หลังมีคลิปเหยื่อรายที่สาม ที่ถูกสังหารอย่างโหดเหี้ยมด้วยวิธีเดียวกันกับคลิปก่อนหน้า จนต่อมา สื่อเมืองนอกก็ได้มีกิจกรรมรณรงค์ ให้มีการหยุดเผยแพร่คลิปสังหารโหดนี้
ภาพโดย Menendj/Wikimedia Commons (CC BY-SA 2.5)
จากที่เป็นกระแสไปทั่วโลก หลังกลุ่ม ISIS ได้เผยแพร่คลิปสังหารโหดนักข่าวชาวอเมริกันไปแล้วถึง 2 คน ล่าสุด เมื่อวันที่ 13 กันยายน 2557 ก็ได้มีการเผยแพร่ คลิปสังหารตัวประกันรายที่ 3 โดยการตัดศีรษะขึ้นอีกราย เหยื่อในคราวนี้กลับไม่ใช้ชาวอเมริกัน แต่เป็นชาวบริเทน คือนายเดวิด เฮนส์ (David Haines) เจ้าหน้าที่บรรเทาทุกข์ วัย 44 ปี ที่ถูกลักพาตัวไปเมื่อปี 2556 เดือนมีนาคม ส่วนสาเหตุการสังหารในครั้งนี้ เป็นการตอบโต้ นายเดวิด คาเมรอน (นายกรัฐมนตรีของอังกฤษ)ที่ร่วมมือกับอเมริกาในการกวาดล้างกลุ่ม ISIS และยังได้ส่งคำขู่ไปยังสหรัฐว่า จะมีเหยื่อรายต่อไปตามมาอีก ทั้งนี้มีข้อมูลว่า นายสตีฟ ซอตลอฟฟ์ วัย 31 ปี นักข่าวอเมริกัน กำลังเป็นเหยื่อรายต่อไป และ นายเจมส์ โฟลีย์ เป็นช่างภาพอิสระ ที่หายตัวไปนาน ทราบแล้วว่าถูกลักพาตัวในซีเรียอีกราย
สำหรับการรณรงค์ในครั้งนี้คาดว่าเกิดจาก ผลการสำรวจของ Wall Street Journal และ NBC poll พบว่า มีชาวอเมริกันถึง 94 เปอร์เซ็น ได้รับรู้ถึงคลิปการสังหารในครั้งนี้กันทั่ว และ สองในสาม ได้สนับสนุนให้ดำเนินการทางทหารอย่างเร่งด่วน จึงถือได้ว่า เป้าหมายของวิดีโอที่เห็นได้ชัดว่า ต้องการที่จะยั่วยุให้ชาวอเมริกัน เกิดปฏิกิริยาต่อรัฐบาลของพวกเขา ได้ประสบความสำเร็จแล้ว ดังนั้นจึงได้เกิดการรณรงค์ให้หยุดการเผยแพร่คลิปการสังหารของกลุ่มก่อการร้าย ISIS นี้ขึ้นมา โดยกลุ่มคนเหล่านี้เชื่อว่า การสังหารในแต่ละครั้งก็เพื่อให้ชาวอเมริกันเกิดความแตกตื่น และยังเชื่อว่า ถ้าคลิปพวกนี้ไม่มีการเผยแพร่ข้อมูลไปมากกว่านี้ อาจช่วยให้เหยื่อลดการถูกสังหารโดยเร็วไปได้บ้าง
การรณรงค์ครั้งนี้สามารถติดตามได้ใน hashtag ISISMediaBlackout ทาง Twitter จะเห็นได้ว่ามีบุคคลมากมายได้เข้าไปร่วมแสดงเจตนารมณ์นี้กันเป็นจำนวนมาก และยังมีการไว้อาลัย นายเดวิด เฮนส์ ที่เพิ่งเสียชีวิตอย่างโหดเหี้ยมไปเมื่อเร็วๆนี้
ที่มา : dailydot.com