ชัดทุกระยะจริงไหม ? เจาะลึกกล้องซูม AI กับ OPPO Find X8 Pro

[Top Stories] ในช่วงที่มือถือหรือสมาร์ทโฟนหลาย ๆ รุ่น ต่างแข่งกันพัฒนาสมาร์ทโฟนระดับ Top ของตัวเองอย่างถึงที่สุด ชนิดที่ไม่ต้องเกรงใจเรื่องราคาอีกต่อไป ผลคือเราได้สมาร์ทโฟนที่ (พยายาม) ไม่กักสเปกแล้ว โดยเฉพาะเรื่อง [กล้อง] ที่แข่งกันเดือดเป็นพิเศษ และโดยเฉพาะเทคโนโลยีการ ZOOM

เมื่อเร็ว ๆ นี้เอง ทาง OPPO ได้เปิดตัวมือถือรุ่นใหม่อย่าง OPPO Find X8 Series โดยมีรุ่น Top สุดในชื่อรุ่นว่า OPPO Find X8 Pro ชูเป็น “มาตรฐานที่เหนือกว่า” ของสมาร์ทโฟนระดับเรือธงทุกรุ่น โดยได้ทาง Hasselblad แบรนด์กล้องสุดหรูจากสวีเดน เข้ามาช่วยปรับแต่งระบบกล้องเป็นพิเศษเช่นเคย กับมี AI Telescope Zoom ซูมด้วยพลัง AI ไกล 120 เท่า กับ AI Photo Remaster และ AI Productivity สารพัด AI ที่มาอัดอยู่ในมือถือบาง ๆ เครื่องนี้เครื่องเดียว คำถามสำคัญเลยคือ “มันใช้งานได้จริงไหม ?” ในบทความนี้ขอเจาะลึกในส่วนนี้กันครับ

Periscope Telephoto กล้องปริทรรศน์ (Dual)

เบื้องหลังกล้องซูมของ OPPO Find X8 Series ก็คือการใช่ตัว Periscope Telephoto หรือกล้องปริทรรศน์ ที่มีการใช้ปริซึมที่มีคุณสมบัติหักเหแสงในมุม 90 องศา (แบบที่ใช้ในเรือดำน้ำนั้นแล) ทำให้ได้การซูมที่คมชัดแม้ระยะไกล ในขณะที่ใช้พื้นติดตั้งน้อยนั้นเอง ปัจจุบันก็มีในสมาร์ทโฟนระดับ Top หลายรุ่นแล้ว ทว่าทาง OPPO ได้นำกล้อง Periscope มายัดใน OPPO Find X8 Pro ถึงสองตัว กลายเป็นมือถือตัวแรกของโลกที่มี Telephoto Dual-Periscope ช่วยให้ได้ระยะการซูมที่ครอบคลุมกว่าเดิม

ส่องภายในกล้อง Periscope แบบ Triple ของตัวเครื่องกันชัด ๆ กับขนาดโมดูลที่เล็กลงถึง 33%

จุดเด่นสำคัญของ OPPO Find X8 Pro คือมีเลนส์กล้องให้ 4 ตัว และมีความคมชัดถึง 50 ล้านพิกเซลทั้งหมดเลยด้วย รวมไปถึงเลนส์ซูมจาก Periscope Telephoto ทั้ง 2 ตัวด้วยเช่นกัน ซึ่งตัวหนึ่งซูมได้ 3 เท่า (ที่ระยะโฟกัส 73 มม.) และอีกตัวซูมได้อีก 6 เท่า (ที่ระยะโฟกัส 135 มม.) โดยเป็นการซูมชัดที่ความละเอียด 50 ล้านพิกเซลแบบเน้น ๆ ทุกระยะด้วย

ในงานเปิดตัว ทาง OPPO เทียบเลยว่าพก OPPO Find X8 Pro ก็เหมือนพกเลนส์กล้องไปด้วย 6 ตัว !! ‘งั้นลองมาดูกันชัด ๆ ไปเลยว่า ทุกระยะการซูมจากกล้อง Periscope Telephoto ทั้ง 2 ตัว จะสามารถถ่ายภาพได้ขนาดไหน

OPPO Find X8 Pro

ลองทดสอบการซูมจากทั้ง 5 ระยะตามนี้

เริ่มจากซูม 0.6x หรือระยะ 15 มม. ซึ่งถ่ายด้วยเลนส์ Ultra-wide ความละเอียด 50 ล้านพิกเซล กับขนาดเซ็นเซอร์ 1/2.75″ และรูรับแสง f/2.0

ซูม 1x หรือระยะ 23 มม. ถ่ายด้วยเลนส์ Wiide หรือกล้องหลักความละเอียด 50 ล้านพิกเซล กับขนาดเซ็นเซอร์ 1/1.4″ และรูรับแสง f/1.6

ซูม 2x หรือระยะ 48 มม. ถ่ายด้วยกล้องหลักเช่นเคย

เข้าสู่การใช้เลนส์ซูมแล้ว กับการซูมที่ 3x ระยะ 73 มม. ถ่ายด้วยเลนส์ Telephoto ความละเอียด 50 ล้านพิกเซล กับขนาดเซ็นเซอร์ 1/1.95″ และรูรับแสง f/2.6

