บริษัท เอ็ม เอฟ อี ซี จำกัด หรือ MFEC ผู้นำด้านไอทีครบวงจร จัดงาน MFEC Inspire – Transforming IT Challenges into Future Competitive Advantage ตั้งเป้าหมายปี 2567 สร้างรายได้เติบโต 15% และฟื้นฟูเศรษฐกิจประเทศไทยด้วยเทคโนโลยี ชูกลยุทธ์ผสานโซลูชันไอที พร้อมเดินหน้าเพิ่มขีดความสามารถและยกระดับมาตรฐานการให้บริการด้านเทคโนโลยีผ่านการร่วมมือกับบริษัทในเครือภายใต้แนวคิดในการผนวกจุดแข็งของแต่ละหน่วยธุรกิจในการออกแบบโซลูชันไอที และสร้างสรรค์เทคโนโลยีที่สามารถควบคุมและแก้ไขปัญหาที่ตอบโจทย์ธุรกิจได้ครบทุกมิติ เพื่อให้ภาคธุรกิจพร้อมรับมือกับการเปลี่ยนแปลงในยุคดิจิทัลได้อย่างรวดเร็วและยั่งยืน
ในปัจจุบัน ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วของเทคโนโลยีสมัยใหม่ และการเปลี่ยนผ่านสู่ยุคดิจิทัลอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ สร้างความท้าทายให้กับองค์กรธุรกิจในการก้าวให้ทันกระแสการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีที่มีพัฒนาการอย่างรวดเร็ว ผนวกกับความท้าทายด้านเศรษฐกิจที่ผลักดันไปสู่การวางกลยุทธ์และกระบวนการที่ช่วยลดต้นทุนการดำเนินงานภายใต้เงื่อนไขที่ไม่ส่งผลกระทบต่อคุณภาพหรือประสิทธิภาพขององค์กร และมีเป้าหมายในการประหยัดพลังงานเพื่อความยั่งยืน ส่งผลให้องค์กรธุรกิจมองหาโซลูชันที่ช่วยลดต้นทุนด้วยแพลตฟอร์มที่พร้อมใช้งาน
MFEC ดำเนินธุรกิจด้วย Purpose-Driven Business
การมองภาพรวมการเปลี่ยนแปลงอุตสาหกรรมไอทีระดับโลก สะท้อนกลับมาในภาพของประเทศไทยให้เห็นถึงความสามารถในการแข่งขันของ MFEC โดยที่จะต้องตระหนักถึงการแก้ปัญหาให้ลูกค้าด้วยกลยุทธ์ Purpose-Driven Business อีกทั้งยังให้ความสำคัญกับการเลือกสรรเทคโนโลยี ผ่าน 3 Core Solution ประกอบไปด้วย
– Cost Optimization : ออกแบบกลยุทธ์และกระบวนการที่ช่วยลดต้นทุนการดำเนินงานโดยไม่ส่งผลกระทบต่อคุณภาพหรือประสิทธิภาพขององค์กร เป้าหมายหลักคือเพื่อเพิ่มผลกำไรและสร้าง Shareholder Value สำหรับด้าน IT
– Generative Al : กระบวนการที่องค์กรนำไปใช้เพื่อผนวกรวมปัญญาประดิษฐ์ (AI) เข้ากับกลยุทธ์และการดำเนินงาน คือเป้าหมายหลักเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานและเพิ่มผลกำไรต่อธุรกิจ
– Sustainability : พร้อมตัวช่วยมองหาเงินสนับสนุนใหม่ ๆ จากนักลงทุน เพื่อความยั่งยืนแก่ธุรกิจของลูกค้า
คุณศิริวัฒน์ วงศ์จารุกร ผู้ก่อตั้ง และประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอ็ม เอฟ อี ซี จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมาต้นทุนทางด้านไอทีมีอัตราเพิ่มขึ้นถึง 100% พุ่งสูงกว่ากำไรสุทธิ ซึ่งเป็นสาเหตุที่ประเทศไทยมีอัตราดอกเบี้ยเฟ้อสูง สาเหตุเกิดจาก Product Vendor ขึ้นราคาอย่างต่อเนื่องมากถึง 40% ส่งผลให้ต้นทุนเพิ่มขึ้น 200-300% ในซอฟต์แวร์หลายตัว และการที่ธุรกิจส่วนใหญ่หันมาใช้ Cloud ภายใต้จุดประสงค์ในการลดต้นทุนแต่ผลลัพธ์ที่ออกมากลับตรงกันข้ามเนื่องจากต้นทุนที่แพงขึ้นจากต้นทุนแฝง เช่นค่าใช้จ่ายในการ subscription ที่ขึ้นทุกปี รวมไปถึงกระแสการใช้ AI ในปัจจุบันที่กำลังเข้ามาอย่างต่อเนื่อง แต่ในกระบวนการของ AI ทั้งหมดไม่มีในประเทศไทย ซึ่งอาจนำไปสู่สถานการณ์จำยอมเมื่อมีการปรับขึ้นราคาหรือปิดกั้นการใช้งาน และนี่เป็นสัญญาณให้องค์กรธุรกิจตื่นตัวในการหาโซลูชันเพื่อปลดล็อคจากพันธนาการเหล่านี้ด้วย Realtime connected data, Data Strategy และ People
