หากเอ่ยถึงแท็บเล็ต เชื่อว่าหลายคนน่าจะนึกถึงอุปกรณ์ทรงสี่เหลี่ยมพื้นผ้า หน้าจอทัชสกรีน ที่มีขนาดหลากหลาย พร้อมคุณสมบัติที่แตกต่างกันออกไป รวมไปถึงอุปกรณ์เสริมที่ช่วยให้การใช้งานที่ง่ายขึ้นสำหรับบางรุ่น แต่ Lenovo YOGA Tab 3 Pro เป็นแท็บเล็ตที่สร้างความแตกต่างที่มากกว่า ด้วยการติดโปรเจคเตอร์เข้ามาในตัวด้วยเลย และยังสามารถปรับรูปแบบการใช้งานได้อีกหลายมุมมอง ส่วนจะน่าใช้รึเปล่า ราคาจะเป็นอย่าง ตามดูรีวิวกันเลยครับ
อันดับแรกเริ่มต้นที่สเปก
– หน้าจอ IPS ขนาด 10.1 นิ้ว ความละเอียด Quad HD (2560 x 1600 พิกเซล)
– น้ำหนัก 667 กรัม
– รัน Android 5.1 Lollipop
– หน่วยประมวลผล Intel Atom X5-Z8500 ความเร็ว 1.44GHz
– แรม 2GB LPDDR3, หน่วยความจำภายใน 32GB, เพิ่ม microSD card ได้ ความจุสูงสุด 128GB
– กล้องหน้าความละเอียด 5 ล้านพิกเซล, กล้องหลังความละเอียด 13 ล้านพิกเซล มี Auto-Focus ในตัว
– ระบบเสียง Dolby Atmos และลำโพงจาก JBL
– แบเตอรี่ความจุ 10,200 mAh
Lenovo YOGA Tab 3 Pro เป็นแท็บเล็ตที่ต่อยอดมาจาก Lenovo YOGA Tab 2 Pro แต่ปรับขนาดหน้าจอ โดยจากเดิมในรุ่น Tab 2 Pro จะมีขนาดอยู่ที่ 13.3 นิ้ว แต่พอถึงรุ่น Tab 3 Pro ได้ลดขนาดหน้าจอลงมาอยู่ที่ 10.1 นิ้ว ซึ่งเหตุผลของการปรับเปลี่ยนคิดว่าน่าจะเป็นขนาดที่พอเหมาะต่อกับหยิบถือ หรือการพกพาใส่กระเป๋า ตลอดจนการใช้งานที่สะดวกมากกว่า
การออกแบบ Lenovo YOGA Tab 3 Pro เป็นการนำวัสดุประเภทหนังมาใช้เป็นฝาหลัง และโลหะที่มีความแข็งแกร่งมาเป็นส่วนประกอบสำหรับขาตั้ง รวมถึงขอบโดยรอบ ขณะที่ปุ่มพาวเวอร์ (เปิด-ปิดหน้าจอ และเปิด-ปิดเครื่อง) จะมีลักษณะทรงกลม อยู่ฝั่งเดียวกับพอร์ต microUSB และปุ่มเพิ่ม-ลดเสียง ส่วนอีกด้านจะมีปุ่มทรงกลมเช่นกันไว้คอยเปิด-ปิดโปรเจคเตอร์ อยู่ติดกับช่องต่อหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตร
จุดเด่นใหญ่ ที่ต้องหยิบมาเล่ากันก่อนเลยนั่นคือ “ขาตั้ง” กับ “โปรเจคเตอร์” ซึ่งผมเชื่อว่าคนทั่วไปจำนวนไม่น้อยที่เห็นเจ้าเครื่องนี้แว็บแรกคงอดสงสัยไม่ได้ว่า แท็บเล็ตอะไรทำไมดูหน้าตาแปลกๆ นั่นเป็นเพราะจากที่แท็บเล็ตปกติจะมีแค่หน้าจอสี่เหลี่ยมผืนผ้า แต่ Lenovo YOGA Tab 3 Pro มีขาตั้งมาในตัว แถมยังแนบกล้องโปรเจคเตอร์รวมไว้ด้วยเลยอีกตังหาก
