ปัจจัยอย่างง่ายต่อการเลือกสมาร์ทโฟนในปัจจุบันอาจมีอยู่ไม่กี่เหตุผล ได้แก่ ความชอบ ราคา ดีไซน์ สเปค และแบตเตอรี่ ซึ่งจะว่าไปแล้วความคาดหวังของผู้ใช้หลายคนอยากมีสมาร์ทโฟนที่มีแบตเตอรี่เยอะๆ เพื่อให้ใช้งานได้นานโดยไม่ต้องพก Powerbank ให้เกะกะ และโอกาสนี้เองที่ Samsung นำเสนอ Samsung Galaxy A9 Pro สมาร์ทโฟนไซส์ยักษ์ ! ใหญ่ทั้งหน้าจอและแบตเตอรี่ งานนี้ aripfan.com มีรีวิวมาฝากครับ
สเปค Samsung Galaxy A9 Pro มีดังนี้
– หน้าจอ Super AMOLED ขนาด 6 นิ้ว ความละเอียด Full HD (1920 x 1080 พิกเซล 367ppi)
– ตัวเครื่องบาง 7.9 มิลลิเมตร น้ำหนัก 210 กรัม
– ชิปประมวลผล Qualcomm Snapdragon 652 แบบ Octa-Core ความเร็ว 1.8GHz
– หน่วยประมวลกราฟิก Adreno 510
– แรม 4GB, หน่วยความจำภายใน 32GB รองรับ microSD card ความจุสูงสุด 200GB
– รัน Android Android 6.0.1 Marshmallow
– กล้องหลังความละเอียด 16 ล้านพิกเซล มาพร้อมแฟลช LED, ค่ารูรับแสง f/1.9 และระบบกันสั่น OIS
– กล้องหน้าความละเอียด 8 ล้านพิกเซล ค่ารูรับแสง f/1.9
– ใช้งานได้ 2 ซิมการ์ด
– เซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือตำแหน่งปุ่มโฮม
– รองรับทั้ง 3G และ 4G
– แบตเตอรี่ความจุ 5000mAh
– ตัวเครื่องมี 3 สี ได้แก่ สีทอง, ดำ, ขาว
– ราคาวางขาย 15,900 บาท
เริ่มกันที่ดีไซน์
Samsung Galaxy A9 Pro ยังคงเอกลักษณ์ในตระกูล A Series ที่ใช้กระจก Gorilla Glass 4 เป็นส่วนประกอบหลัก เสริมด้วยขอบตัวเครื่องที่เป็นอลูมิเนียม ส่งผลให้องค์ประกอบภายนอกมีความโดดเด่น หรูหรา แฝงด้วยความแข็งแกร่ง แต่ด้วยขนาดหน้าจอ 6 นิ้ว บวกกับแบตเตอรี่ที่ให้มาถึง 5000mAh ต้องแลกด้วยน้ำหนักที่เพิ่มขึ้นเล็กน้อย อาจจะมากกว่าสมาร์ทโฟนเครื่องเดิมที่ผู้อ่านทุกท่านใช้อยู่เสียด้วยซ้ำ อย่างไรก็ดีหากใช้ไปสักระยะก็อาจคุ้นเคยกับน้ำหนักของ A9 Pro ตัวนี้ได้ครับ
ส่วนประกอบรอบตัวเครื่อง ไล่ตั้งแต่ด้านหน้าประกอบไปด้วย เซนเซอร์ตรวจจับสภาพแสงกับเซนเซอร์ตรวจจับทิศทางการหมุนของตัวเครื่อง ลำโพงสนทนา กล้องหน้า 8 ล้านพิกเซล ถัดลงมาด้านล่างเป็นปุ่มโฮมที่เป็นสแกนลายนิ้วมือได้ด้วย ขนาบข้างด้วยปุ่ม Recent Apps กับปุ่มย้อนกลับ แสดงไฟได้ในตัวเอง ส่วนด้านหลังจะมีกล้องถ่ายภาพและแฟลช
ตัวเครื่องด้านซ้ายเป็นปุ่มสำหรับเพิ่ม-ลดเสียง เป็นชัตเตอร์ถ่ายภาพได้ด้วย ด้านขวาเป็นปุ่มพาวเวอร์ใช้เปิด-ปิดหน้าจอ, เปิด-ปิดเครื่อง และถาดใส่ซิมประเภท NANO SIM ซึ่งซิมที่ 1 จะรองรับทั้ง 3G / 4G ส่วนซิมที่ 2 ใช้งานได้เพียง 3G เท่านั้น ส่วนบนจะมีไมโครโฟนจิ๋วตัดเสียงรบกวน มีถาดใส่ microSD card ที่รองรับได้ถึง 200GB ถัดลงมาขอบล่างสุดมีช่องต่อหูฟัง, พอร์ต microUSB, ลำโพง และไมโครโฟนจิ๋วสำหรับสนทนา
จุดเด่นที่ทุกคนอยากรู้เรื่อง “แบตเตอรี่”
ด้วยพฤติกรรมการใช้สมาร์โฟนในปัจจุบัน เชื่อว่ามีบางสิ่งที่ทุกคนล้วนใช้งานในชีวิตประจำวันเหมือนกัน ได้แก่ โทรเข้า-รับสาย, ใช้แอพ Facebook, แชท LINE, ถ่ายภาพ, เล่นเกมบ้างนิดหน่อย หากแบตเตอรี่เต็ม 100% แถมใช้งานเพียงเท่านี้ ใน 1 วัน Samsung Galaxy A9 Pro เอาอยู่ครับ ไม่ต้องต่อกับพาวเวอร์แบงค์หรือกลับมาบ้านชาร์จแบตก่อนนอน
