ในยุคที่ AI เติบโตอย่างรวดเร็ว Meta ก็กำลังมองหาแนวทางที่จะนำพลังงานนิวเคลียร์มาใช้เพื่อจ่ายพลังงานให้กับศูนย์ข้อมูลปัญญาประดิษฐ์ (AI) โดยมีเป้าหมายเริ่มใช้งานตั้งแต่ช่วงต้นปี 2030
การเคลื่อนไหวนี้ทำให้ Meta เข้าร่วมกลุ่มบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่อย่าง Google (GOOG) และ Amazon (AMZN) ที่หันมาใช้พลังงานนิวเคลียร์เป็นทางเลือกสำคัญเหมือนกัน
มีเอกสารที่สรุปคำขอข้อเสนอ (Request for Proposals) ของบริษัท Meta ระบุว่ากำลังมองหาพันธมิตรที่สามารถช่วยเร่งการพัฒนาเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์รุ่นใหม่ และสามารถขยายการผลิตเพื่อให้เกิดการลดต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพโดยการติดตั้งเครื่องปฏิกรณ์หลายชุด
เรื่องนี้มีความสำคัญยังไง ? เราต้องยอมรับอย่างหนึ่งว่า ศูนย์ข้อมูล AI มีการใช้พลังงานมหาศาลมาก ๆ และในยุคที่ทุกคนต่างยอมรับและใช้งาน AI กันทั่วบ้านทั่วเมือง การใช้พลังงานนั้นก็มากขึ้่นอย่างเลี่ยงไม่ได้
แต่ตอนนี้ สถานการณ์เรื่องโลกร้อน และการรณรงค์เกี่ยวกับเรื่องความยั่งยืน (Sustainability) ก็มาแรงไม่แพ้ บริษัททั่วโลกจึงพยายามหันมาพึ่งพาพลังงานสะอาดมากขึ้น และหนึ่งในนั้นคือพลังงานนิวเคลียร์นี่แหละ
แต่แม้โรงไฟฟ้านิวเคลียร์จะไม่ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO₂) หรือก๊าซเรือนกระจกอื่น ๆ ระหว่างกระบวนการผลิตไฟฟ้า แต่ขยะนิวเคลียร์หรือกากกัมมันตรังสีที่เกิดขึ้นจากกระบวนการผลิตยังคงเป็นปัญหาใหญ่ รวมทั้งการนำเหมืองยูเรเนียม ก็จะทำให้เกิดปัญหาสิ่งแวดล้อมในระยะยาวอีกด้วย
ข้อดีมาก ๆ พลังานนิวเคลียร์อย่างเดียวคือ ให้ประสิทธิภาพพลังงานที่ดีมาก ๆ มีต้นทุนที่ถูกกว่า และไม่จำเป็นต้องมีระบบจัดเก็บพลังงานไฟฟ้าเหมือนกับ Solar-cell หรือพลังงานลมครับ แต่ก็นั่นแหละ หากมีการจัดการไม่ดี ผลที่ตามมาก็ใหญ่หลวงเช่นกัน
ที่มา