การใช้งานขาตั้งก็ง่ายๆ ครับ เพียงกดปุ่มรูปวงรีด้านหลัง ตัวขาตั้งก็จะเด้งออกมาโดยอัตโนมัติ สามารถปรับได้ถึง 180 องศา จะใช้ในแนวตั้ง แนวนอน หรือใช้แขวนในห้องครัว เพื่อเปิดเทคนิคการทำอาหารไปด้วยก็ทำได้ครับ นอกจากนี้เมื่อขาตั้งเด้งออกมา จะเห็นช่องสำหรับใส่ microSD Card ครับ
ขณะที่กล้องโปรเจคเตอร์ ทาง Lenovo เคลมว่าสามารถฉายภาพได้ในขนาดสูงสุดถึง 70 นิ้ว ในระยะห่าง 1.78 เมตร ซึ่งการใช้งานก็ไม่ยากอีกเช่นกันครับ หากต้องการจะยิงภาพจากหน้าจอแสดงผลของแท็บเล็ตไปยังฝาผนังหรือเพดาน เพียงกดปุ่มทรงกลม ด้านเดียวกับพอร์ต microUSB ค้างไว้สักครู่ จากนั้นจะมีหน้าต่างแสดงขึ้นมาบนหน้าจอแท็บเล็ต เพื่อให้เรากดคอนเฟิร์มว่าจะทำการเปิดโปรโจคเตอร์หรือไม่ เมื่อคอนเฟิร์มแล้วตัวโปรเจคเตอร์จะเริ่มทำงานครับ และด้วยตำแหน่งของกล้องโปรเจคเตอร์อยู่ในระนาบเดียวกับขาตั้ง ทำให้เราสามารถปรับมุมมองของการฉายภาพให้เหมาะสำหรับสายตาได้ครับ
ซึ่งภาพจากโปรเจคเตอร์ต้องอาศัยห้องที่มีแสงไฟสลัวๆ ครับ เพื่อให้เห็นภาพที่ชัดขึ้น และระยะห่างของการวางแท็บเล็ตกับฝาผนังก็มีส่วนสำคัญเช่นกันที่จะส่งผลให้ภาพที่ปรากฏชัดเจนขึ้นครับ นอกจากนี้ยังมีแอพ Projector ที่สามารถใช้งานร่วมกับตัวโปรเจคเตอร์ โดยภายในแอพจะแบ่งออกเป็น 4 หมวดหมู่ ได้แก่ Cinema, Pictures, Document และ Story ซึ่งสามารถเลือกขึ้นมาใช้งานได้ตามที่ต้องการ จะเป็นดูวีดีโอ ดูรูปภาพ เปิดไฟล์พรีเซนเตชัน หรือจะนำทั้งภาพและวีดีโอมาสร้างเป็นเรื่องราว พร้อมใส่เสียงประกอบ และใช้โปรเจคเตอร์ยิงภาพขึ้นบนฝาหนังก็สามารถทำได้ครับ
ทดสอบใช้โปรเจคเตอร์ฉายวีดีโอและ PowerPoint ครับ
ส่วนหนึ่งจากแอพ Projector
ระบบเสียง เป็นอีกหนึ่งจุดเด่นของ Lenovo YOGA Tab 3 Pro ด้วยระบบเสียง Dolby Atmos ที่ผสมผสานกับลำโพงแบบ Soundbar จาก JBL มอบพลังเสียงที่ค่อนข้างดังและให้รายละเอียดของเสียงที่ดีพอสมควร ไม่ว่าจะฟังเพลง เล่นเกม หรือหากจะดูหนังผ่านการฉายด้วยกล้องโปรเจคเตอร์ก็เรียกได้ว่าให้ประสบการณ์ที่ใกล้เคียงกับชุดโฮมเธียเตอร์เลยก็ว่าได้ แต่ถ้าปิดระบบเสียง Dolby Atmos คุณภาพเสียงและความดังจะลดลงอย่างเห็นได้ชัดทันทีครับ