ปิดท้ายดว้ยการซูมที่ 6x ระยะ 135 มม. ถ่ายด้วยเลนส์ Telephoto ความละเอียด 50 ล้านพิกเซลตัวที่ 2 กับขนาดเซ็นเซอร์ 1/2.51″ และรูรับแสง f/4.3 จากระยะการซูมทั้งหมด ก็ต้องยอมรับตรง ๆ เลย มันชัดจริง นี่คือการซูมแบบไม่เสียความละเอียดจากทั้งหมด 5 ระยะ ทว่าก็แลกกับเลนส์ที่ใช้จะแตกต่างกันไป 

โดยระยะที่ดีที่สุด ก็ไม่พ้นซูม 1x หรือระยะ 23 มม. ที่ถ่ายด้วยเลนส์ Wiide กล้องหลักความละเอียด 50 ล้านพิกเซล กับขนาดเซ็นเซอร์และรูรับแสงที่ใหญ่สุดที่แล้วในทุกเลนส์ [1/1.4 นิ้ว กับ f/1.6] คมชัดแม้ภาพถ่ายกลางคืน ซึ่งก็คมจริงอะไรจริง

ใด ๆ ก็ตาม หากแสงเพียงพอ ก็สามารถถ่ายซูม 6x หรือระยะ 135 มม. จากเลนส์ Telephoto กับขนาดเซ็นเซอร์ 1/2.51 นิ้ว และรูรับแสงเพียง  f/4.3 ก็ออกมาชัดคมได้เช่นกัน

AI Telescope Zoom ซูมชัดด้วย AI (ชัดจริงไหม ?)

ก่อนอื่นต้องขอเล่าถึง AI Telescope Zoom กันก่อน ในตัว OPPO Find X8 Pro จะมาพร้อม AI ช่วยถ่ายรูปเต็มระบบ ซึ่งช่วยตั้งแต่ก่อนถ่ายยันหลังถ่ายกันเลย ทีนี้ทาง OPPO ได้นำ AI เข้ามาช่วยในส่วนซูมที่ระยะใกล้สุดถึง 120 เท่า หรือระยะ 2700 มม. ด้วย ซึ่งปกติในระยะนี้ “อย่าได้หวังความคมชัดเลย” ต่อให้มีขาตั้งก็ยังถ่ายให้ชัดยาก ไม่ต้องพูดถึงการถ่ายด้วยมือเพียว ๆ ทว่าทาง OPPO ก็มั่นใจใน AI ของตัวเอง (ยิ่งนัก) ว่าสามารถช่วยให้ถ่ายภาพระดับ 2700 มม. ให้ออกมาชัดได้ แม้ถ่ายด้วยมือสั่น ๆ ของเราก็ตาม ว่าแล้วก็ขอพิสูจน์ให้หนำใจตามนี้

ประเดิมด้วยซูม 0.6x ถึง 6x เท่ากันก่อน (15 – 135 มม.) ซึ่งก็เป็นการซูมแบบไม่เสียความละเอียดตามสเปก 50 ล้านพิกเซล ภาพยังคงความชัดอยู่ แต่ก็ยังไม่เห็นเป้าหมายที่กำลังซูมเท่าไรนัก

และทันทีที่เริ่มซูมในระดับ 10 เท่า เป็นต้นไป ตัวเครื่องจะเริ่มนำ AI เข้ามาช่วย Generated ภาพแล้ว ซึ่งในระยะที่ 338 มม. ถึง 1350 มม. ยังแยกไม่ค่อยออก กระทั่งการซูมสุดหลอดที่ 120 เท่า กับระยะ 2700 มม. เริ่มเห็นชัดเจนแล้วว่ามี AI เข้ามาช่วย 100% 

ยัง ยังสับไม่พอ ต่อด้วยอีกภาพ โอเค….. AI ชัดเจน

ชัดพอไหม…

หากไม่ถูกใจภาพซูม AI ก็สามารถปิดการใช้งานได้ ซึ่งหากปิดการใช้งาน ก็จะได้ภาพซูม Digital แบบเพียว ๆ (ภาพซ้ายมือ) แต่หากเปิดใช้ AI (ภาพขวามือ) ก็จะเห็นชัดเลยว่าตัว AI เข้ามาช่วยปรับแต่งภาพให้มีความคมชัดมากขึ้น และจะช่วยได้ดีมาก หากซูมภาพที่เป็นสิ่งของ สิ่งปลูกสร้าง ตึกรามบ้านช่อง และยานพาหนะ แต่กับ ‘มนุษย์’ นั้น ขอไม่แนะนำอย่างแรง

ทั้งนี้หาก “เลือกซูม AI ถูกจุด” ภาพก็ออกมาดูดีอยู่ สรุปการซูมด้วย AI ในระยะ 10 เท่า จนถึง 60 เท่า ตัว AI สามารถช่วยได้เหมาะสมแล้ว ส่วนซูมใกล้สุดที่ 120 เท่านั้น….ก็ลุ้นกันอีกทีครับ

