เมื่อเอ่ยถึงแบรนด์ที่พัฒนาแท็บเล็ตประเภทโทรออกได้ ออกมาสู่ตลาดอย่างต่อเนื่องในช่วงหลายปีหลัง ชื่อของ “ASUS” คงติดหูใครหลายๆคน และเพื่อเป็นการแนะนำให้ชาวไทยได้รู้จักกับแท็บเล็ตประเภทโทรออก รองรับสองซิมได้ ทาง ASUS ประเทศไทย จึงได้นำ “ASUS Fonepad 7 รหัส FE171CG ” มาให้ทีมงานเออาร์ไอพีได้รีวิว และบอกต่อถึงความน่าใช้ให้ทราบโดยทั่วกันครับ
ASUS Fonepad 7 ที่นำมารีวิวในครั้งนี้ เป็นรหัส “ FE171CG ” เปิดตัวไปเมื่อต้นปี 2558 ซึ่งเป็นรุ่นที่อัพเกรดสเปคขึ้นจาก ASUS Fonepad 7 รหัส FE170CG ของปีที่ผ่านมา ซึ่งก่อนอื่นขอพาไปรู้จักกับสเปคในเบื้องต้นกันของ ASUS Fonepad 7 (FE171CG) ก่อนครับ
-หน้าจอ IPS LCD ขนาด 7 นิ้ว ความละเอียดการแสดงผล 600 x 1024 พิกเซล (170ppi)
-ขนาดตัวเครื่องโดยรวม 196 x 110.6 x 7.9 mm, น้ำหนัก 280 กรัม (บางและเบากว่ารุ่นแรก)
-รองรับการใช้งานสองซิม ประเภท Micro SIM
-รัน Android 4.4.2 KitKat
-ใช้ชิปเซ็ต Intel Atom Z2520 ชนิด Dual-core ความเร็ว 1.2GHz, ใช้จีพียู PowerVR SGX544MP2
-แรม 1GB, หน่วยความจำภายใน 8GB รองรับการเพิ่มพื้นที่เก็บข้อมูลด้วย microSD card ความจุ 64GB
-กล้องหลัง 5 ล้านพิกเซล รองรับการบันทึกวีดีโอที่ความละเอียดสูงสุด 720p
-กล้องหน้า 2 ล้านพิกเซล
-แบตเตอรี่ความจุ 4,270mAh
ความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นกับ ASUS Fonepad 7 ปี 2015 มีทั้งตัวเครื่องที่บางลงและน้ำหนักที่เบาขึ้น กล้องหลังปรับความละเอียดมาใช้ 5 ล้านพิกเซล (รุ่นปี 2014 ใช้เพียง 2 ล้านพิกเซล) กล้องหน้า 2 ล้านพิกเซล (รุ่นปี 2014 อยู่แค่ VGA) ตอบโจทย์การถ่ายภาพที่ดีขึ้น ซึ่งในภาพรวม ASUS Fonepad 7 (FE171CG) จัดอยู่ในแท็บเล็ตประเภทโทรออก รองรับสองซิม ที่มีสเปคอยู่ในระดับกลางๆ
รูปลักษณ์ภายนอกหรือดีไซน์ ASUS Fonepad 7 (FE171CG) มีความใกล้เคียงกับ ASUS Zenfone สมาร์ทโฟนรุ่นยอดนิยม ซึ่งเป็นจุดที่ ASUS ประสบความสำเร็จอย่างสวยงามในปีที่ผ่านมา ฝาหลังใช้พลาสติกเป็นส่วนประกอบ ขอบตัวเครื่องค่อนข้างมีความพรีเมียมมากขึ้น เมื่อผสมผสานไว้ด้วยกันจึงทำให้ ASUS Fonepad 7 (FE171CG) มีความลงตัว เรียบง่าย ดูน่าจับต้องมากยิ่งขึ้น
ส่วนประกอบภายนอกของ ASUS Fonepad 7 (FE171CG) ด้านหน้ามีกล้องหน้า, หูฟังสำหรับการสนทนา และยังเป็นลำโพงที่ใช้ในขณะดูหนังฟังเพลงด่วย
ด้านซ้ายเป็นช่องสำหรับซิมการ์ด ประเภท Micro SIM ได้ถึง 2 ซิม ถัดลงมาจะเป็นช่องสำหรับ microSD Card ซึ่งสาเหตุที่ที่ช่อง microSD มาอยู่ที่ขอบตัวเครื่อง อันเนื่องมาจากฝาหลังที่ไม่สามารถเปิดออกได้นั่นเอง !
