เรื่องของความ ‘รวย’ ที่มาจากการใช้ Social หลายคนอาจสงสัยว่า ที่ว่ารวยๆ เนี่ย…รวยแค่ไหน? ไหนๆก็ไหนๆแล้ว งั้นเรามาดูกันดีกว่าว่า ถ้าหากเราเกิดเจาะตลาด Social บนโลกออนไลน์ขึ้นมาได้จริงๆ ปัจจัยจากตรงไหนกันที่จะทำให้เรารวย?
รวยด้วย Subscribers!
เจ้าแรกที่เราจะนำมาผ่าปมปริศนาว่าด้วยเรื่องของการรวยเพราะ Subscribers ก็คือ TheFineBros หนึ่งในผู้ให้บริการบน Youtube กับ Channel ที่มี Subscribers กว่า 13 ล้านคน! ซึ่งตัวเลขนี้แหละที่สามารถเอาไปเคลมค่าโฆษณา หาสปอนเซอร์หรือขายของแบบจัดแคมเปญ เรียกได้ว่า เงิน เงิน เงิน ทั้งนั้น ตอนนี้ผู้อ่านหลายคนอาจจะกำลังเกาหัวยิกๆพลางคิดว่าแล้วไอ้ช่อง TheFineBros เนี่ยมันทำหารับประทานเกี่ยวกับอะไร? ต้องบอกว่าเนื้อหาส่วนใหญ่บนช่องนั้นเป็น Topic ที่เข้าถึงวัยทีนสุด โดยเจาะกลุ่มตลาดใหญ่ไปที่ปัญหาที่วัยรุ่นต้องเจอหรือว่าง่ายๆเอาเรื่องของวัยรุ่นมาตีแผ่ ทำเป็นคลิปสั้นๆบ้าง ทำเป็นแบบ episodes บ้าง
ขอบอกว่าได้รับความนิยมสุดๆ ก็เลยฟันกำไรไปแบบสิวๆที่ $849,000 ถึง $7,100,000 หรือประมาณ 28 ล้าน ถึง 234 ล้านเท่านั้นเอ๊งง
ต้นทุนก็ต้องใส่ใจ
ขึ้นชื่อว่าทำธุรกิจจะไม่พูดถึงต้นทุนเลยก็ยังไงๆอยู่ หลายคนอาจจะเริ่มเบ้ปาก ไหนบอกว่าธุรกิจออนไลน์ฟรีไง? ในความเป็นจริงก็คือจะว่าฟรีมันก็ทำให้ฟรีได้ แต่ถ้าจริงจังและต้องการขยายธุรกิจของเราให้ออกไปเป็นวงกว้าง (ซึ่งจะได้ผลตอบแทนมหาศาล) ก็คงหนีไม่พ้นการลงทุน (เพราะคงมิมีใครสามารถเนรมิตลูกค้ามาขึ้นมาจากอากาศได้) งั้นเรามาดูกันขำๆดีกว่าว่าการลงทุนบนโลกออนไลน์ซัก 3 ชม./วัน เราจะมีค่าใช้จ่ายอยู่ที่เท่าไหร่ หากต้องการเพียงกลุ่มคนติดตามหรือ Subscriber บนสื่อโซเชี่ยลมีเดียต่างๆ ในอัตราค่าบริการเครื่องมือประชาสัมพันธ์ที่ต่ำสุดๆ ก็จะตกอาทิตย์ละ $152 หรือประมาณ 5,000 บาท หรือคิดประมาณ $7,917 หรือ 260,540 ต่อปี ซึ่งถือว่าเป็นจำนวนเงินลงทุนที่ไม่สูงเมื่อเทียบกับการลงทุนในด้านอื่นๆ (ยิ่งถ้าได้ผลตอบแทนซัก 1 ใน 3 ของ TheFineBros ก็น่าลงทุนไม่เลวเลย)
ตลาดกว้างมีที่ว่างอีกเยอะ
จากข้อที่แล้วเรื่องของต้นทุนก็อย่าถอดใจกันจ๊ะ เพราะข้อนี้คือข้อสำคัญที่เราต้องร้องว้าว! เป็นที่รู้กันดีว่าตลาดในโลกของโซเชี่ยลนั้นมีแต่จะใหญ่ขึ้นและใหญ่ขึ้น ตราบเท่าที่มนุษย์ยังคงเป็นสัตว์สังคม ซึ่งโซเชียลยอดนิยมที่มีผู้ใช้กว่าพันล้านนูสเซอร์ คงหลีกหนีไม่พ้น Facebook ที่ปัจจุบันการใช้งานส่วนใหญ่มาจากสมาร์ทโฟนเป็นหลัก และจำนวนผู้ใช้ก็มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่องในปี 2016 โดยเฉพาะในทวีปเอเชีย นอกจากนี้ช่องทางอย่าง Instagram ยังได้รับความนิยมจากผู้ใช้ในหลากหลายประเทศทั่วโลก ซึ่งปัจจุบันมีผู้ใช้งานแอคทีฟกว่า 400 ล้านคน ทั่วโลก พร้อมกับมีการแชร์รูปภาพมากกว่า 80 ล้านภาพ ในแต่ละวัน
ดังนั้นหากเราเปรียบยูสเซอร์เหล่านั้นเป็นปลาในทะเล และเราสามารถลากอวนช้อนขึ้นมาได้แค่ซัก 0.1% จากทั้งหมดกำไรที่ได้มาก็คงไม่รู้ว่าจะไปเก็บไว้ไหนแล้ว
สำหรับใครที่สนใจจะหันมาจับธุรกิจในโลกโซเชี่ยลก็บอกได้คำเดียวว่าแม้จำนวนคู่แข่งจะเกิดขึ้นใหม่ตลอดเวลา แต่ถ้ามองถึงโอกาสและสัดส่วนจำนวนผู้ใช้งานที่มีมากมายมหาศาลก็ต้องบอกว่า “โอกาสรวยก็มีอยู่ไม่น้อยเลย”