ปัจจุบัน Meta ถูกฟ้องร้องคดีความเกี่ยวกับ AI เพราะใช้ข้อมูลที่ไม่ได้รับอนุญาตในการฝึก AI โดยฝ่ายโจทก์มองว่าคดีนี้เป็นการละเมิดลิขสิทธิ์อย่างชัดเจน แต่หากศาลมีความเห็นต่างออกไป นี่อาจกลายเป็นบรรทัดฐานใหม่ที่เปิดทางให้บริษัทต่าง ๆ ใช้เนื้อหาลิขสิทธิ์โดยไม่ได้รับอนุญาตเพื่อฝึกโมเดล AI ในอนาคต
เบื้องหลังคดีนี้
ย้อนกลับไปในเดือนมกราคม 2024 กลุ่มนักเขียนได้ยื่นฟ้อง Meta ในรัฐแคลิฟอร์เนีย ฐานนำผลงานของพวกเขาไปใช้ฝึกปัญญาประดิษฐ์ (AI) โดยไม่ได้รับอนุญาต
โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับโมเดล Llama ซึ่งเป็น AI ด้านภาษาของ Meta เอง Meta ได้ยอมรับว่า ได้ใช้ฐานข้อมูล Books3 ซึ่งเป็นชุดข้อมูลขนาด 37GB ที่รวบรวมหนังสือที่มีลิขสิทธิ์กว่า 195,000 เล่มมาตั้งแต่ปี 2020 เพื่อฝึก AI ของตน
บริษัทอ้างว่าการกระทำดังกล่าวอยู่ภายใต้หลัก Fair Use หรือการใช้งานอย่างเป็นธรรม แต่เอกสารที่ถูกเปิดเผยต่อศาลระบุว่า Meta ได้ใช้ การดาวน์โหลดผ่าน Torrent เพื่อรวบรวมข้อมูลเหล่านี้ (ฮะ!!)
เอกสารฟ้องร้องที่ถูกเปิดเผยระบุว่า Meta พยายามดาวน์โหลดไฟล์ทีละไฟล์ในตอนแรก แต่พบว่ากระบวนการนี้ช้าและทำให้เครือข่ายของบริษัททำงานหนักเกินไป จึงเปลี่ยนมาใช้ BitTorrent ซึ่งเป็นระบบแชร์ไฟล์แบบ peer-to-peer (P2P) ที่ขึ้นชื่อเรื่องการละเมิดลิขสิทธิ์ วิธีนี้ช่วยให้ Meta สามารถดาวน์โหลดหนังสือที่มีลิขสิทธิ์ได้เป็นจำนวนมากในเวลาอันสั้น
นอกจากนี้ Meta ยังถูกกล่าวหาว่า พยายามปกปิดร่องรอยของตน โดยไม่ใช้เครือข่ายของตัวเองในการดาวน์โหลดไฟล์ แต่เลือกใช้ Amazon Web Services (AWS) เป็นตัวกลาง ซึ่งเป็นแนวทางที่ผิดปกติสำหรับบริษัทขนาดใหญ่อย่าง Meta
คดีนี้อาจเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญสำหรับอุตสาหกรรม AI หาก Meta ชนะ อาจเปิดช่องให้บริษัทเทคโนโลยีต่าง ๆ ใช้ไฟล์มีลิขสิทธิ์ ไม่ว่าจะเป็น หนังสือ รูปภาพ หรือวิดีโอ เพื่อฝึก AI ของตนได้โดยไม่ต้องขออนุญาต
แต่หากนักเขียนเป็นฝ่ายชนะ ก็อาจเป็นบรรทัดฐานใหม่ที่ปกป้องสิทธิของเจ้าของลิขสิทธิ์และอาจนำไปสู่การปรับปรุงกฎหมายคุ้มครองลิขสิทธิ์ให้ทันสมัยขึ้น เช่นเดียวกับกฎหมาย Digital Millennium Copyright Act (DMCA)
เชียร์ใครกันครับ ?
ที่มา
techspot