‘โอกาส’ และ ‘ความเท่าเทียม’ เป็นส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนความยั่งยืน ทั้งทางด้านเศรษฐกิจและสังคม ดังนั้นการปรับตัวและการพัฒนาตนเองอยู่เสมอจึงเป็นเรื่องสำคัญที่ทำให้เราอยู่รอดและเติบโตในสังคมได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน SX Talk Series ครั้งที่ 4 เห็นความสำคัญจึงได้จัดเสวนาหัวข้อ “Inclusion for Sustainable Society กลมกลืนอย่างสร้างสรรค์ สร้างโอกาส สู่สังคมยั่งยืน” โดยวิทยากรทั้ง 3 ท่าน ได้แก่ นพ.พูลชัย จิตอนันตวิทยา CEO วิสาหกิจสุขภาพชุมชน : SHE Vice Chairman SE Thailand Association คุณเมธาวี ทัศนาเสถียรกิจ CEO – Vulcan Coalition Co., Ltd. และ คุณท๊อฟฟี่ โสภณ ทับกลอง นักแสดง นักเต้น นักศิลปะ และพิธีกรรายการทีวี ได้ร่วมแชร์เรื่องราวของการให้โอกาสและการสร้างความเท่าเทียมให้คนในสังคม เพื่อเป็นอีกหนึ่งแรงบันดาลใจให้ผู้เข้าร่วมเสวนาเกิดไอเดียลงมือทำสิ่งดี ๆ ที่สามารถสร้างการเปลี่ยนแปลงในสังคมของเราอย่างยั่งยืน
“สร้างอาชีพให้สตรีที่เคยก้าวพลาด เพื่อโอกาสในชีวิตที่มีคุณค่า”
นพ.พูลชัย จิตอนันตวิทยา CEO วิสาหกิจสุขภาพชุมชน : SHE Vice Chairman SE Thailand Association กล่าวว่า “SHE ย่อมาจากคำว่า ‘Social-Health-Enterprise’ เป็นวิสาหกิจเพื่อสังคมก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2555 ด้วยความตั้งใจมอบโอกาสให้สตรีในเรือนจำได้กลับมามีที่ยืนในสังคมอีกครั้ง จากการฝึกอบรมทักษะอาชีพหลักสูตรนวดดัดสรีระผ่อนคลายความเมื่อยล้าเพื่อให้ผู้ต้องขังได้มีความรู้ติดตัว เมื่อออกมาจากเรือนจำแล้วสามารถหาเลี้ยงตัวเองได้ ไม่ต้องกลับไปอยู่ในเส้นทางเดิม จากประสบการณ์การเป็นอายุรแพทย์ด้านหัวใจของผมทำให้ได้สั่งสมนวัตกรรมทางสังคมมาอย่างต่อเนื่อง วันที่ตัดสินใจลาออกมาทำวิสาหกิจเพื่อสังคมผมจึงได้รับการสนับสนุนเป็นอย่างดีจากหน่วยงานต่าง ๆ ที่เชื่อมั่นในตัวเรา และทำให้ได้รับรางวัลนวัตกรผู้สร้างแรงบันดาลใจ ด้านสังคม ประจำปี 2560 จากสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ และรางวัล Crafting Hope Award 2561 โดยสถาบันเพื่อการยุติธรรมแห่งประเทศไทย (TIJ) จากความกล้าหาญในการสร้างสรรค์สังคมปลอดภัย และไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง ปัจจุบันนอกจากกลุ่มผู้ต้องขังแล้ว SHE ได้ขยายโอกาสไปสู่กลุ่มสตรีมุสลิมและกลุ่ม LGBTQ ในสามจังหวัดชายแดนใต้ด้วยเช่นเดียวกัน ซึ่งในอนาคตเราวางแผนทางธุรกิจเพื่อตอบรับสถานการณ์โลกที่เปลี่ยนแปลงไป โดยอยากจะขยายธุรกิจไปสู่การลงทุนทำการเกษตร การทำประมง ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เพื่อให้ตอบโจทย์แนวทาง ESG และขับเคลื่อนประเทศไทยให้เติบโต ถ้ามีโอกาสก็อยากชวนคนรุ่นใหม่เข้ามาเป็นผู้ประกอบการด้วยกันเพื่อสร้างสังคมที่ยั่งยืนครับ”
