แนวโน้มของการนำเสนอคอนเทนต์ในปัจจุบันต้องยอมรับว่าวีดีโอเป็นรูปแบบคอนเทนต์ที่ได้ความนิยมเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่ง Facebook เองก็เห็นพ้องว่าต้องเทรนด์ที่กำลังเป็นไปในขณะนี้ พร้อมประกาศชัดเจนว่าคอนเทนต์ประเภทวีดีโอจะถูกให้ความสำคัญมากขึ้น และจะเป็นอีกช่องทางสร้างรายได้ให้กับผู้ผลิตคอนเทนต์และ Facebook เองด้วย
โฆษณาบนวีดีโอที่ถูกโพสต์ลง Facebook ได้เริ่มทดสอบไปแล้วตามการยืนยันจากเว็บไซต์ Recode โดยโฆษณาจะปรากฎในช่วงกลางของวีดีโอมีลักษณะคล้ายกับโฆษณาทางโทรทัศน์ จะเริ่มแสดงก็ต่อเมื่อเล่นวีดีโอไปแล้วอย่างน้อย 20 วินาที ซึ่งเงื่อนไขของการแสดงโฆษณาจะแบ่งเป็นสองรูปแบบ ได้แก่ โฆษณาที่จะปรากฏบน Live Video จะต้อง Live ไปแล้วอย่างน้อย 4 นาที ก่อนจะเข้าสู่ช่วงโฆษณาได้ และในรูปแบบของ Video Streaming จะต้องมีผู้ชมพร้อมกันอย่างน้อย 300 คน และโฆษณาแต่ละชิ้นจะมีเวลาอย่างน้อย 20 วินาที
สิ่งสำคัญในเรื่องของการแบ่งรายได้โฆษณา ทาง Facebook ระบุว่าตอนนี้ได้มีการทดสอบในกลุ่มสื่อสิ่งพิมพ์บางส่วนของสหรัฐอเมริกา โดยรายได้ 55% จะเป็นของสื่อสิ่งพิมพ์ และอีก 45% จะเป็นของ Facebook
อย่างไรก็ตามการแทรกโฆษณาในขณะเล่นวีดีโอบน Facebook ยังเป็นเพียงการทดสอบในกลุ่มสื่อสิ่งพิมพ์บางส่วน ซึ่งเงื่อนไข ตลอดจนช่วงเวลาการโฆษณาอาจมีการปรับเปลี่ยนได้ตลอดเวลาเพื่อให้เกิดความเหมาะสมของทั้งผู้ผลิตสื่อและ Facebook แต่ทั้งนี้สิ่งที่เกิดขึ้นดังกล่าวเริ่มแสดงให้เห็นชัดเจนว่า Facebook กำลังพัฒนาแพลตฟอร์มของตัวเองให้เสมือนโทรทัศน์เคลื่อนที่อย่างเต็มรูปแบบเพื่อดึงดูดผู้ผลิตสื่อ ผู้ผลิตคอนเทนต์ ให้หันมานำเสนอคอนเทนต์วีดีโอและรายการต่างๆ บน Facebook มากขึ้น
แต่น่าคิดเหมือนกันว่าหากรูปแบบการโฆษาณาบนวีดีโอที่คาดว่าจะเข้ามาในประเทศไทยด้วยแน่นอน จะยิ่งเป็นตัวฉุดให้อุตสาหกรรมทีวีและหนังสือในบ้านเราดิ่งลงอีกมากน้อยแค่ไหน แม้จะเป็นหนทางหารายได้และเพื่อความอยู่รอด แต่ตัวเลขรายได้กับเงินที่ต้องแบ่งให้กับ Facebook จะคุ้มค่ากับการเปลี่ยนแปลงตามเทคโนโลยีหรือไม่ เป็นเรื่องที่คนทำคอนเทนต์และผู้ผลิตสื่อน่าคิดไม่น้อยครับ