แกร็บ (Grab) จับกระแสนักท่องเที่ยวจีนพุ่ง จับมือ อาลีเพย์ (Alipay) มอบบริการชำระเงินในสกุลหยวนครั้งแรกในไทยและสิงคโปร์
แกร็บ (Grab) แพลทฟอร์มด้านบริการขนส่งชั้นนำในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ประกาศจับมือกับ อาลีเพย์ (Alipay) ผู้ให้บริการชำระเงินออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในจีน เพื่อให้บริการแก่นักท่องเที่ยวจากประเทศจีนที่เดินทางมายังประเทศไทยและสิงคโปร์ โดยความร่วมมือนี้ถือเป็นส่วนหนึ่งของความมุ่งมั่นของ แกร็บ (Grab) ในการมอบประสบการณ์การใช้งานที่สะดวกสบายให้แก่ผู้โดยสารเมื่อเดินทางไปต่างประเทศ ทั้งในส่วนการชำระเงินและการเรียกใช้บริการในต่างประเทศ
แกร็บ (Grab) ประกาศความร่วมมือกับ แอนท์ ไฟแนนเชียล เซอร์วิสเซส กรุ๊ป (Ant Financial Services Group) ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของ อาลีเพย์ (Alipay) ผู้ให้บริการชำระเงินออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในจีน เพื่อเปิดให้บริการชำระเงินในสกุลหยวนที่สะดวกและคล่องตัวให้แก่นักเดินทางจีนที่มีบัญชีชำระเงินของ อาลีเพย์ อยู่แล้ว ในขณะที่พวกเขาเดินทางหรือมาพำนักในประเทศไทยและประเทศสิงคโปร์ เพียงเปิดแอพพลิเคชั่น แกร็บ (Grab) และเลือกบริการชำระเงิน แกร็บเพย์ (GrabPay) ในเมนูบาร์ และเพิ่มแอคเคาท์ของ อาลีเพย์ (Alipay) เข้าไป โดยความเคลื่อนไหวดังกล่าวยังถือว่าสนับสนุนการขยายตัวของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวจีนในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมถึงเป็นการขยายฐานผู้ใช้บริการแอพลิเคชั่น แกร็บ (Grab) สู่กลุ่มนักท่องเที่ยวจีนอีกด้วย
“แกร็บ (Grab) มุ่งมั่นยกระดับการใช้บริการแก่ผู้ใช้งานในประเทศและต่างประเทศ และเรามุ่งนำเสนอช่องทางการชำระเงินที่หลากหลายให้แก่ลูกค้า ทั้งนี้ ความร่วมมือของ แกร็บ (Grab) และ อาลีเพย์ (Alipay) ในครั้งนี้ จะช่วยให้นักเดินทางจากประเทศจีนสามารถเรียกใช้บริการรถแท็กซี่และรถโดยสารเพื่อเดินทางท่องเที่ยวได้อย่างสะดวกสบาย ผ่านช่องทางชำระเงินที่คุ้นเคยในสกุลหยวนของจีนเอง” โจเอล ยาร์โบร์ค ผู้จัดการฝ่ายผลิตภัณฑ์ของ แกร็บ กล่าว
ก่อนหน้านี้ นักท่องเที่ยวชาวจีนที่จะเรียกใช้บริการโดยสารของ แกร็บ ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ต้องเชื่อมโยงบัญชีบัตรเครดิตของตนที่เปิดใช้บริการชำระเงินในสองสกุลเงิน หรือไม่ก็ต้องชำระค่าโดยสารเป็นเงินสด แต่ภายหลังความร่วมมือของ แกร็บ (Grab) และ อาลีเพย์ (Alipay) ในครั้งนี้ พวกเขาสามารถใช้บัญชี อาลีเพย์ (Alipay) ชำระค่าโดยสารในสกุลเงินหยวน (CNY) ของจีนเอง โดยไม่ต้องกังวลเรื่องการแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศอีกต่อไป
