CES 2017 ( Consumer Electronics Show ) ถือเป็นงานแสดงเทคโนโลยีและนวัตกรรมประจำปีที่ใหญ่ที่สุดของโลก ซึ่งปีนี้จัดขึ้นเป็นครั้งที่ 50 แล้ว ภายในงานไม่ใช่แค่การเปิดตัวอุปกรณ์ใหม่ แต่ยังเป็นตัวชี้นำให้เห็นถึงแนวโน้มของตลาดไอทีภายในปีนี้และในอนาคตอันใกล้อีกด้วย โดยบทสรุปของเทคโนโลยีที่มาแรงในงาน CES 2017 แบ่งออกเป็น 9 ประเภท ดังนี้
1. เมื่อเราคุยกับสิ่งของได้
ในปีนี้เทคโนโลยี AI ถูกนำมาใช้กับอุปกรณ์หลากหลายชนิดมากขึ้น ซึ่งงาน CES 2017 แสดงให้เห็นแล้วว่า AI ที่มีชื่อว่า “Alexa” จาก Amazon ได้รับความนิยมอย่างล้นหลามจากบรรดาบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำต่างๆ มีการนำมาใช้ร่วมกับอุปกรณ์อย่าง ลำโพงทรงกระบอก (เช่น Lenovo Smart Assistant) , สมาร์ทโฟน (Huawei Mate 9 รุ่นวางขายเฉพาะในสหรัฐฯ) ทีวี, รถยนต์ และตู้เย็น เพื่อให้ผู้บริโภคใช้ชีวิตได้ง่ายขึ้นเพียงใช้คำพูดในการสั่งงาน
2. Mixed Reality มาแรง
อย่างที่เกิดกล่าวไปในบทความ “คาดการณ์ 5 เทคโนโลยีปี 2017 ทิศทางและแนวโน้มที่จะเกิดขึ้น” ว่า Augmented/Mixed Reality จะมีความสำคัญมากกว่า Virtual Reality ซึ่งในงาน CES 2017 ค่อนข้างชัดเจนพอสมควรว่าการใช้เทคโนโลยีที่ช่วยสร้างวัตถุเสมือนจริงผสานเข้ากับโลกแห่งความเป็นจริง (Mixed Reality) ร่วมกับอุปกรณ์รุ่นใหม่ๆ ได้รับความนิยมมากขึ้น สังเกตได้จากการเปิดตัวแว่นตา Smartglasses อย่าง Lenovo New Glass C200, ODG R9 และ R9 รวมไปถึงสมาร์ทโฟนอย่าง ASUS Zenfone VR ซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นอีกก้าวของ Mixed Reality และคาดว่าจะมีการเติบโตมากขึ้นในอนาคตอันใกล้นี้
3. อินเทอร์เน็ตในสิ่งของทุกชนิด
อาจจะไม่ใช่เรื่องใหม่สำหรับ Internet of Things (IoT) แต่ในปีนี้ความก้าวหน้าของเทคโนโลยีดังกล่าวไม่ได้จำกัดอยู่แค่อุปกรณ์ประเภท Smart Home ยังกระจายไปถึงเครื่องใช้ส่วนตัวอย่าง “หวี” ซึ่งภายในงาน CES 2017 ความร่วมมือของ 3 บริษัทอย่าง Withings, Kerastase และ L’Oreal ได้พัฒนา Kerastase Hair Coach แปรงหวีผมอัจฉริยะ ที่มาพร้อมเซนเซอร์ตรวจจับการเครื่องไหว, เซนเซอร์ตรวจจับการหมุน สามารถตรวจวัดสุขภาพของเส้นผมได้ พร้อมเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนผ่านบลูทูธเพื่อวิเคราะห์และรายงานข้อมูลของเส้นผมให้เรารู้ได้
ขณะที่บริษัทอย่าง Griffin Technology ได้พัฒนาสินค้าประเภทเครื่องปิ้งขนมปัง และเครื่องชงกาแฟอัจฉริยะ ที่สามารถทำงานร่วมกับแอพพลิเคชันในสมาร์ทโฟนเชื่อมต่อผ่านบลูทูธ เพื่อควบคุมหรือกำหนดการทำงานต่างๆ ได้
4. ตลาดเกมมิ่งโตวันโตขึ้น ผู้ผลิตพีซีคึกคัก
เรียกได้ว่าในงาน CES 2017 ความคึกของตลาดพีซีประเภทโน๊ตบุ๊คเกมมิ่งมีแนวโน้มสดใสไม่น้อย เมื่อหลายค่ายพาเหรดกันเปิดตัวโน๊ตบุ๊คสเปคแรง ประสิทธิภาพสูง เพื่อเอาใจและเจาะกลุ่มคอเกมโดยเฉพาะ เห็นได้จากการเปิดตัวครั้งของ Samsung Odyssey โน๊ตบุ๊คสายพันธ์เกมมิ่งตัวแรก, Project Valerie จาก Razer โน๊ตบุ๊คเกมมิ่งแบบ 3 หน้าจอ ตัวแรกของโลก, Lenovo Legion เป็นต้น นอกจากนี้ผู้ผลิตชิปประมวลผลยังแสดงความชัดเจนต่อการพัฒนาชิปเซ็ตประสิทธิภาพสูงเพื่อตอบรับกับการเล่นเกมบนโน๊ตบุ๊คที่ต้องอาศัยกราฟิกสูงๆ อาทิ AMD ที่เปิดตัว Vega GPU รุ่นล่าสุด อย่าง Vega 10 GPU และ Vega 20 GPU เป็นต้น
5. โดรนยังได้รับความนิยม
