เคยคิดไหมว่าอนาคตของตู้โทรศัพท์สาธารณะที่มีอยู่ทั่วประเทศไทยจะเป็นอย่างไร ในเมื่อคนส่วนใหญ่ใช้โทรศัพท์มือถือกันหมดแล้ว ไม่แน่ใจว่าคนไทยคิดไว้อย่างไร แต่ที่ NYC: New York City หรือมหานครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา เขาคิดแล้วครับ
คำตอบของเขาคือ เครือข่ายการสื่อสารใหม่ที่มีชื่อว่า LinkNYC ในระหว่างเดินทางไปทำงานที่สหรัฐอเมริกา ผมก็เลยถือโอกาสไปเยี่ยมเจ้า LinkNYC นี่สักหน่อย LinkNYC คือ โครงข่ายการสื่อสารผ่านอินเทอร์เน็ตไร้สาย โดยจะตั้ง “แท่นไฮเทค” ที่มีชื่อว่า Link แทนตู้โทรศัพท์สาธารณะ กว่า 7,500 จุดทั่วมหานครนิวยอร์ก แท่น Link นี้จะทำหน้าที่อย่างน้อย 7 อย่าง ซึ่งสามารถแทนที่ตู้โทรศัพท์สาธารณะเดิม และเพิ่มความสามารถใหม่ ๆ เข้าไปได้ด้วย ดังนี้
1. กระจายสัญญาณ Wi-Fi ความเร็วสูงระดับ Gigabit Wi-Fi เร็วกว่า Wi-Fi ทั่วไป 100 เท่า
2. หน้าจอแท็บเลต ให้เข้าเว็บ ดูแผนที่ หาเส้นทางได้ฟรี
3. โทรฟรีทั่วสหรัฐฯ ผ่านแอพฯ Vonage บนหน้าจอแท็บเลต หรือปุ่มกดเลขเหมือนตู้โทรศัพท์ จะคุยแบบฟังเสียงออกลำโพง หรือเสียบหูฟังคุยก็ได้
4. ปุ่มแดงเด่นชัด ไว้กดเรียกตำรวจ 911 หรือแจ้งเหตุฉุกเฉิน
5. ช่อง USB ปล่อยไฟให้เสียบชาร์จมือถือ-แท็บเลต
6. เพิ่มพื้นที่โล่งให้ทางเท้า จากเดิมต้องใช้พื้นที่ขนาดใหญ่กว่าในการตั้งตู้โทรศัพท์
7. หน้าจอ HD ขนาด 55 นิ้ว ฉายประกาศจากทางการ และโฆษณา
หน่วยงานที่อยู่เบื้องหลัง LinkNYC คือทางการของนครนิวยอร์ก ร่วมกับสมาพันธ์ด้านการสื่อสารภาคเอกชน ที่รวมตัวกันพัฒนาแนวคิดนี้ให้เป็นจริง
ประเด็นเรื่องค่าใช้จ่ายอาจจะเป็นคำถามว่าจะเป็นการสิ้นเปลืองหรือไม่ แต่ทางการชี้แจงว่า หน้าจอโฆษณา 55 นิ้วนี่แหละ ที่ทำให้ Link ทั้งหมดตั้งตระหง่านอยู่ได้ด้วยตัวมันเอง โดยไม่ต้องของบประมาณจากเมืองมาเพิ่มเติม แถมหากเป็นไปตามแผน ก็ยังเหลือเงินรายได้ส่งให้เมืองอีกด้วย
ส่วนอีกคำถามที่หลายคนกังวล คือ ระบบความปลอดภัยของ Wi-Fi สาธารณะแบบนี้ ถ้าโดนเจาะเข้ามา ก็จะทำให้ทั้งโครงข่ายกลายเป็นแหล่งทำมาหากินของแฮกเกอร์แน่ ๆ
ผู้ให้บริการบอกว่า Link จะมี Wi-Fi อยู่ 2 ประเภทให้เลือกใช้ คือ Public Wi-Fi ธรรมดา เหมือนกับร้านกาแฟ ร้านอาหาร ทั่วไป ซึ่งควรจะต้องระวังในการใช้งานอย่างปลอดภัย เลือกเข้าเว็บที่มีรูปแม่กุญแจ หรือเป็น https จะดีที่สุด
ส่วนใครที่ต้องการความปลอดภัยไร้สายเพิ่มขึ้นมาอีกระดับ ก็ต้องใช้ Private Network ที่จะมีการเข้ารหัสที่ปลอดภัยยิ่งขึ้น แต่ในขั้นต้น ยังใช้งานได้แค่อุปกรณ์ใหม่ ๆ ที่รองรับมาตรฐาน HotSpot 2.0 ในตระกูล iOS เท่านั้น
มีรายละเอียดเพิ่มเติมให้ดูกันในเว็บ https://link.nyc
ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการติดตั้งตู้ ก่อนจะติดตั้งอุปกรณ์เพิ่มเติมให้เต็ม จึงยังใช้งานได้เฉพาะ Wi-Fi เท่านั้น แต่อีกไม่นาน หากโครงการนี้สำเร็จ ก็จะทำให้นิวยอร์กเป็นเมืองที่มีเครือข่ายไร้สายความเร็วสูงที่ใหญ่ที่สุด และให้ใช้งานฟรี ๆ