อย่างที่กล่าวไป ในระยะ 10 เท่า ตัว AI ยังช่วยได้เหมาะสม เช่นซูมคนในระยะ 200 มม. ขึ้นไป ภาพก็ยังคมชัดเกินคาด

Hasselblad Portrait Mode กับพลัง AI

ย้อนกลับไปปี 2022 ทาง OPPO ได้ประกาศความร่วมมือด้าน R&D กับ Hasselblad แบรนด์ผู้ผลิตกล้องสุดหรู (หรูระดับที่ทาง NASA ยังนำไปใช้เป็นกล้องถ่ายภาพบนจันทร์มาแล้ว) นับแต่นั้นมา สมาร์ทโฟนซีรีส์ Find X ของ OPPO ก็มาพร้อมตรา Hasselblad เสมอ ชูการถ่ายภาพระดับมือโปร ที่ผู้ใช้ทั่วไปก็โปรได้เช่นกัน จนมาถึงรุ่น OPPO Find X8 Series ก็นำทั้งพลังการซูมกับ AI จนได้ภาพ Portrait ที่คลอบคลุมมากถึง 5 ระยะ อาทิ 24 , 49 , 73 มม. กับระยะโฟกัส 35 มม. และ 85 มม. ที่เพิ่มเข้ามาใหม่ด้วย

ด้วยระยะที่เพิ่มมาใหม่ ก็ช่วยให้ตัวเครื่องสามารถถ่ายภาพ Portrait จากระยะไกลได้สบาย กระทั่งระยะโฟกัส 135 มม. ก็ยังถ่ายได้คม

โดยผสานกับโทนสีอันเป็นเอกลักษณ์ของ Hasselblad ก็มีให้เลือกหลากหลายแท้

อีกตัวอย่างระยะ 135 มม. กับโทนสีและความฟุ้งได้ใจ

ส่วนระยะใหม่อย่าง 85 มม. ก็คมแบบได้ใจยิ่งกว่า

AI Photo Remaster รวมเครื่องมือ AI

จากสองภาพนี้ พอแยกได้หรือไม่ว่า ? ภาพไหนคือต้นฉบับ และ ภาพไหนคือผ่านการปรับแต่งแล้ว คำตอบคือภาพซ้ายคือต้นฉบับ ส่วนภาพขวาคือผ่านการปรับแต่ง โดยใช้ฟีเจอร์จาก AI Photo Remaster หมดทั้ง 

AI Clarity Enhancer เพิ่มความคมชัดภาพเป็น 4K, AI Unblur ลดความเบลอของภาพ, และ AI Reflection Remover ลบการสะท้อนบนภาพ กระทั่ง AI ช่วยลบภาพด้วย ใช้งานง่ายมาก ๆ ทว่าต้องเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตด้วยนะเออ

มันควรจะเป็นภาพที่ดี กระทั่ง…

จะเรียกว่าสับก็ไม่ได้ เพราะเป็นที่การใช้เครื่องมือ “มากเกินไป” ของตัวผู้เขียนเอง สืบเนื่องจากโหมด Portrait หรือถ่ายภาพบุคคลของ OPPO Find X8 Series นอกจากฟิลเตอร์กับเอฟเฟคแสงแล้ว ยังมีตัวช่วยปรับค่า F หรือหน้าชัดหลังเบลอ กับการรีทัช สองค่านี้ควรใช้ให้เหมาะสม เพราะหากปรับมากเกินไป ก็จะเป็นแบบในบทความนี้เอง ฉะนั้นควรระวัง

สรุป

ในสมาร์ทโฟนระดับเรือธงขึ้นไป อาจเรียกได้ว่าเป็นการ ‘ปล่อยของ’ จากแต่ละแบรนด์ โดยของ OPPO ก็คือการถ่ายภาพที่เหนือระดับขึ้นไปอีก มาพร้อม AI ที่ใช้งานได้จริง ช่วยได้จริง แต่ต้องใช้ให้ทุกด้วยเช่นกัน สรุปคือมันดีมาก ดีกว่าที่คิด การซูมก็ซูมได้คมชัด คมชัดแบบของจริง แม้ในระยะ 135 มม. หรือ 6x ขึ้นไป ที่หลังจากนี้จะเป็น Digital ซูมก็ตาม ส่วนในซูม 10x ขึ้นไปที่ตัวเครื่องเริ่มใช้งาน AI นั้น ก็สามารถช่วยได้จริงเหมือนกัน เห็นตัวอย่างชัดเจน ส่วนระยะไกลสุดอย่าง 120x หรือ 2700 มม. ส่วนนี้มองว่า “โชว์ได้” แต่ก็ไม่แนะนำให้เอามาถ่ายจริงจัง แต่เท่านี้ก็พอทำให้เห็นแล้วว่า สมาร์ทโฟนมันยังพัฒนาต่อได้อีก ยังไม่ตันซะทีเดียวครับ