สัปดาห์ที่ผ่านมามีเหตุการณ์ครั้งสำคัญในประวัติศาสตร์ Wall Street เกิดขึ้น นั่นก็คือการที่มูลค่าตลาดของ Amazon เจ้าพ่อ e-commerce แซงหน้าห้างค้าปลีกชื่อดังอย่าง Walmart ได้เป็นครั้งแรก ส่งผลให้ Amazon ครองตำแหน่งผู้ค้าปลีกที่ใหญ่ที่สุดแทนที่ Walmart ไปเรียบร้อย
เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา Amazon ได้ประกาศผลประกอบการไตรมาสล่าสุดที่เซอร์ไพรส์เหล่านักลงทุนและนักวิเคราะห์เป็นอย่างมาก ด้วยรายได้ประมาณ 23,000 ล้านดอลล่าร์ และกำไรต่อหุ้นที่ 19 เซ็น ในขณะที่รายรับปีที่แล้วอยู่ที่ประมาณ 19,000 ล้านดอลล่าร์ และขาดทุนต่อหุ้นอยู่ที่ 27 เซ็น ส่งผลให้ราคาหุ้นของ Amazon พุ่งขึ้น 10% และปิดที่ราคา 529.42$ เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา
ราคาหุ้น Amazon ที่ปรับตัวสูงขึ้นนี้ส่งผลให้ Amazon มีมูลค่าตลาดอยู่ที่ 248,000 ล้านดอลล่าร์ แซงหน้าห้างค้าปลีกเจ้าใหญ่อย่าง Walmart ที่มีมูลค่าตลาดรวมที่ 233,000 ล้านดอลล่าร์เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ก่อตั้ง Amazon มา และขยับขึ้นไปอยู่ในอันดับ 11 ของการจัดอันดับจาก S&P
ปัจจุบันราคาหุ้นของ Amazon เพิ่มขึ้นถึง 26,939% นับจากวันแรกที่ Amazon เข้าตลาดหุ้นเมื่อปี 1997
ทางด้าน Walmart ห้างค้ายักษ์ใหญ่ที่ระยะหลังเริ่มร้อนๆหนาวๆกับการมาถึงของยุค e-commerce นั้นเริ่มมีเค้าลางที่ไม่ดีนักมาตั้งแต่ปี 2011 ที่ผ่านมา รายได้ของ Walmart เริ่มเติบโตไม่สม่ำเสมอ และโดยเฉลี่ยแล้วเติบโตต่ำกว่าปีละ 4% เสียอีก เนื่องจากลูกค้าเริ่มหันไปซื้อของ On-line กันมากขึ้น (โดน Amazon แย่งลูกค้าไปนั่นเอง) แม้ทาง Walmart จะพยายามแก้เกมด้วยการลงมาบุกตลาด Online แข่งบ้าง แต่ก็ถูก Amazon เอาคืนด้วยการเปิดบริการใหม่ Prime Pantry เพื่อขายของชำต่างๆแข่งกับ Walmart
คงต้องรอดูกันต่อไปว่า Walmart จะกลับมาทวงคืนบัลลังก์เจ้าพ่อค้าปลีกจาก Amazon ได้หรือไม่