หน้าต่างการตั้งค่าในแอพ Dolby Atmos
หน้าจอแสดงผล เป็นอีกหนึ่งความน่าสนใจ ด้วยความละเอียดที่อัดมาถึง 2560 x 1600 พิกเซล หรือ Quad HD ส่งผลให้การแสดงผลที่ค่อนข้างสว่างและสีที่สด หากมองจากมุมด้านข้างยังแสดงสีบนหน้าจอไม่ต่างไปจากการมองหน้าจอแบบตรง
กล้องถ่ายภาพ ไม่ใช่จุดเด่นเท่าใดนัก หลังจากทดสอบกล้องหลังที่มากับความละเอียด 13 ล้านพิกเซล ภาพที่ออกมาออกมาชัดเจนก็จริง แต่ก่อนหน้านั้นการโฟกัสไปยังไปภาพที่ต้องการค่อนข้างช้าไปเป็นบางครั้ง เมื่อกดชัตเตอร์ถ่ายภาพไปแล้วมีอาการดีเลย์ก่อนจับภาพ และการเขียนภาพลงในพื้นที่เก็บข้อมูลก็ช้าไปเล็กน้อยเช่นกัน บางครั้งกดถ่ายภาพไปแล้วเกิดเด้งออกจากแอพกล้องซะงั้น แถมเจอหน้าต่าง error ของกล้องขึ้นมาอีกตังหาก แต่ก็เข้าใจได้ว่าอาการแอพเด้งหรือเกิด error คงเป็นเพราะตัวเครื่องรีวิวนั้นไว้สำหรับการทดสอบ ยังไม่ใช่รุ่นที่ขายจริง ซึ่งก็หวังว่าคงไม่มีอาการอย่างที่ว่ากับเครื่องขายจริงนะครับ
เข้ามาดูที่ฝั่งซอฟต์แวร์กันบ้าง ตามสเปกบอกว่า Lenovo YOGA Tab 3 Pro ใช้ Android 5.1 Lollipop ครอบทับด้วย Lenovo Vibe UI แอพพลิเคชันที่มากับเครื่อง นอกจากหลักๆ ของ Lenovo และ Google แล้ว ก็จะมีแอพของเจ้าอื่นๆ อีกเพียงไม่กี่ตัว ซึ่งนับว่าเป็นเรื่องที่ดี เพราะส่วนตัวมองว่าไม่ทำให้หน้าจอรกไปด้วยแอพที่แทบจะไม่เคยใช้งาน
ส่วนของการตั้งค่าใช้งานที่ขอหยิบมาเล่าสู่กันฟัง ได้แก่ แถบข้างอัจฉริยะ (Smart Side Bar) เมื่อเปิดใช้งาน เราจะสามารถปาดหน้าจอจากด้านขวามาทางด้านซ้าย เพื่อเรียกแท็บเมนูลัด ไว้ใช้งานแอพหลักๆ ที่จำเป็น ได้แก่ โปรเจคเตอร์, กล้องถ่ายภาพ, Evernote หรือ Lenovo Sketchpad เป็นต้นครับ
ส่วนของ Power manager เป็นอีกเมนูที่น่าสนใจ เพราะแม้แบตเตอรี่ที่ให้มาจะมีถึง 10,200 mAh แต่การมีตัวช่วยเพื่อจัดสรรพลังงานนับว่าเป็นสิ่งที่ดี ที่ช่วยยืดชั่วโมงการใช้งานให้นานขึ้นไปอีก โดยเมนูที่ว่านี้จะให้เราสามารถเข้าไปกำหนดได้เองว่าเมื่อแบตเตอรี่ลดลงเหลือ 5 หรือ 15% จะให้เข้าสู่โหมดประหยัดพลังงานอัตโนมัติเลยหรือไม่ หรือใครที่กลัวว่าการมีหน้าจอความละเอียดสูงจะกินแบตรึเปล่า ก็มีเมนูเพื่อประหยัดพลังงานจากการแสดงผล รวมไปถึงการประหยัดพลังงานจากกราฟิกด้วย
