บ่อยครั้งที่มีกระแสข่าวระบุถึงยอดขาย iPhone มีแนวโน้มลดลง จนถึงขนาดมีคำกล่าวที่ว่ากำลังเข้าสู่ยุคเสื่อมถอยของ iPhone อย่างไรก็ดีแม้จะมีคำสบประมาทมากมาย แต่การแถลงผลประกอบการของ Apple ประจำไตรมาสแรกปี 2017 ตามงบการเงินของบริษัท ผลกำไรยังโตต่อเนื่อง และ iPhone ยังเป็นสินค้าที่สร้างรายได้หลัก รวมถึงมียอดขายเพิ่มขึ้นด้วย
ตัวเลขผลประกอบการไตรมาสแรกของ Apple สิ้นสุด ณ วันที่ 31 ธันวามคม ในภาพรวมอยู่ที่ 78.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ คิดเป็นกำไรอยู่ที่ 17.89 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งภาพรวมรายได้ของ Apple ส่วนใหญ่ยังเกิดจาก iPhone ที่เป็นสินค้าหลักที่สร้างรายได้มหาศาลให้กับบริษัท โดยอิทธิพลของ iPhone 7 / 7 Plus ที่เปิดตัวไปเมื่อเดือนกันยายน ปี 2016 สามารถขายได้ถึง 78.29 ล้านเครื่อง คิดเป็นมูลค่าถึง 54.37 พันล้านดอลลาร์สหัฐ เติบโตเพิ่มขึ้น 5% เมื่อเทียบปีต่อปี ซึ่ง iPhone 7 Plus เป็นรุ่นที่ได้รับความนิยมมากที่สุด
ในส่วน iPad ที่มียอดขายลดลงมาตลอดหลายปี ในไตรมาสแรกยังคงมียอดขายลดลงต่อเนื่องเช่นเดิม ทำยอดขายไปได้เพียง 13.08 ล้านเครื่อง ลดลง 19% และรายได้ลดลง 22% เมื่อเทียบปีต่อปี, Mac ทำยอดขายไปได้ 5.37 ล้านเครื่อง ทำรายได้ไปทั้งหมด 7.24 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ โตขึ้น 7% เมื่อเทียบปีต่อปี
ขณะที่รายได้จากบริการต่างๆ รายได้รวมทั้งหมดอยู่ที่ 7.17 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 18% เมื่อเทียบปีต่อปี ส่วนผลิตภัณฑ์อื่นๆ (ได้แก่ Apple Watch Series 1, 2, อุปกรณ์เสริมต่างๆ เป็นต้น) ทำรายได้อยู่ 4.02 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ลดลง 8%
นอกจากนี้ Apple ยังระบุที่มาของรายได้ในไตรมาสแรก โดยรายได้จากประเทศจีนลดลง 12% เมื่อเทียบปีต่อปี, รายได้จากอเมริกาเพิ่มขึ้น 9%, รายได้จากทวีปยุโรปเพิ่มขึ้น 3% , รายได้จากประเทศญี่ปุ่นเพิ่มขึ้น 20% และรายได้จากทวีปเอเชียแปซิฟิกเพิ่มขึ้น 8%
ที่มา Venturebeat, Apple.com
