ทีโอที เลือกดีแทค ให้เป็นคู่ค้าทางธุรกิจเพื่อเข้าสู่การให้บริการไร้สายบนคลื่นความถี่ 2300 MHz ภายใต้เทคโนโลยีไร้สายล่าสุด 4G LTE-TDD อินเทอร์เน็ตความเร็วสูงผ่านโทรศัพท์เคลื่อนที่
นายมนต์ชัย หนูสง กรรมการผู้จัดการใหญ่ทีโอที เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการทีโอที มีมติเห็นชอบให้ดีแทค เป็นคู่ค้าในการให้บริการไร้สายคลื่นความถี่ 2300 MHz ตามที่ฝ่ายบริหารเสนอ โดยดีแทคจะเป็นผู้ดำเนินการจัดตั้งสถานีฐานประมาณ 20,000 แห่งให้กับทีโอทีเช่าใช้งาน โดยทีโอทีเป็นผู้บริหารจัดการโครงข่ายสื่อสารไร้สายนี้ด้วยตนเอง และจะให้บริษัทในกลุ่มฯ ใช้บริการ โดยทีโอทีจะมีรายได้ปีละ 4,510 ล้านบาท สำหรับการใช้งานโครงข่ายร้อยละ 60 โดยความสำเร็จครั้งนี้ทีโอทีต้องขอขอบคุณรัฐบาลโดยกระทรวงดิจิทัลเศรษฐกิจและสังคม, กสทช. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่ให้การสนับสนุนในครั้งนี้
ซึ่งวัตถุประสงค์ครั้งนี้แน่นอนว่าเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มทางธุรกิจโดยการพัฒนาบริการด้วยเทคโนโลยีใหม่ 4G LTE-TDD ที่มีช่องสัญญาณกว้างถึง 60 MHz สามารถให้บริการดาวน์โหลดได้ถึง 300 Mbps และใช้ทรัพยากรที่มีอยู่ให้เกิดประโยชน์สูงสุด พร้อมกับเป็นการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมตามนโยบาย Thailand 4.0 ด้วย
นายลาร์ส นอร์ลิ่ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารดีแทค เปิดเผยว่า ความร่วมมือระหว่างดีแทคและทีโอทีที่จะเปิดให้บริการไร้สาย 4G LTE-TDD บนคลื่นความถี่ 2300 MHz ที่มีช่องสัญญาณกว้างถึง 60 MHz กว้างที่สุดในอุตสาหกรรมโทรคมนาคมไทย จะยกระดับประสบการณ์การใช้งานอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงบน mobile broadband ของผู้ใช้งานดิจิทัลไปอีกขั้นและยังเป็นการเปิดมิติใหม่ในการพัฒนาการสื่อสารและโครงสร้างพื้นฐานของโทรคมนาคมครั้งใหญ่ที่สำคัญที่สุดครั้งหนึ่งในไทย และเป็นการช่วยส่งเสริมให้การใช้งานดิจิทัลเพื่อสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจใหม่ ส่งเสริมเศรษฐกิจฐานรากของประเทศ และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่นขันบนเวทีโลก
ทั้งนี้ ทีโอทีและดีแทคจะเริ่มเข้าสู่กระบวนการจัดทำร่างสัญญาณทางธุรกิจ โดยดีแทคเชื่อมั่นว่าจะสามารถบรรลุข้อตกลงและได้รับอนุมัติจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ทั้งหมดภายในไตรมาส 4 ของปี 2560 เมื่อสามารถบรรลุกระบวนการจัดทำร่างสัญญาธุรกิจ จะช่วยขยายโครงข่ายบริการอินเทอร์เน็คความเร็วสูงครอบคลุมประชากรร้อยละ 80 ของประเทศ
สำหรับสมาร์ทโฟนที่รองรับ 4G LTE-TDD ได้ มีดังนี้
ตระกูล dtac ได้แก่
– dtac x2 / dtac x3 / dtac s3
ตระกูล Apple ได้แก่
– iPhone 7/ 7 Plus
– iPhone 6s / 6s Plus
– iPhone 6 / 6 Plus
– iPhone 5s / 5c
– iPhone SE
ตระกูล Samsung ได้แก่
– Galaxy S8 / S8+
– Galaxy S7 / S7 Edge
– Galaxy S6 Edge / S6 Edge Plus / S6
– Galaxy A7 2017 / A5 2017
– Galaxy A7 2016 / A5 2016
– Galaxy A8 / A9 Pro
– Galaxy J7 / J5
ตระกูล Huawei ได้แก่
– P10 / P10 Plus
– P9 / P9 Plus
– Mate 9 / Mate 9 Pro / Mate 9 Porsche Design
– Mate 8
– Mate 7
– Nova Plus
– GR5 2017 / G5R
นอกจากทั้ง 4 แบรนด์แล้ว ยังมีสมาร์ทโฟนจาก Sony, OPPO, ASUS, HTC, ZTE, Nubia, Meizu, Nokia และ Xiaomi บางรุ่นที่รองรับ 4G LTE-TDD