ด้านขวาจะเป็นปุ่มเพิ่ม-ลดเสียง และปุ่มพาวเวอร์
ด้านบนจะเป็นพอร์ต micro USB และช่องสำหรับหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตร
ในฝั่งของซอฟต์แวร์นั้น ASUS Fonepad 7 (FE171CG) มาพร้อม Android 4.4.2 KitKat ครอบทับด้วยอินเตอร์เฟซ Zen UI ที่ ASUS เป็นผู้พัฒนาขึ้น ซึ่งต้อมยอมรับว่าเป็นอินเตอร์เฟซที่ใส่ใจกับผู้ใช้เป็นอย่างมาก เพื่อให้เกิดความง่ายต่อการเข้าถึงทุกฟังก์ชันและสามารถใช้งานได้อย่างราบลื่น หรือหากจะปรับแต่งการใช้งานเพื่อประหยัดพลังงานก็สามารถทำได้ด้วยโหมดประหยัดพลังงานพิเศษ และแน่นอนว่าในอินเตอร์เฟซ Zen UI ยังมาพร้อมบริการจากทาง ASUS อาทิ ZenLink หรือจะเป็นบริการดูแลเครื่องจาก ASUS เป็นต้น
ภายใต้อินเตอร์เฟซ Zen UI ยังมาพร้อมบริการจากทาง ASUS อาทิ ZenLink หรือจะเป็นบริการดูแลเครื่องจาก ASUS เป็นต้น
ในส่วนของหน้ารวมแอพฯ และคุณสมบัติของการจัดหน้าโฮม รวมไปถึงปรับเปลี่ยนหรือเพิ่มวิตเจ็ตในแบบต่างๆ
ฟังก์ชันการโทรจาก ASUS Fonepad 7 (FE171CG) เห็นอินเตอร์เฟซแล้วคิดว่าเป็น Android Lollipop ซะอีก 555+
อีกส่วนสำคัญที่จะขาดไปไม่ได้นั่นคือเรื่องของกล้องถ่ายภาพ ซึ่งอย่างที่กล่าวไปเมื่อตอนต้นว่า ASUS Fonepad 7 (FE171CG) กล้องหลังปรับความละเอียดมาใช้ 5 ล้านพิกเซล (รุ่นปี 2014 ใช้เพียง 2 ล้านพิกเซล) กล้องหน้า 2 ล้านพิกเซล (รุ่นปี 2014 อยู่แค่ VGA) ตอบโจทย์การถ่ายภาพที่ดีขึ้น โดยฟังก์ชันด้านการถ่ายภาพมีความคล้ายคลึงกับสมาร์ทโฟน ASUS Zenfone C ที่เออาร์ไอพี ได้รีวิวไปก่อนหน้านี้ ไม่ว่าจะเป็นการกำหนดความละเอียดในการถ่ายภาพด้วยกล้องหลัง หรือจะเป็นตัวช่วยสำหรับถ่ายภาพในลักษณะต่างๆ เป็นต้น
ตัวอย่างภาพที่ถ่ายจากกล้องหลัง ASUS Fonepad 7 (FE171CG) ในความละเอียดสูงสุด 5 ล้านพิกเซล
จากภาพที่ออกมาแสดงให้เห็นว่ามีความน่าพอใจพอสมควร โดยหากผู้ใช้ไม่ได้ต้องการภาพที่ให้รายละเอียดแบบทุกรูขุมขน ก็ต้องถือว่ากล้องหลังของ ASUS Fonepad 7 (FE171CG) มีคุณสมบัติที่ตอบโจทย์การถ่ายภาพทั่วไปในฟังก์ชันปกติได้เป็นอย่างดี
ทั้งนี้ในภาพรวมของ ASUS Fonepad 7 (FE171CG) แสดงให้เห็นความน่าประทับใจเรื่องของดีไซน์ ที่ค่อนข้างดึงดูดแก่ผู้พบเห็น นอกจากนี้ประสิทธิภาพการทำงานในลักษณะทั่วไป ไม่ว่าจะเป็น ส่งข้อความ, โทรเข้า-รับสาย, การถ่ายภาพ หรือจะเป็นความเรียบง่ายในการเข้าถึงฟังก์ชันต่างๆ ต้องถือว่ามีส่วนช่วยให้ผู้ใช้สามารถใช้ง่ายได้อย่างราบลื่น ขณะเดียวกันคุณผู้ชายที่ใช้ ASUS Fonepad 7 (FE171CG) ยังสามารถนำแท็บเล็ตพกใส่กระเป๋ากางเกงยีนส์ได้อย่างไม่เกะกะ หรือจะเป็นคุณผู้หญิงก็สามารถพกติดกระเป๋าถือได้เช่นกัน
เอาเป็นว่าใครที่กำลังมองหาแท็บเล็ตประเภทโทรออก รองรับสองซิมได้ ASUS Fonepad 7 (FE171CG) เป็นทางเลือกสุดประหยัดกับราคาเพียง 4 พันนิดๆ เท่านั้นครับ !!!