ภาพจากการทดสอบเล่นเกม HERO นักสู้กู้พิภพ
จะเห็นได้ว่าการแสดงผลให้ความชัดเจน ทั้งภาพและสีสัน รวมไปถึงองค์ประกอบกราฟิกจัดว่าครบเครื่องเลยทีเดียวครับ
ภาพจากการทดสอบดูหนังผ่านเว็บออนไลน์
ผลการทดสอบ Benchmark
– คะแนนจาก Antutu Benchmark
– คะแนนจาก 3D Mark
สรุปการใช้งาน
Lenovo YOGA Tab 3 Pro ในแง่ของดีไซน์นับว่าตอบสนองการใช้งานในหลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะถือใช้งาน การวางบนหน้าตัก วางตั้งบนโต๊ะ หรือใช้แขวนในห้องครัวในกรณีที่ต้องการดูรายการทำอาหารไปด้วย เป็นต้น แต่การถือใช้งานด้วยมือเดียวยอมรับเลยว่าถือไปสักพักทำเอาเมื่อยได้เหมือนกัน เพราะตัวเครื่องก็หนักใช่ย่อย
โปรเจคเตอร์ เป็นจุดขายสำหรับ Lenovo YOGA Tab 3 Pro อย่างแท้จริง สามารถสร้างโรงภาพยนตร์เสมือนได้ภายในห้องของคุณเอง รวมไปถึงสามารถพกพาไปใช้งานข้างนอกสำหรับพรีเซนต์งานได้อีกด้วย แต่ทั้งนี้ภาพที่แสดงบนฝาหนังหรือเพดานจะชัดเจนหรือแสดงความละเอียดแค่ไหน ขึ้นอยู่ความสว่างของแสงภายในห้อง และระยะห่างของการวางแท็บเล็ตกับฝาผนังครับ
จุดด้อยที่ผมสัมผัสจากการใช้งาน อย่างเช่น กล้องหลัง ที่ยังรู้สึกได้ว่าช้าทั้งการโฟกัส การจับภาพ การเก็บภาพลงพื้นที่เก็บข้อมูล เป็นต้น ส่วนของแอพเด้งขณะใช้งานก็มีปรากฏให้เห็นเป็นบางครั้งครับ อย่างไรก็ตามพอเข้าใจได้ว่าอาการต่างๆ อาจเป็นผลมาจากตัวเครื่องรีวิวมีไว้สำหรับทดสอบ ไม่ใช่รุ่นขายจริง ฉะนั้นก็หวังว่าสิ่งที่ผมเจอ คงไม่ไปเกิดกับเครื่องขายจริงนะครับ อิอิ !!
ราคาของ Lenovo YOGA Tab 3 Pro อยู่ที่ 22,990 บาท แอบแรงไปหน่อย แต่ใครที่เห็นแล้วมองถึงสารพัดประโยชน์ที่จะได้รับ ก็อยากให้มองว่าเป็นการทุ่มเงินเพื่อแลกกับเทคโนโลยีอันทันสมัยล่ะกันครับ
เตรียมหาซื้อได้ที่งาน Commart Connect 2016 วันที่ 17-20 มีนาคม ศกนี้ ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์
แพงเกินไป มากๆ กับ spec ที่ได้มา – – Projector ก็เข้าใจว่าดีนะ แต่มัน -*- 2 หมื่อน งะซัก 15000 จะดูน่าสนใจกว่านี้เยอะๆ เลย
ผมอยากทราบครับว่าถ้าผมฉายโปรแจ็คเตอร์จะได้อยู่ประมานกี่ชั่วโมงครับสำหรับแบตเตอร์รี่ที่เขาให้มากินแบตมากหรือป่าวครับ