ถึงยุคนี้เราจะเห็นอุปกรณ์แบบ 2 in 1 กึ่งโน๊ตบุ๊ค กึ่งแท็บเล็ตในสไตล์ Surface ของ Microsoft กันมากขึ้น แต่ต้องยอมรับอย่างหนึ่งครับว่าอุปกรณ์ในลักษณะดังกล่าวต้องแลกกับราคาที่ค่อนข้างสูง ทำให้ปัจจุบันเราจะเห็นว่าโน๊ตบุ๊คยังคงเป็นเครื่องมือหลักในการใช้ทำมาหากินของคนหลากหลายอาชีพ ซึ่งการจะเลือกโน๊ตบุ๊คสักเครื่องทุกวันนี้ไม่เพียงแค่การพิจารณาที่ราคาเพียงอย่างเดียว ดีไซน์ สเปค ประสิทธิภาพที่จะได้รับและการตอบสนองต่อการใช้งานยังเป็นปัจจัยสำคัญในการเลือกโน๊ตบุ๊ค วันนี้ aripfan มีรีวิวโน๊ตบุ๊คที่น่าสนใจมาฝากเพื่อนๆ อีกแล้วครับ กับ “Acer Aspire S 13” ตัวเลือกสุดคุ้มที่มีดีทั้งดีไซน์ และครบเครื่องด้านประสิทธิภาพ
Acer Aspire S 13 สเปค มีดังนี้
– ระบบปฏิบัติการ Windows 10 Home
– หน้าจอขนาด 13.3 นิ้ว ใช้ panel แบบ IPS ความละเอียด Full HD (จอทัชสกรีนไม่ได้)
– ตัวเครื่องมีความบาง 14.58 มิลลิเมตร น้ำหนัก 1.3 กิโลกรัม
– ชิปประมวลผล Intel Skylake Core i5-6200U
– ชิปกราฟิก Intel HD Graphic 520
– แรม 4GB LPDDR3, หน่วยความจำภายใน 256GB SSD
– WLAN : 802.11ac, 2×2 MU-MIMO wireless และ Bluetooth 4.0
– Webcam : HD
– พอร์ตการเชื่อมต่อ USB 3.0 จำนวน 2 พอร์ต, USB 3.1 Type-C, headphone jack ขนาด 3.5 มิลลิเมตร, พอร์ต HDMI และช่องเสียบ SD Card
– แบตเตอรี่ 3-cell Li-Polymer ใช้งานได้นานสูงสุด 11 ชั่วโมง
ดีไซน์
Acer Aspire S 13 ที่แอดมินได้มารีวิวในครั้งนี้ ใช้รหัส S5-371-56U8 เป็นรุ่นที่ใช้ชิปประมวลผล Intel Skylake Core i5-6200U แบบ 2 Core 2.30GHz เมื่อแกะกล่องออกมาครั้งแรกรู้สึกได้ถึงความสวยงาม ฝาหลังเป็นพลาสติกที่ถูกพิมพ์ด้วยลายนาโน พร้อมสลักโลโก้ Acer ส่วนบริเวณขาพับฝาปิดโน๊ตบุ๊คจะเป็นอลูมิเนียมขัดเงา พร้อมสลักชื่อ Aspire S กำกับไว้อย่างเด่นชัด
พลิกมาด้านหลังวัสดุที่ใช้ยางสีดำ เกรดวัสดุดูดีใช้ได้ ช่วยในการยึดเกาะขณะวางราบกับโต๊ะ มีช่องพัดลมระบายความร้อน 1 ตัว และมีช่องลำโพงอยู่ด้านซ้ายและขวา
เมื่อแง้มฝาหลังขึ้นมาจะพบว่าบริเวณขอบรอบหน้าจอใช้ยางสีดำเป็นวัสดุห่อหุ่ม ส่วนตัวแป้นพิมพ์จะเป็นอลูมิเนียมแบบขัดลาย และหากสังเกตที่ขอบริมสุดจะเห็นการแทรกอลูมิเนียมแบบขัดเงาเข้าไปด้วย เสริมความหรูหราให้กับตัวเครื่องยิ่งขึ้น