สิ่งที่แอดมินอยากรู้ว่ามากกว่านั้น หากแบตเหลือประมาณ 50% จะสามารถใช้ทำอะไรได้บ้าง จากที่ทดลองใช้ดูการ์ตูนโดราเอมอนผ่านแอพ LINE TV เป็นเวลาเกือบ 1 ชั่วโมง พบว่าแบตเตอรี่ลดลงค่อนข้างช้า จาก 50% ลดลงมาที่ 48% นับว่าโอเคมาก
อีกกรณีหนึ่งแอดมินทดสอบเปิด Google Maps นำทางจากย่านสาธรกลับไปยังออฟฟิศแถวเอสพลานาด รัชดาภิเษก ใช้เวลาขับรถประมาณ 22 นาที พร้อมกับเปิดแอพ JOOX ฟังเพลงพร้อมกันไปด้วย โดยในขณะนั้นแบตเตอรี่เหลืออยู่ประมาณ 37% ผลทดสอบพบว่าหลังจากที่ขับรถมาถึงออฟฟิศ แบตเตอรี่ลดลงไป 5% เหลืออยู่ที่ 32% ซึ่งถือว่าน่าพอใจ แถมสามารถแชท LINE เล่น Facebook ต่อไปได้อีก อย่างน้อยๆ อีก 2-3 ชั่วโมง นับเป็นเรื่องน่าชื่นชมที่ A9 Pro มีแบตเตอรี่ที่อึดขนาดนี้ พร้อมมีระบบจัดสรรพลังงานที่ดีอีกด้วยครับ
การถ่ายภาพ
อีกหนึ่งเรื่องที่ค่อนข้างรู้สึกดีกับ A9 Pro คือ การเข้าถึงแอพกล้องอย่างรวดเร็ว เพียงกดที่ปุ่มโฮมติดกัน 2 ครั้ง ก็เปิดกล้องให้แล้ว กล้องหลังที่ความละเอียดสูงสุด 16 ล้านพิกเซล จะให้ไฟล์ภาพขนาด 4608 x 3456 พิกเซล อัตราส่วนของภาพ 4 : 3 หรือใครที่อยากลดขนาดไฟล์ภาพลง พร้อมปรับอัตราส่วนของภาพก็สามารถเข้าไปตั้งค่าเองได้ ซึ่งความละเอียดในการถ่ายภาพก็จะลดลงตาม นอกจากนี้ยังมีโหมดถ่ายภาพอื่นๆ ให้ได้งานได้ง่ายเช่นกันครับ
UI ของกล้องหลัง
ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องหลัง ในความละเอียดสูงสุด
ขณะที่กล้องหน้าความละเอียด 8 ล้านพิกเซล มีโหมดปรับหน้าสวยมาในตัวด้วย เลือกได้ถึง 8 ระดับ สามารถถ่ายเซลฟี่แบบกลุ่มด้วยโหมดพาโนรามา รวมไปถึงใช้ฝ่ามือยื่นขึ้นมาบริเวณกล้องหน้าสักครู่เพื่อสั่งถ่ายภาพอัตโนมัติได้ด้วยครับ
ตัวอย่างภาพจากกล้องหน้า
ซอฟต์แวร์
ใน Samsung Galaxy A9 Pro มาพร้อม Android 6.0.1 Marshmallow ครอบทับด้วย TouchWiz UI ส่วนติดต่อผู้ใช้จาก Samsung มีเมนูต่างๆ ที่ยังใกล้เคียงกับรุ่นก่อนๆ อาทิ การปรับคุณภาพของการแสดงผล, การปรับขนาดและรูปแบบของหน้าจอ รองรับการทำงานด้วยมือเดียว, การใช้ท่าทางเป็นตัวควบคุม, การกำหนดลายนิ้วมือ รวมไปถึงการเพิ่มเติมวิตเจ็ต เลือกธีมอื่นๆ ได้ตามที่ต้องการ
ผลคะแนนทดสอบความแรงและประสิทธิภาพโดยรวมด้วยแอพ Antutu Benchmark
บทสรุป
Samsung Galaxy A9 Pro ยังคงดีไซน์การใช้กระจกผสมผสานกับอลูมิเนียมเป็นหลัก ส่งผลให้ตัวเครื่องมีความหรูหราตามคอนเซปต์ของตระกูล Galaxy A Series ส่วนแบตเตอรี่เป็นจุดชูโรงในรุ่นนี้เลย ยิ่งเวลานี้มีเกม Pokemon Go เปิดให้เล่นในไทยได้แล้ว น่าจะช่วยให้ผู้ใช้อุ่นใจได้ว่าจะใช้เวลาจับโปเกมอนได้นานขึ้น
ขณะที่กล้องถ่ายภาพเรียกใช้งานได้รวดเร็ว ความคมชัด ประสิทธิภาพในการถ่ายภาพที่แสงน้อยยังทำได้ดีตามคุณภาพของ Samsung
แต่ด้วยขนาดหน้าจอ 6 นิ้ว พร้อมแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ ถือเป็นเรื่องที่ต้องยอมรับสภาพว่าค่อนข้างหนักอยู่เล็กน้อย ซึ่งการหยิบจับ ใช้งานด้วยมือเดียวดูจะไม่ใช่เรื่องง่ายนัก และไม่เหมาะสำหรับคนมือเล็กครับ
ปัจจุบันราคา Samsung Galaxy A9 Pro อยู่ที่ 15,900 บาท
ขอขอบคุณ Samsung ประเทศไทย สำหรับตัวเครื่องรีวิวในครั้งนี้ครับ