ด้วยประสบการณ์กว่า 27 ปีในวงการไอที เราเห็นถึงจุดย้อนศรของราคาต้นทุนของ Technology และ Net Profit ที่ลูกค้าได้ยังสวนทางกันอยู่ ในขณะที่ต้นทุนสูงขึ้นแต่กำไรไม่สูงตาม ทำให้ต้องเร่งหาโซลูชันที่จะช่วยลูกค้าลด IT cost ด้วยการออกแบบโซลูชันและกระบวนการลดต้นทุน รวมถึงการนำ Generative AI ที่เป็นหนึ่งในเทคโนโลยีสำคัญที่ช่วยยกระดับความสามารถขององค์กรได้ การให้องค์กรสามารถเข้าถึง Gen AI ในวงกว้าง นำไปสู่ความสามารถอย่างการพัฒนาผลิตภัณฑ์ การเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานได้ดียิ่งขึ้น
MFEC และบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญและพัฒนาตัวเองอยู่เสมอ พร้อมที่จะนำเสนอแนวทางการแก้ปัญหาให้ลูกค้าได้ตรงประเด็นและเหมาะสมกับความต้องการของลูกค้า เราจึงได้รวบรวมสถานการณ์ปัญหาจริงที่เกิดขึ้นกับลูกค้าองค์กรขนาดใหญ่ในประเทศไทยนำมาออกแบบผ่าน 3 Core Solution อย่าง Cost Optimization, Generative AI, และ Sustainability เพื่อหาแนวทางที่สามารถแก้ปัญหาได้จริงอย่างยั่งยืน”
ในงาน MFEC Inspire – Transforming IT Challenges into Future Competitive Advantage นอกจากจะได้รวบรวมและออกแบบ 3 Core Solution อย่าง Cost Optimization, Generative AI, และ Sustainability แล้วในงานยังมี AI transformation club – Networking Club สำหรับองค์กรที่ต้องการพัฒนา AI แต่มีทรัพยากรจำกัด โดยจะรวบรวมความเชี่ยวชาญขององค์กรต่าง ๆ จากหลากหลายอุตสาหกรรม เพื่อยกระดับขีดความสามารถในการพัฒนา AI ได้ถึง 10 เท่า โดยใช้ต้นทุนที่ต่ำลงกว่า 90%
MFEC ในฐานะผู้นำตลาดไอทีของประเทศไทยวางแผนที่จะต่อยอดธุรกิจผ่านโซลูชันทั้งหมดที่ถูกนำเสนอในงาน เริ่มจากพื้นฐานประสบการณ์ของ MFEC บริษัทในเครือและพันธมิตรคู่ค้าที่แข็งแกร่ง ผนวกกับข้อมูลปัญหาและโซลูชันจากลูกค้าที่เป็นองค์กรขนาดใหญ่ ทั้งในอุตสาหกรรมการเงินการธนาคาร โทรคมนาคม ด้านพลังงานและสาธารณูปโภคเป็นต้น นำมาบูรณาการและวิเคราะห์เพื่อหาแนวทางการแก้ปัญหาอย่างยั่งยืนและพิสูจน์แล้วว่าสามารถแก้ปัญหาได้จริง โดยบริษัทฯ ตั้งเป้าฟื้นฟูเศรษฐกิจประเทศไทยด้วยเทคโนโลยีที่ครอบคลุมตั้งแต่ระดับรากฐานอย่าง Infrastructure จนถึงระดับ Cloud Technology
# # # # #
เกี่ยวกับ MFEC
บริษัท เอ็ม เอฟ อี ซี จำกัด (มหาชน) หรือ เอ็มเฟค (MFEC) ผู้นำด้านการให้บริการเทคโนโลยีสารสนเทศ (IT) ไอทีครบวงจรที่ให้บริการครอบคลุมตั้งแต่ การให้คำปรึกษาด้านการออกแบบโซลูชันเทคโนโลยีสารสนเทศให้ตรงความต้องการ และพัฒนา ฝึกอบรม และให้บริการหลังการขายสำหรับไอทีโซลูชัน บริการที่เกี่ยวเนื่องกับฮาร์ดแวร์และโครงสร้างพื้นฐานของซอฟต์แวร์ อุปกรณ์ของระบบ การปรับเปลี่ยนและขยายซอฟต์แวร์แพ็คเกจ ตลอดจนพัฒนาซอฟต์แวร์ตามความต้องการของผู้ใช้บริการ
เอ็มเฟค (MFEC) ก่อตั้งเมื่อปี พ.ศ. 2540 มีความเชี่ยวชาญในด้านบริการให้คำปรึกษา พัฒนา และวางระบบคอมพิวเตอร์และเครือข่ายงานเทคโนโลยีสารสนเทศ โดยมุ่งเน้นให้บริการลูกค้าในกลุ่มวิสาหกิจทั้งขนาดกลางและขนาดใหญ่ซึ่งเป็นผู้นำอุตสาหกรรมที่มีความต้องการงานบริการด้านเทคโนโลยีสารสนเทศสูง เช่น กลุ่มธุรกิจสื่อสารโทรคมนาคม สถาบันการเงิน อุตสาหกรรมการผลิต รัฐวิสาหกิจและสาธารณูปโภค และบริการทางการแพทย์ ขอบเขตการบริการครอบคลุมตั้งแต่การให้คำปรึกษา การพัฒนา และวางระบบคอมพิวเตอร์และเครือข่ายสารสนเทศแอปพลิเคชันทางธุรกิจและบริหารองค์กร โดยมีศูนย์วิจัยและพัฒนาที่เน้นการพัฒนาโซลูชันจากประสบการณ์ในกลุ่ม อุตสาหกรรมต่างๆ ที่หลากหลาย