เมื่อเห็นโลโก้ Nubia แปะอยู่บนสมาร์ทโฟน คนส่วนใหญ่ของอดสงสัยไม่ได้ว่าเป็นใครมาจากไหน จู่ๆ ก็มีสมาร์ทโฟนมาวางขายในไทยซะงั้น ต้องบอกอย่างงี้ครับว่า Nubia เป็นแบรนด์ย่อยที่เกิดจาก ZTE บริษัทด้านเทคโนโลยีและสมาร์ทโฟนจากประเทศจีน แท้ๆ เนื้อๆ แต่ความแตกต่างของแบรนด์ Nubia คือแนวคิดที่เน้นความเป็นตัวเอง ภายใต้สโลแกน “Be Yourself”
ซึ่งเมื่อช่วงปลายปี 2016 ที่ผ่านมา Nubia ประเทศไทย ถือโอกาสเปิดตัวสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ถึง 4 รุ่นด้วยกัน และวันนี้ที่แอดมิน Comtoday (www.aripfan.com) มีโอกาสได้รีวิว Nubia Z11 หนึ่งในสี่รุ่นที่เปิดตัวไป จะน่าสนใจและมีดีอย่างไรบ้าง แอดมินจะบอกเล่าให้รับทราบกันครับ
Nubia Z11 สเปค มีดังนี้
– ตัวเครื่องบาง 7.7 มิลลิเมตร น้ำหนัก 162 กรัม
– ใช้งานได้ 2 ซิมการ์ด
– หน้าจอ IPS LCD ขนาด 5.5 นิ้ว ความละเอียด Full HD ครอบด้วยกระจก Gorilla Glass 3
– ระบบปฏิบัติการ Android 6.0.1 Marshmallow ครอบทับด้วย Nubia UI 4.0 + NeoVision 6.0
– ชิปประมวลผล Qualcomm Snapdragon 820 Quad-Core ความเร็ว 2.2GHz
– แรม 4GB, รอม 64GB รองรับ microSD card ความจุสูงสุด 200GB
– กล้องหลังความละเอียด 16 ล้านพิกเซล, เซนเซอร์ภาพ IMX298, ค่ารูรับแสง f/2.0 และระบบกันสั่น OIS
– กล้องหน้าความละเอียด 8 ล้านพิกเซล ค่ารูรับแสง f/2.4
– ระบบเสียง Dolby Surround 7.1, ระบบ Hi-Fi และมีชิปเสียง AKM4376
– รองรับสแกนลายนิ้วมือ (ปุ่มอยู่ด้านหลัง)
– พอร์ต USB Type-C
– แบตเตอรี่ความจุ 3000mAh
– ราคา 14,990 บาท
การออกแบบ
โลหะและกระจกเป็นส่วนประกอบหลักของ Nubia Z11 รูปแบบยอดนิยมสำหรับสมาร์ทโฟนยุคนี้ มีน้ำหนักเบาเพื่อการหยิบถือที่สะดวกสบาย จุดเด่นของการออกแบบอยู่ที่หน้าจอแสดงผลขนาด 5.5 นิ้ว ใช้พื้นที่บนตัวเครื่องมากพอสมควร โดยเฉพาะขอบจอด้านซ้ายขวาที่มีลักษณะโค้งแบบ 2.5D และชิดตัวขอบตัวเครื่องมากๆ ไม่มีแทบสีดำมาคั่นระหว่างขอบจอและขอบตัวเครื่องทำให้การแสดงผลเต็มพื้นที่
และขอบด้านข้างนี้เองยังมีลูกเล่นซ่อนอยู่จะเป็นยังไงนั้นอ่านรีวิวไปเรื่อยๆ นะครับ ความละเอียดระดับ Full HD ไม่สูงล้ำหน้ารุ่นใด แต่เท่านี้ก็นับว่าให้สีสันที่ค่อนข้างสด รองรับการใช้งานในที่ที่มีแสงมากได้ดี
แต่ละจุดรอบตัวเครื่องไล่เรียงตั้งแต่ด้านหน้า แบ่งเป็นลำโพงสำหรับสนทนากับกล้องหน้า ถัดลงมาจะเป็นปุ่มโฮม พร้อมกับปุ่มเมนู (ซ้าย) และปุ่มย้อนกลับ (ขวา) ที่มีลักษณะเป็นไฟสีแดงจุดเล็กจะแสดงแสงขึ้นมาก็ต่อเมื่อเราไปสัมผัส สามารถตั้งค่าสลับตำแหน่งหน้าที่ได้ ส่วนด้านหลังมาในแนวเรียบง่าย แบ่งเป็นกล้องหลัง แฟลช True Tone และปุ่มสแกนลายนิ้วมือ
