รีวิว Huawei GR5 2017 ในความเรียบง่าย โดดเด่นด้วยกล้องหลังคู่ กับราคาไม่เกินหมื่น

ความต่อเนื่องของการทำตลาดสมาร์ทโฟนในประเทศไทยของ Huawei ไม่ได้เน้นเฉพาะกลุ่มตลาดพรีเมียมเพียงอย่างเดียว แต่ยังรวมไปถึงกลุ่มตลาดระดับกลางไปจนถึงระดับล่าง หรือกลุ่มคนที่มีรายได้ปานกลางไปจนถึงผู้มีรายได้น้อย ในการเปิดตัว Huawei GR5 2017 กลายเป็นสมาร์ทโฟนที่ถูกกล่าวถึงอย่างมาก เนื่องด้วยการนำกล้องหลังคู่มาประดับไว้กับตัวเครื่อง พร้อมการตั้งราคาที่แทบไม่น่าเชื่อว่ามีราคาไม่เกิน 9,000 บาท ซึ่งรีวิวครั้งนี้แอดมินจะนำทุกท่านมารู้จักกับความพิเศษของสมาร์ทโฟนรุ่นนี้กันครับ

รีวิว Huawei GR5 2017

สเปค Huawei GR5 2017 มีดังนี้

– ตัวเครื่องมีขนาดความบาง 8.2 มิลลิเมตร น้ำหนัก 162 กรัม

– หน้าจอขนาด 5.5 นิ้ว ความละเอียด Full HD (1080 x 1920 พิกเซล)

– ระบบปฏิบัติการ: Android 6.0 Marshmallow ครอบทับด้วย EMUI 4.1

– หน่วยประมวลผล Huawei Kirin 655 แบบ Octa-Core ความเร็ว 2.1GHz

– หน่วยประมวลผลกราฟิก Mali-T830 MP2 GPU

– แรม 3GB, หน่วยความจำภายใน 32GB, รองรับ microSD Card ความจุสูงสุด 128GB

– ใช้งานได้ 2 ซิมการ์ด ประเภท NANO SIM

– กล้องหลังแบบเลนส์คู่ ความละเอียด 12 + 2 ล้านพิกเซล

– กล้องหน้าความละเอียด 8 ล้านพิกเซล

– รองรับสแกนลายนิ้วมือที่ปุ่มด้านหลัง

– แบตเตอรี่ความจุ 3340mAh ถอดฝาหลังและแบตเตอรี่ไม่ได้

– ราคา 8,900 บาท

การออกแบบ

ลักษณะภายนอกของ Huawei GR5 2017 ด้านหน้าใช้กระจกหน้าจอแบบ 2.5D เป็นส่วนประกอบหลัก ติดฟิลม์มาให้ตั้งแต่แรกเลย ด้านหลังใช้วัสดุอลูมิเนียมแบบผิวเรียบ ซึ่งจะแตกต่างจาก Huawei GR5 รุ่นก่อนหน้านี้ ที่ใช้อลูมิเนียม-แมกนีเซียมอัลลอยอันมีลักษณะมันวาว มีน้ำหนักและและความหนาเพิ่มขึ้นจากรุ่นก่อนหน้าเล็กน้อย แต่ไม่ได้เป็นอุปสรรคแก่การหยิบถือ โดยการออกแบบตัวเครื่องยังมีลักษณะโค้งเว้าเล็กน้อย เพื่อให้สะดวกต่อการหยิบในทุกท่วงท่า หรือหยิบขึ้นจากการวางบนโต๊ะได้ง่ายขึ้นนั่นเอง

จุดอื่นๆ ภายนอกในแต่ละส่วน ได้แก่ ด้านหน้ามีไฟ LED, เซนเซอร์ตรวจวัดสภาพแสง, ลำโพงสนทนา, กล้องหน้า 8 ล้านพิกเซล และปุ่มกดอย่างปุ่มย้อนกลับ, ปุ่ม home, ปุ่ม recent app เรียงอยู่ท้ายสุดของหน้าจอ ด้านหลังจะเป็นกล้องหลังแบบเลนส์คู่ 12+2 ล้านพิกเซล, แฟลช LED ถัดลงมาจากกล้องหลังก็จะเป็นปุ่มสแกนลายนิ้วมือ

ขอบด้านบนเป็น headphone jack ขนาด 3.5 มิลลิเมตร กับรูไมโครโฟนขนาดจิ๋ว, ขอบล่างสุดแบ่งเป็นลำโพงแยกกันซ้ายขวา คั่นกลางด้วยพอร์ต micro-USB 2.0

