ช่วงนี้ใครๆ ก็พูดถึง AI มีบริษัทใหม่ ๆ ผุดขึ้นมากมายและทุกคนก็ต่างก็โม้ว่า AI ของตัวเองนั้นเจ๋งแค่ไหน แต่หลายคนมองว่านี่มันเหมือน “ฟองสบู่” ในตลาดที่รอวันแตก ซึ่ง CEO ของ Baidu ก็เห็นด้วย และเมื่อวันที่ฟองสบู่แตก บริษัท AI ส่วนใหญ่ ก็จะอยู่ไม่รอด
Robin Li CEO ของ Baidu เชื่อว่าหลังจากฟองสบู่ AI แตก จะมีบริษัท AI รอดแค่ 1% เท่านั้น ตลาดจะแข็งแรงขึ้น และมีการใช้ AI ที่เข้าท่าและตอบโจทย์จริงๆ เท่านั้น
AI เป็นเทรนด์ฮิตมาตลอดหลายปี โดยเฉพาะหลังจากที่บริษัทอย่าง OpenAI และ NVIDIA ที่ช่วยดันกระแสของ AI ให้มากขึ้น ในฐานะผู้ผลิตซอฟต์แวร์ และฮาร์ดแวร์
และ NVIDIA ที่ผลิตฮาร์ดแวร์ให้บริษัท AI ทั้งหลาย กำลังจะเป็นบริษัทที่มีมูลค่าสูงที่สุดในโลก แม้แต่ยักษ์ใหญ่อย่าง Microsoft, Apple และ Google ก็ได้พยามเอา AI ยัดใส่ในสินค้าแทบทุกอย่าง
แต่ปัญหาคือหลายบริษัทก็ชอบโม้เกินจริง โดย Li ได้กล่าวในงานสัมมนา Future of Business ที่มหาวิทยาลัย Harvard ว่า สินค้า AI หลายตัวมัน “เฟค” หาตลาดจริงจังไม่ได้
เขาเปรียบเทียบสถานการณ์ตอนนี้กับฟองสบู่ของดอทคอม เมื่อ 20 กว่าปีก่อน ที่บริษัทอินเทอร์เน็ตเจ๊งกันระนาว Li มองว่าตลาด AI ปีนี้ดูซาๆ ลง นักลงทุนบางคนยังฝันหวานกับ AI อยู่ แต่หลายคนก็เริ่มระวังตัว
(เหตุการณ์ ฟองสบู่ของดอทคอม คือช่วงนี้อินเทอร์เน็ตกำลังโด่งดังในช่วงปลายยุค 90 ทำให้นักลงทุน แห่กันลงทุนในบริษัทอินเทอร์เน็ตและเทคโนโลยีต่างๆ โดยคาดหวังผลกำไรมหาศาล แม้หลายบริษัทจะยังไม่มีผลประกอบการที่ชัดเจน หรือมีโมเดลธุรกิจที่ยั่งยืนก็ตาม และบางบริษัท ก็มีมูลค่าสูงเกินจริง สรุปคือ เจ๊งกันระนาว)
ส่วนผู้บริโภคเองก็ไม่ได้ตื่นเต้นกับ AI เท่าไหร่ ยอดขายคอมพิวเตอร์รุ่นใหม่ ๆ ที่เน้นเรื่อง AI ก็ไม่ได้พุ่งมาก คนซื้อเพราะมันเป็นรุ่นใหม่ล่าสุด ไม่ได้ซื้อเพราะอยากใช้ AI จริง ๆ (โดยก่อนหน้านี้ Techhub ก็เคยนำผลวิจัยมานำเสนอนะ เรื่องนี้เรื่องจริง >> https://www.techhub.in.th/people-buying-ai-pcs-but-not-their-ai/)
ถ้าตลาด AI เกิดวิกฤตจริงๆ Li คาดว่าบริษัท AI ที่รอด 1% จะเป็นบริษัทที่ทำสินค้าและบริการที่มีคุณค่าจริง ๆ นอกจากนี่้ Li ยังพูดถึงเรื่อง AI แย่งงานคนด้วย เขายอมรับว่า AI จะมาแทนที่คนจริงๆ และอาจจะเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในตลาดแรงงานภายในช่วง 10-30 ปีนี้ครับ
ที่มา
https://www.techspot.com/news/105233-baidu-ceo-99-ai-companies-wont-survive-bubble.html