สิ้นสุดการรอคอยเมื่อ Samsung จัดอีเว้นท์ Unpacked 2015 รอบที่ 2 ของปี เป็นการแนะนำภาคต่อของแฟ็บเล็ตขีดเขียนได้ในชื่อ “Samsung Galaxy Note 5” ที่ปรับโฉมในด้านดีไซน์และเพิ่มลูกเล่นให้กับปากกา S-Pen
การออกแบบ Samsung Galaxy Note 5 กล่าวว่าได้เป็นการนำปรัชญาจาก Samsung Galaxy S6 / S6 Edge มาผสมผสานกันเพื่อให้เกิดความหรูหรา แสดงออกถึงความเป็นพรีเมียม โดดเด่นสมกับความเป็นเรือธงในตลาดแฟ็บเล็ตที่เหนือกว่าด้วยปากกา S-Pen คู่ใจ
หน้าจอแสดงผลของ Note 5 มาพร้อมเทคโนโลยี Super AMOLED ขนาด 5.7 นิ้ว ความละเอียด QHD (2560 x 1440 พิกเซล) ไม่เปลี่ยนแปลงจาก Note 4
ชิปประมวลผลใช้ Exynos 7420 ภายใต้สถาปัตยกรรมการออกแบบ 14 นาโนเมตร ความเร็ว 2.1GHz, แรม 4G (อัพเกรดขึ้นจาก Note 4 ที่ใช้แรม 3GB), หน่วยความจำภายในเริ่มต้นที่ความจุ 32GB, 64GB และ 128GB พร้อมตัดการรองรับ microSD Card ออกไป ตามแนวทางของ S6 และ S6 Edge
กล้องถ่ายภาพด้านหลังมากับความละเอียด 16 ล้านพิกเซล F/1.9 พร้อมระบบป้องกันการสั่นไหวขณะถ่ายภาพหรือ Smart OIS สามารถถ่ายภาพแบบ HDR ได้แบบ Real-Time สนับสนุนการเปิดกล้องที่เร็วขึ้นด้วยฟีเจอร์ Quick Launch หรือการปุ่มโฮมสองครั้ง ที่ใช้เวลาเพียง 0.6 วินาที ขณะที่กล้องหน้าใช้ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล F/1.9
ด้านการเชื่อมต่อสนับสนุน CAT 9/6 LTE (ขึ้นอยู่กับแต่ละภูมิภาค), Bluetooth 4.2, NFC, Samsung Pay, รองรับเซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือ, ใช้พอร์ต microUSB 2.0
แบตเตอรี่ความจุ 3,000mAh ลดลงจาก Note 4 ที่เดิมใช้อยู่ที่ 3,220mAh แต่สามารถชาร์จแบบปกติให้แบตเต็มภายใน90 นาที แถมสามารถชาร์จแบบไร้สาย (Wireless Charging) ให้แบตเต็มภายในเวลา 120 นาที
ซอฟต์แวร์ที่ใช้เป็น Android 5.1 Lollipop รุ่นล่าสุด ครอบทับด้วยอินเตอร์เฟซ TouchWiz UX
ในส่วนของปากกา S-Pen มีการเพิ่มกลไกด้วยการกดที่ปลายด้ามเพื่อให้ปากกาดีดตัวออกมาโดยอัตโนมัติ เมื่อดึงออก S-Pen ออกมาแล้ว หน้าจอจะแสดงเมนูพร้อมใช้งานต่างๆ ทำให้สามารถเริ่มต้นขีดเขียนหรือจัดการงานตามที่ต้องการได้ทันที รวมไปถึงสามารถขีดเขียนบนหน้าจอได้โดยไม่ต้องปลดล็อคหน้าจอ เป็นการติดต่อระหว่างตัวอุปกรณ์และผู้ใช้ที่รวดเร็วยิ่งขึ้น
อีกหนึ่งฟีเจอร์ที่เพิ่มขึ้นมาเป็นการใช้งานร่วมกับแอพ SideSync การถ่ายโอนข้อมูลระหว่าง Note 5 กับเครื่องคอมพิวเตอร์หรือแท็บเล็ต
Samsung Galaxy Note 5 มี 4 สีให้เลือก ได้แก่ Silver Titanium, Black Sapphire, White Pearl, Gold Platinum เริ่มวางขายในสหรัฐอเมริกา 21 สิงหาคม ศกนี้ ส่วนในบ้านเราก็อาจเป็นเร็วๆ นี้เช่นกัน
คลิปจาก YouTube และ Samsung Mobile