร์ทโฟน Android อีกหนึ่งรุ่นที่ใช้ระบบปฏิบัติการแบบ Pure Android ไม่มีการใช้ UI ใด ๆ ครอบทับ เพื่อให้ผู้ใช้ได้สัมผัสกับประสิทธิภาพที่ลื่น ไม่สะดุดในระหว่างใช้งาน พร้อมการันตีว่าจะเป็นสมาร์ทโฟนที่ได้ไปต่อกับ Android ในเวอร์ชันใหม่ ๆ
ฟีเจอร์สำหรับใช้งานรวม ๆ ถือว่าทั่วไปครับ จะมีที่ดูจำเป็นหน่อยตรง Moto Display ที่จะคอยแจ้งเตือนเวลา, SMS และแชท แสดงขึ้นเรื่อย ๆ แม้ในเวลาปิดหน้าจอครับ สามารถแตะเพื่อเปิดอ่านได้ทันทีครับ
รีวิว Moto G5s Plus กับบทสรุป
ในราคา 9,990 บาท เป็นสิ่งที่คนทั่วไปสามารถจับต้องได้ครับ ดีไซน์ของ G5s Plus แตกต่างจากรุ่น G5 Plus อาจจะมีหลายจุดที่ดูขัดใจไปบ้าง เช่น โมดูลกล้องหลังที่ยังยื่นออกมาจากตัวเครื่อง, ฟีเจอร์เด่น ๆ อย่าง Dual Pixel กับรูรับแสง f/1.7 ถูกปรับเปลี่ยนและทดแทนด้วยระบบปรับแต่งความตื้นลึกของภาพ ในมุมนึงก็ถือว่าเป็นการแยกรูปแบบการใช้งานที่ชัดเจนจากรุ่นก่อนหน้าครับ
ขณะที่แบตเตอรี่ความจุ 3000 mAh ถ้าเป็นคนที่ใช้งานไม่เยอะ สามารถทะลุไปเกือบสองวันก็ยังทำได้สบายๆ ครับ