ขอบด้านซ้ายเป็นถาดใส่ซิมที่ใช้ถึง 2 ซิม หรือใส่ microSD Card เพิ่มได้ ในกรณีที่ใช้เพียงซิมเดียว และสุดท้ายขอบด้านขวาเป็นปุ่มเพิ่ม-ลดเสียง กับปุ่มพาวเวอร์

การทดสอบเมนูต่างๆ

Huawei GR5 2017 รันด้วยระบบปฏิบัติการ: Android 6.0 Marshmallow ครอบทับด้วย EMUI 4.1 เป็น User Interface รุ่นเก่า (ปัจจุบันเป็นรุ่น EMUI 5.0) การจัดวางแอพพลิเคชันยังคงยึดแนวทางเดิมของ Huawei ที่ไม่มี App Drawer หรือหน้ารวมแอพฯ ทำให้แอพฯ ที่ถูกติดตั้งมากับเครื่องหรือโหลดมาเพิ่มเติมจะถูกจัดวางบนหน้า home ทั้งหมด ฉะนั้นใครที่ชอบโหลดมาแอพฯ เยอะ ถ้าไม่อยากเสียเวลาหาแอพฯ แล้วล่ะก็ แนะนำว่าให้สร้างโฟลเดอร์แยกเป็นหมวดหมู่ไว้ดีที่สุดครับ

ลักษณะทั่วไปของ EMUI 4.1 สามารถปรับแต่งรูปแบบของการเลื่อนหน้า home ไปยังหน้าอื่นๆ ได้ สามารถเพิ่มวิตเจ็ตเพื่อกำหนดให้เมนูอื่นๆ ที่คิดว่าจำเป็นต่อการใช้งานมาแสดงอยู่บนหน้า home ได้ ส่วนแจ้งเตือน (Notification Bar) จะถูกแบ่งเป็น 2 ส่วน ได้แก่ ส่วนที่แสดงการแจ้งเตือนจากแอพฯ ต่างๆ และส่วนถัดมาจะเป็นเมนูลัดที่ให้เราเปิดปิดใช้งานเมนูอื่นๆ ได้โดยง่าย

ส่วนของการจัดการด้านพลังงาน Huawei GR5 2017 มีเมนูตัวจัดการแบตเตอรี่ ที่ภายในยังแบ่งออกเป็นตัวเลือกให้เราเลือกใช้สำหรับประหยัดพลังงาน โดยหากใครไม่แน่ใจว่าจะเลือกใช้ตัวเลือกใดดี แต่ละเมนูจะมีคำอธิบายกำกับไว้ให้เราเลือกใช้เมนูประหยัดแบตเตอรี่ได้อย่างเหมาะสมและตรงตามที่เราต้องการ

การใช้งานด้านความบันเทิง

หนึ่งในการทดสอบด้วยการเล่นเกม ความลื่นขณะเล่นเป็นอย่างราบรื่นดีครับไม่ปรากฏอาการสะดุดขณะเล่น ตัวเครื่องจะอุ่นขึ้นเมื่อเล่นไปสักระยะหนึ่ง ซึ่งถือเป็นเรื่องปกติของการใช้เล่นเกมครับ แต่เมื่อปิดแอพฯ เลิกเล่นแล้ว ตัวเครื่องก็กลับเข้าสู่สภาวะปกติในเวลาไม่นานครับ ส่วนของเสียงที่แสดงออกมาจากลำโพงซ้ายขวาค่อนข้างดังเมื่อปรับระดับเสียงจนสุด ใครที่อยากใช้ Huawei GR5 2017 เปิดเพลงฟังตอนเช้าๆ ขณะแต่งตัวก่อนออกนอกบ้านก็ถือว่าเข้าท่าไม่น้อยครับ อิอิ

ภาพจากการทดสอบเล่นเกมผ่าน Huawei GR5 2017

กล้องถ่ายภาพ

กล่าวได้ว่าเป็นจุดเด่นอย่างยิ่งสำหรับ Huawei GR5 2017 เป็นครั้งแรกที่ Huawei นำเอากล้องหลังแบบเลนส์คู่มาประกอบไว้กับสมาร์ทในราคาไม่เกินหมื่น แต่ต้องทำเข้าใจกันเล็กน้อยครับว่าในรุ่นนี้ไม่ได้มีการเทคโนโลยีจาก Leica เข้ามาใช้ด้วย (ถ้านำมาใช้ด้วยราคาน่าจะสูงกว่านี้) ซึ่งเทคนิคของกล้องหลังเลนส์คู่ในรุ่นนี้ เลนส์ตัวแรกจะมีความละเอียด 12 ล้านพิกเซล เลนส์ตัวที่สองมีความละเอียด 2 ล้านพิกเซล เมื่อผสมผสานให้เข้ากันแล้วจะช่วยให้เกิดการสร้างภาพที่มีมิติตื้นลึกได้อย่างโดดเด่น โดยที่ผู้ใช้ที่ไม่ได้มีทักษะการถ่ายภาพก็สามารถถ่ายภาพให้ออกมางดงามได้