พอร์ตเชื่อมต่อด้านข้างก็นับว่าเพียงต่อการใช้งานทั่วไปครับ มี USB 3.1 Type-C ไว้ใช้ถ่ายโอนข้อมูลระหว่างอุปกรณ์ในความเร็วสูง มี USB 3.0 มาให้ 2 พอร์ต, headphone jack ขนาด 3.5 มิลลิเมตร, พอร์ต HDMI ไว้ต่อกับทีวี และช่องเสียบ SD Card รวมถึงมีไฟ LED แจ้งเตือนด้วย
จอแสดงผล
หน้าจอขนาด 13.3 นิ้ว ใช้ panel แบบ IPS ความละเอียด Full HD (จอทัชสกรีนไม่ได้) เนื่องจากลักษณะหน้าจอเป็นแบบด้านทำให้เวลาใช้งานในที่แสงมากไม่มีแสงสะท้อนให้เห็น ในส่วนของสีสันและการแสดงภาพให้ความคมชัดดีเลยทีเดียว เวลาเปิดเว็บไซต์ เล่น Facebook เปิด YouTube จะสังเกตเห็นถึงความเรียบแบน ตัวอักษรสามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจนครับ
คีย์บอร์ดและทัชแพด
ลักษณะคีย์บอร์ดใช้ปุ่มแบบแบนในสไตล์ Chiclet keyboard การเลื่อนนิ้วไปตามคีย์บอร์ดในขณะพิมพ์ไม่รู้สึกติดขัดแต่อย่างใด ใช้งานง่าย ปุ่มกดตอบสนองต่อแรงกดได้รวดเร็ว ปุ่มฟังก์ชันมีมาให้ครบถ้วน แต่ส่วนปุ่มเปิด-ปิดเครื่องจะเป็นสีดำโทนเดียวกัน แทรกอยู่บริเวณมุมบนขวาของคีย์บอร์ด หากใครที่กังวัลว่าจะเผลอไปกดทำให้ปิดเครื่อง เรื่องนี้สบายใจได้ครับ เพราะแค่กดปกติจะไม่มีอะไรเกิดขึ้นครับ ต้องกดค้างไว้สักครู่จึงจะมีเมนูปรากฏขึ้นมา นอกจากนี้ภายในคียบอร์ดยังมี Backlit มาให้ด้วย เป็นแสงสีฟ้า มีเซนเซอร์ตรวจวัดแสงเพื่อการเปิด-ปิดอัตโนมัติ หรือติดในกรณีที่เริ่มพิมพ์ครับ
ส่วนของทัชแพดมีขนาดกำลังพอดีครับ สามารถใช้นิ้วทำย่อ-ขยาย ซูมเข้าหรือซูมออกก็ได้ การตอบสนองต่อการสัมผัสทำได้ดีและรวดเร็วครับ ใช้งานสบายสำหรับคนไม่ชอบใช้เมาส์ครับ
ลำโพง
ช่องลำโพงจะอยู่ใต้ตัวเครื่อง ในตำแหน่งซ้ายและขวา มาพร้อมระบบเสียง Dolby Audio ให้เสียงที่ดังมาก สามารถปรับแต่งผ่านซอฟต์แวร์ที่ติดตั้งมาให้เลย โดยมีให้เลือกหลายรูปแบบ หลานประเภทการใช้งาน หรือจะปรับตามความต้องการก็สามารถทำได้เช่นกัน
ซอฟต์แวร์สำหรับปรับแต่งเสียง
ประสิทธิภาพการใช้งาน
Acer Aspire S 13 รุ่นรีวิวเครื่องนี้มากับชิปประมวลผล Intel Skylake Core i5-6200U แบบ 2 Core 2.30GHz นับเป็นชิปรุ่นที่ให้การประหยัดพลังงานได้พอสมควรครับ รองรับการใช้ทำงานทั่วไปได้สบายๆ ส่วนหากใครอยากลองใช้งานด้านกราฟิกดูก็ยังถือว่าพอไหวครับ ขณะเดียวภายในเครื่องยังติดตั้ง Windows 10 Home มาให้ด้วยเลย