เดิมทีเราคงคุ้นเคยกับการใช้ “โดรน” เพื่อถ่ายภาพทางอากาศหรือสำรวจพื้นที่ในมุมสูง หากเป็นที่สหรัฐฯ บางบริษัทพัฒนาโดรนเพื่อใช้ในการขนส่งสินค้าขนาดเล็ก ซึ่งไม่ใช่เรื่องแปลก แต่ในงาน CES 2017 เริ่มแสดงให้เห็นอีกก้าวของการพัฒนาโดรนที่สามารถดำลงใต้น้ำได้ ยกตัวอย่าง โดรน PowerRay จาก PoweVision ที่สามารถดำน้ำเพื่อบันทึกภาพใต้น้ำได้ ควบคุมได้เหมือนโดรนทั่วไป และอีกประเภทเป็นโดรนสำหรับการเซลฟี่ในชื่อ Hover Camera Passport เป็นต้น
6. Smart Car อนาคตของการขับขี่รถยนต์ที่สะดวกสบายยิ่งขึ้น
เป็นอีกปีของงาน CES 2017 ที่ต้นแบบรถยนต์แห่งอนาคตจากหลายค่ายยังคงทยอยออกมานำเสนอสู่สายตาสาธารณชนอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในปีนี้ดาวเด่นคงต้องยกให้กับ “Faraday Future FF91” ที่ใช้แบตเตอรี่ขนาด 130 kWh แรงขับ 1,050 แรงม้า เร่งความเร็ว 0-100 km/h ได้ภายใน 2.39 วินาที แรงยิ่งกว่า Bugatti Veyron หรือ LaFerrari และแน่นอนว่ามันมาพร้อมความทันสมัยด้วยติดตั้งเทคโนโลยี AI เพื่อจดจำใบหน้าของเจ้าของรถสำหรับการสตาร์ทรถทันทีที่ขึ้นนั่งโดยไม่ต้องใช้กุญแจรถ และสามารถจดจำลักษณะพฤติกรรมของผู้ขับขี่ได้ นอกจากนี้ยังสามารถเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนเพื่อสั่งงานให้หาที่จอดรถเอง รวมไปถึงรองรับการขับเคลื่อนบนท้องถนนแบบอัตโนมัติได้อีกด้วย
นอกจากนี้ Faraday Future FF91 ยังมีค่ายอย่าง Honda ที่ภูมิใจนำเสนอรถ Honda NeuV รถยนต์ไฟฟ้าแบบสองที่นั่ง ที่มาพร้อมเทคโนโลยี AI เพื่อช่วยในการขับขี่ ขณะเดียวกันบริษัทผู้ผลิตชิปประมวลผลอย่าง NVIDIA ยังได้ประกาศความร่วมมือกับ Audi ในการพัฒนารถยนต์ที่ผสมผสานเทคโนโลยี AI เพื่อใช้งานบนท้องถนนจริงในปี 2020
7. เทรนด์ Smartwatch เริ่มได้รับความนิยมน้อยลง
กลายเป็นว่าในงาน CES 2017 นาฬิกาอัจฉริยะหรือ Smartwatch กลับได้รับความสนใจหรือถูกพูดถึงค่อนข้างน้อย อาจเนื่องด้วยเทคโนโลยีที่ยังไม่มีอะไรใหม่ รวมถึงผู้ผลิตรายใหญ่ๆ ไม่มีการเปิดตัว Smartwatch รุ่นใหม่
8. ทีวีรุ่นใหม่ บางลงเรื่อยๆ คมชัดยิ่งขึ้น
ผู้ผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้าประเภททีวีรายใหญ่ของโลก ไม่ว่าจะเป็น Samsung, LG และ Sony ต่างไม่ยอมน้อยหน้า ขนทัพทีวีรุ่นใหม่ประเดิมในงาน CES 2017 กันอย่างคึกคัก Samsung เปิดตัวด้วย QLED TV รุ่น Q8C ขนาด 75 นิ้ว เทคโนโลยีหน้าจอ Quantum Dot ที่ช่วยให้แสงและสีของภาพมีความคมชัดสูงยิ่งขึ้น ขณะที่ LG ส่ง LG Signature OLED TV W ที่พร้อมความบางเพียง 3.85 มิลลิเมตร และ Sony ปล่อยของด้วย Sony OLED Bravia 4K TV ตัวแรกของบริษัท ที่สนับสนุนด้วยระบบเสียง Dolby Vision มีระบบประมวลผลภาพ 4K HDR Processor X1 Extreme สามารถสั่งงานด้วยเสียงผ่าน Google Home ได้ และเป็น Android TV ด้วย
9. สมาร์ทโฟนสเปคสูง ราคาถูกลง
จะเห็นได้ว่าตั้งแต่ปี 2016 สมาร์ทโฟนระดับกลางมีแนวโน้มได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากราคาถูกลง แต่สเปคสูง ทำให้ในปี 2017 เราจึงเห็นทิศทางที่ชัดเจนมากยิ่งขึ้นของผู้ผลิตหลายค่ายที่หันมารุกตลาดสมาร์ทโฟนระดับกลาง สเปคสูงในราคาย่อมเยาว์ ยกตัวอย่าง Huawei Honor 6X ราคา 279.99 ดอลลาร์สหรัฐ (ราคาขายผ่านทาง Amazon), ZTE Blade V8 Pro ราคา 229.98 ดอลลาร์สหรัฐ เป็นต้น และการออกแบบสมาร์ทโฟนปี 2017 ตัวเครื่องโลหะแบบ unibody และกล้องหลังคู่ จะกลายเป็นเทรนด์ที่ได้รับความนิยมยิ่งขึ้นในปีนี้
อ้างอิงจาก PCMag