แน่นอนว่าใน  Huawei GR5 2017 ยังมาพร้อมโหมด “Wide Aperture” ตัวช่วยถ่ายภาพแบบหน้าชัดหลังเบลอ แบบเดียวกับ Huawei P9 และ Huawei Mate 9 เป็นการใช้เทคนิคปรับขนาดรูรับแสงเพื่อให้เกิดภาพในลักษณะชัดเบลอ ซึ่งหากผู้ใช้ต้องการโฟกัสที่จุดใดเป็นพิเศษให้แตะไปที่จุดๆ นั้น ซึ่งจะทำให้ในจุดอื่นๆ เบลอ โดยผู้ใช้สามารถปรับหน้าชัดหลังเบลอได้แบบเรียลไทม์หรือก่อนการถ่ายภาพ หรือหากถ่ายไปแล้วไม่ถูกใจก็สามารถกลับไปปรับแต่งเพิ่งเติมได้ในภายหลังครับ

โหมดอื่นๆ ยังมีมาให้เลือกใช้งานมากมายเช่นเดียวกับ Huawei P9 และ Huawei Mate 9 เข้าถึงได้ง่ายเพียงเปิดกล้อง และ swipe ไปทางขวามือ

User Interface จากกล้องหลัง

กล้องหน้าเป็นอีกหนึ่งเรื่องสำหรับคนชอบเซลฟี่ โดยในรุ่นนี้จะมาพร้อมความละเอียด 8 ล้านพิกเซล มีโหมดปรับแต่งหน้าสวยมาให้เลือกใช้กันได้ตามความพึงพอใจ สามารถปรับความขาวใสได้ถึง 10 ระดับ

User Interface จากกล้องหน้า

ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องหลัง

โหมดถ่ายภาพปกติ

เปรียบเทียบภาพถ่ายโหมดปกติกับโหมดถ่ายภาพกลางคืน

ภาพซ้าย เป็นภาพที่ถ่ายด้วยโหมดปกติ ภาพขวา ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพกลางคืน (แนะนำว่าการถ่ายลักษณะนี้มือต้องนิ่งพอสมควร หรือใช้ตัวช่วยอื่นๆ เช่น ใช้ขาตั้งกล้องช่วย เป็นต้น)

สรุปภาพรวมรีวิว Huawei GR5 2017

ภายนอกของการออกแบบมาในสไตล์ที่เรียบง่าย เน้นการหยิบจับที่สะดวกและคล่องแคล่ว หน้าจอแสดงผลแม้จะเป็นความละเอียด Full HD แต่สีสันค่อนข้างจืด เมนูเพื่อเรียกใช้ฟีเจอร์ต่างๆ ให้มาพอสมควร แต่ไม่ได้เยอะจนแน่นเกินไป ขณะที่การเล่นเกมประเภทใช้กราฟิกกลางๆ ถือว่าสอบผ่านได้อย่างสบายๆ มีระบบเสียงที่ให้พลังเสียงที่ค่อนข้างดัง ส่วนของ User Interface ยังคงใช้เวอร์ชันเก่า ซึ่งหวังว่าในอีกไม่ช้าทาง Huawei จะปล่อยซอฟต์แวร์เพื่ออัพเดทให้ทันสมัยต่อไป

กล้องหลังเลนส์คู่ตอบโจทย์ของการถ่ายภาพได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าผู้ใช้ท่านใดจะมีหรือไม่มีทักษะถ่ายภาพก็สามารถสร้างภาพให้ออกมาดูงดงามได้ การมีโหมด Wide Aperture (ถ่ายภาพหน้าชัดหลังเบลอ) รวมไปถึงโหมดต่างๆ นับเป็นตัวช่วยให้ผู้ใช้เกิดความสนุกสนานต่อการถ่ายภาพได้

ทั้งนี้ Huawei GR5 2017 เป็นหนึ่งในสมาร์ทโฟนราคาเพียง 8,900 บาท ที่ให้ความคุ้มทั้งในส่วนของการใช้เพื่อความบันเทิงหรือการถ่ายภาพ ใครที่หวังหากสมาร์ทโฟนสักเครื่องที่ตอบสนองต่อทั้ง 2 เรื่องนี้ Huawei GR5 2017 เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ควรอย่างยิ่งแก่การพิจารณาครับ

LEAVE A REPLY

Please enter your comment!
Please enter your name here