ส่วนกราฟิกการ์ดเป็นแบบ on board ครับ มากับ Intel HD Graphic 520 รองรับการทำงานร่วมกับหน้าจอ Full HD ได้ดีครับ การประมวลผลกราฟิกเวลาเล่นเกมออนไลน์ทำได้ดีครับ แต่หากอยากลองเกมที่มีเกรดกราฟฟิกสูงๆ หรืองานออกแบบกราฟฟิกแบบ 3 มิติ แนะนำว่าการ์ดจอแยกยังเป็นทางเลือกที่ดีกว่าครับ
ทดสอบด้วย CPU-Z
ทดสอบด้วย CINEBENCH
พลังของการประมวลผล ทั้งตัวกราฟิกและชิปประมวลผล ได้คะแนนอยู่ในเกณฑ์ที่น่าพอใจ
ทดสอบด้วย HW Monitor
จากที่ทดสอบเปิดเครื่องทำงาน ฟังเพลง ดู YouTube และเปิดอีกหลายโปรแกรมพร้อมกัน จะเห็นว่าอุณหภูมิสูงสุดอยู่เพียง 55 องศา เท่านั้น ถือว่าเป็นการจัดการความร้อนที่เกิดขึ้นได้เป็นอย่างดี
สรุปภาพรวม รีวิว Acer Aspire S 13
อย่างแรกที่ต้องยอมรับเลย คือ ความสวยงาม ขนาดและความบางเบาที่ตอบโจทย์ต่อการพกพา สามารถหิ้วออกไปทำงานนอกสถานที่ได้สบายๆ หน้าจอ Full HD แถมไม่สะท้อนแสง ช่วยให้ทำงานง่ายแม้อยู่ในที่แสงมาก ให้ความคมชัดทั้งภาพและตัวอักษร
การวางมือบนคีย์บอร์ดให้สัมผัสที่ค่อนข้างสบาย ปุ่มกดตอบสนองต่อแรงกดได้เป็นอย่างดี แถมทัชแพดยังมีความรวดเร็ว ใช้ซูมเข้า ซูมออก หรือย่อขยายได้ มี Backlit สีฟ้าที่มีเซนเซอร์คอยตรวจวัดแสงอัตโนมัติ ซึ่งไฟจะไม่ติดอยู่ตลอด จะติดอัตโนมัติเมื่อเราเริ่มใช้คีย์บอร์ด
ด้วยชิปประมวลผล Intel Skylake Core i5-6200U ที่ผสานการทำงานร่วมกับ Windows 10 Home ทำให้การเรียกใช้ข้อมูล เข้าถึงโปรแกรมต่างๆ ทำได้รวดเร็ว แถมยังช่วยในเรื่องของการลดใช้พลังงานได้อีกด้วย ระบบเสียง Dolby Audio สามารถปรับแต่งประเภทของเสียง ช่วยตอบโจทย์ความชอบของเสียงที่แตกต่างของแต่ละบุคคลได้ ขณะเดียวการเชื่อมต่อสัญญาณไร้สายแบบ 2×2 MU-MIMO wireless ยังช่วยให้การใช้ Wi-Fi เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพด้วย แต่หน่วยความจำภายใน 256GB SSD ขัดใจเล็กน้อย เนื่องจากให้มาน้อยไปหน่อย
สำหรับ Acer Aspire S 13 รุ่น Core i5 ที่แอดมินรีวิวในครั้งนี้ ราคาอยู่ที่ 29,990 บาท และจะมีรุ่น Core i7 ที่วางขายอยู่ในราคา 39,990 บาท
ขอขอบคุณ Acer ประเทศไทย สำหรับตัวเครื่อง Acer Aspire S 13 ในการรีวิวครั้งนี้ครับ