โดนแบนเฉย สหรัฐคว่ำบาตร Kaspersky เหตุเพราะกลัวโดนขโมยข้อมูล

โดนจนได้ กระทรวงการคลังสหรัฐฯ ได้ประกาศคว่ำบาตรผู้บริหารบริษัท Kaspersky จำนวน 12 คน ซึ่งล้วนเป็นผู้บริหารระดับสูงทั้งหมด โดย 6 คนเป็นผู้บริหารระดับสูงสุด (C-suite) และ 4 คนเป็นกรรมการบริษัท ส่วนที่เหลือเป็นผู้จัดการอาวุโสและรองประธาน

โดยผู้ใช้ Kaspersky ในสหรัฐฯ ได้รับคำเตือนว่าการอัปเดตซอฟต์แวร์จะหยุดลงในวันที่ 29 กันยายน 2567 ซึ่งจะทำให้ซอฟต์แวร์นั่นเป็นเวอร์ชั่นเก่า และไม่สามารถรับมือกับภัยคุกคามจากมัลแวร์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

บริษัทในเครือที่โดนไปด้วยคือ บริษัท AO Kaspersky Lab, OOO Kaspersky Group และ Kaspersky Ltd. ซึ่งได้ถูกกำหนดให้เป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงของสหรัฐ เนื่องจากมีความกังวลว่าซอฟต์แวร์ของ Kaspersky อาจถูกใช้เพื่อขโมยข้อมูลที่ละเอียดอ่อนของผู้ใช้ ซึ่งอาจนำไปสู่ข้อกล่าวหาเรื่องการจารกรรม

Brian Nelson รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลังด้านการก่อการร้ายและข่าวกรองทางการเงิน กล่าวว่ารัฐบาลมีความมุ่งมั่นที่จะปกป้องประชาชนจากภัยคุกคามทางไซเบอร์ (แต่นี่อาจจะเป็นแค่ข้ออ้างหนึ่ง)

เพราะจริง ๆ เรื่องนี้ อาจเป็นผลมาจากความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครนที่ยืดเยื้อ และความกังวลว่าประชาชนสหรัฐฯ อาจตกเป็นเป้าหมายของการโจรกรรมข้อมูลส่วนบุคคล หลังจากที่รัฐบาลสหรัฐฯ ออกมาสนับสนุนยูเครนอย่างเปิดเผยนั่นเองครับ

สำหรับตอนนี้ ใครที่ใช้ Kaspersky อยู่ ไม่จำเป็นต้องมีความกังวลใด ๆ ครับ เพราะดูแลแล้ว มันไม่ได้เป็นปัญหามาจากผลิตภัณฑ์ แต่เป็นเรื่องของความขัดแย้งระหว่างประเทศ ซึ่งไทยเอง ก็ไม่มีปัญหาอะไรกับรัสเซียครับ

ที่มา
https://www.techradar.com/pro/us-announces-sanctions-for-kaspersky-antivirus-executives