ด้านข้างขวามือจะเป็นปุ่มเพิ่ม-ลดเสียง และปุ่มพาวเวอร์ ด้านซ้ายเป็นถาดใส่ซิม ด้านบนแบ่งเป็นช่องเสียบหูฟัง 3.5 มม. รูไมโครโฟนขนาดจิ๋ว และอินฟาเรด ส่วนด้านหลังสุดใช้พอร์ต USB Type-C พร้อมลำโพงคู่ซ้ายขวา
การทดสอบเมนูต่างๆ
ซอฟต์แวร์หลักเป็นระบบปฏิบัติการ Android 6.0.1 Marshmallow ครอบทับด้วย Nubia UI 4.0 + NeoVision 6.0 ทุกแอพฯ ที่ติดตั้งมาตัวเครื่องหรือดาวน์โหลดมาเพิ่มเติมจะเรียงทั้งหมดไว้บนโฮมสกรีน ปุ่มย้อนกลับแทนที่จะทำหน้าที่เดียว หากกดค้างไว้สักครู่จะทำหน้าที่แสดงแอพฯ ที่เปิดค้างไว้ด้วย พร้อมให้เราเลือกปิดแอพฯ นั้นๆ ได้ ส่วนของฟีเจอร์นั้นต้องบอกว่าให้มาไม่น้อยครับ แต่เราสามารถเรียนรู้และเลือกใช้บางฟีเจอร์ที่เรารู้สึกว่าชอบและให้ความสะดวกได้เองครับ
ขอเริ่มที่หน้าโฮมสกรีนก่อนเลย จะมีแอพฯ ที่เรียกว่า “Accelerate” คอยเคลียร์แคชเพื่อเร่งความเร็วให้กับการใช้งาน ใครที่ต้องการให้การใช้งานมีความลื่นไหล ไม่สะดุดอยู่ตลอดเวลา แอพฯ ตัวนี้ถือว่าช่วยได้ในระดับหนึ่งครับ
ส่วนต่อมาเป็นแอพฯ “Screen projection” เราสามารถใช้ Nubia Z11 เชื่อมต่อกับสมาร์ททีวี เพื่อส่งหน้าจอมือถือขึ้นไปแสดงบนจอทีวีได้
แอพฯ “Accelerate” กับ “Screen projection”
เข้ามาถึงเมนูการตั้งค่า ต้องบอกเลยว่าในฟีเจอร์หลักของ Nubia Z11 จะเป็นการเพิ่มความสามารถให้กับขอบหน้าจอ ไม่ใช่แค่แสดงผลอย่างเดียว แต่ยังทำอะได้มากกว่านั้น เพียงเราเข้าไปยังเมนู “Edge gesture” (เลื่อนไปยังขอบ) เราจะพบกับอีก 5 เมนูย่อย แต่ละเมนูสามารถเลือกชมวีดีโอสาธิตการใช้งานเบื้องต้นก่อนได้ ยกตัวอย่างที่เมนูแรก หากเราแตะที่ขอบจอจะซ้ายหรือขวาก็ได้ จะปรากฏหน้าโฮมสกรีนขึ้นมา เป็นอีกวิธีที่ช่วยให้กลับไปหน้าโฮมได้รวดเร็ว หรืออีกเมนู ใช้สองนิ้วแตะที่ขอบจอและเลื่อนขึ้น-ลง เพื่อปรับความสว่างของหน้าจอ เป็นต้น
“Edge gesture” (เลื่อนไปยังขอบ)
เมนู “Features” (โครงสร้าง) มีอีกหลายเมนูน่าสนใจ เริ่มกันที่ “แบ่งหน้าจอ” ตัวเลือกสำหรับคนที่ชอบใช้สองหน้าจอพร้อมกัน เมื่อเปิดใช้เมนูนี้เพียง swipe หน้าจอจากล่างขึ้นบน เท่านี้จะแบ่งเป็นสองหน้าจอให้อัตโนมัติและสามารถเปิดสองหน้าจอได้กับทุกแอพฯ อีกเมนู “ท่าทางสัมผัส” สามารถเลือกได้ว่าเราชอบที่จะใช้เมนูใด ได้แก่ แตะหน้าจอสองครั้งขณะปิดหน้าจอ เพื่อปลุกหน้าจอให้แสดงขึ้นมา หรือการแคปเจอร์หน้าจอด้วยการใช้สามนิ้ว swipe หน้าจอจากล่างขึ้นบน, เมนู “ดูอัลอินสแตนซ์” จะเรียกได้ว่าเป็นการโคลนแอพฯ เพิ่มขึ้นมาอีกหนึ่งแอพฯ สำหรับคนที่ต้องล็อคอินเข้าแอพฯ เดียวกันด้วยสองแอคเคาท์พร้อมกัน และเมนู “จับภาพหน้าจอซูเปอร์” เพียงใช้นิ้วแตะที่ปุ่มสแกนลายนิ้วมือเพียงครู่เดียว จะเป็นการแคปเจอร์ให้ แต่ก่อนที่จะแคปเจอร์จะมีเมนูให้เลือกว่าต้องแคปเจอร์เป็นกรอบสี่เหลี่ยม กรอบวงกลม รูปหัวใจ หรือแคปเจอร์แบบฟรีสไตล์ พร้อมสามารถแคปเจอร์หน้าจอแบบยาวและบันทึกหน้าจอแบบวีดีโอแสดงการทำงานได้อีกด้วย
กล้องถ่ายภาพ
กล้องหลัง Nubia Z11 มีความละเอียด 16 ล้านพิกเซล, เซนเซอร์ภาพ IMX298, ค่ารูรับแสง f/2.0 และระบบกันสั่น OIS การใช้งาน รวมถึงการเข้าถึงโหมดต่างๆ ทำได้ง่าย ใช้งาน swipe ไปมาซ้ายขวาเพื่อเลือกรูปแบบของการถ่ายภาพได้ และมีโหมดกล้องอีกหลายชนิดให้เลือก อาทิ ถ่ายภาพมาโคร, ถ่ายภาพดวงดาว เป็นต้น สำหรับการบันทึกวีดีโอสามารถกำหนดความละเอียดได้สูงสุดระดับ 4K ขณะที่กล้องหน้ามีความละเอียด 8 ล้านพิกเซล ค่ารูรับแสง f/2.4 มีโหมดปรับระดับความเนียนบนใบหน้า รองรับการบันทึกวีดีโอที่ความละเอียดสูงสุด 1080p และสุดท้ายสามารถแตะที่ปุ่มสแกนลายนิ้วมือใช้เป็นชัตเตอร์ถ่ายภาพได้เช่นกัน
UI ของกล้อง Nubia Z11
ตัวอย่างภาพถ่าย
สรุปภาพรวม รีวิว Nubia Z11
ในแง่ของดีไซน์อาจไม่ฉีกหนีจากสมาร์ทโฟนรุ่นทั่วไปนัก แต่การแสดงผลต้องยอมรับว่าเวลาเปิดเล่นเกมหรือดูวีดีโอให้ความรู้สึกว่าไม่มีขอบด้านข้างมากั้นเลย สีสันสดใส สวยงามชัดเจนดีมาก ประสิทธิภาพในด้านความสมูท ความลื่นไหล ระหว่างการทดสอบทำได้ดี ไม่มีอาการสะดุดหรือค้างให้เห็น หน่วยความจำภายในหรือรอมขนาด 64GB ถือว่าเยอะพอสมควร เพียงพอต่อการโหลดหลายๆ แอพฯ มาใช้หรือเก็บรูปภาพจำนวนมากได้ แต่หากไม่อยากที่จะต้องมาลบแอพฯ ลบรูปภาพเมื่อใช้ไปนานๆ เพราะกลัวพื้นที่จะเต็ม ก็สามารถเพิ่ม microSD card ที่รองรับความจุสูงสุดถึง 200GB ได้
กล้องหลังให้ความคมชัด สีของภาพที่ออกมาหลังถ่ายเสร็จออกโทนเข้มเล็กน้อย และภาพให้ความละเอียดสูง โดยภาพจากกล้องหลังความละเอียด 16 ล้านพิกเซล มีขนาดภาพ 4608 x 3456 พิกเซล ขนาดไฟล์ 4.17MB จับภาพได้เร็ว ส่วนกล้องหน้าสามารถปรับความเนียนบนใบหน้าก่อนเซลฟี่ได้หลายระดับ แต่จะให้ดีกว่านี้น่าจะมีโหมดปรับแต่งใบหน้ามาให้ด้วยเลย ฮ่าๆๆ !!
ข้อด้อยบางอย่างมีพบเห็นบ้าง โดยเฉพาะฟีเจอร์ที่มากับขอบจอด้านข้าง การตอบสนองต่อการเรียกใช้ยังมีติดขัดบ้าง และกรณีที่เราเปิดฟีเจอร์แบ่งหน้าจอไว้ การตอบสนองที่รวดเร็วทำให้บางสถานการณ์อาจแบ่งเป็นสองหน้าจอโดยที่เราไม่ตั้งใจ
สุดท้ายนี้ Nubia Z11 เปิดขายแล้วในราคา 14,990 บาท
ขอขอบคุณ Nubia Thailand สำหรับ Nubia Z11 ในการรีวิวครั้งนี้ครับ