“AI Startup ที่ขับเคลื่อนด้วยศักยภาพคนพิการ”
คุณเมธาวี ทัศนาเสถียรกิจ CEO – Vulcan Coalition Co., Ltd. ผู้ชนะ “สุดยอดธุรกิจแบ่งปัน” Win Win WAR Thailand SEASON 4 เล่าว่า “Vulcan เป็น AI Start up ที่ขับเคลื่อนโดยคนพิการ เราเชื่อเสมอว่าคนพิการมีศักยภาพสามารถช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจได้ แต่ด้วยหลายปัจจัยทำให้เขาไม่สามารถเข้าสู่ตลาดแรงงานได้ เช่น ระบบการทำงานไม่รองรับ การเดินทางไม่สะดวก ขณะที่ยุคนี้ AI เป็นสิ่งที่คนกำลังให้ความสนใจและยังต้องการคนเข้ามาช่วยพัฒนา AI ให้เก่งขึ้นอีกมาก เราจึงเป็นเหมือนสื่อกลางที่เชื่อมโยงระหว่างคนพิการที่มีศักยภาพกับบริษัทที่ต้องการจ้างงานคนพิการให้เข้ามาทำงานร่วมกัน ปัจจุบันเรามีเครือข่ายคนพิการกระจายตัวอยู่ในแต่ละภูมิภาคกว่า 600 คน ซึ่งเราให้การสนับสนุนคนพิการทุกคนอย่างเต็มที่ ตั้งแต่การอบมรมให้ความรู้ด้าน AI ก่อนเริ่มทำงานจริง ไปจนถึงการพัฒนาแพลตฟอร์มอำนวยความสะดวกในการทำงาน ให้เขาสามารถ Work From Home ได้ไม่ว่าจะอยู่จังหวัดใดก็ตาม นอกจากนี้ Vulcan ยังมีผลิตภัณฑ์ AI ที่คนพิการมีส่วนร่วมในการพัฒนาเพื่อให้บริการหน่วยงานต่าง ๆ เช่น ระบบ AI Call Center ของกรุงเทพมหานคร โดยนำ AI เข้าไปช่วยทำงานในส่วนที่ต้องกรอกข้อมูลเพื่อช่วยลดขั้นตอนและลดเวลาให้น้อยลง โดยมีคนพิการคอยตรวจสอบความแม่นยำของ AI หรือ MayWe โปรแกรมช่วยคัดกรองภาวะซึมเศร้าของพนักงานในองค์กร เป็นต้น เพราะเรามองว่าคนพิการว่ามีศักยภาพในการทำงาน ขอแค่ทุกคนให้โอกาสและมีความพยายามเข้าใจเขาจริง ๆ ยิ่งในวันนี้เรื่อง ESG เป็นสิ่งที่ทุกองค์กรกำลังให้ความสำคัญ การทำธุรกิจเพื่อสังคมจะได้รับแรงสนับสนุนที่มากขึ้น ผลลัพธ์ที่ได้จะทำให้เรารู้สึกอิ่มใจที่ได้ทำธุรกิจไปพร้อมกับการส่งต่อโอกาสเพื่อสังคมอย่างแท้จริง”
“เพราะทุกคนต่างมีความฝัน ไม่เว้นแม้แต่ผู้พิการ”
คุณท๊อฟฟี่ โสภณ ทับกลอง นักแสดง นักเต้น นักศิลปะ และพิธีกรรายการทีวี เล่าว่า “ในชีวิตของเราไม่ว่าคนปกติหรือคนพิการ ผมเชื่อว่าเราต่างมีความฝัน แต่ต้องยอมรับว่าที่ผ่านมาคนพิการมีทางเลือกไม่มากนักเพราะหลายสิ่งไม่ได้ถูกออกแบบไว้สำหรับเรา ย้อนกลับไปเมื่อ 10 ปีที่แล้ว ผมเริ่มสนใจการเต้น แต่ไปที่ไหนก็ไม่เคยมีใครคิดหลักสูตรสอนเต้นสำหรับคนตาบอดเลย จนกระทั่งเมื่อได้มาเจอกับกลุ่มละครเวทีที่ชื่อว่า “The Blind Theatre Thailand” ถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญในชีวิตที่ทำให้ผมตั้งคำถามว่าจะทำอย่างไรให้คนปกติและคนพิการสามารถสื่อสารกันได้มากขึ้น ซึ่งผมได้ค้นพบว่าสิ่งที่จะทำให้เราสามารถเชื่อมโยงกันได้คือ ‘การใช้ประสาทสัมผัส’ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการเล่นละครเวที การเต้น การสร้างผลงานศิลปะ เราสามารถทำให้คนตาบอดเข้าใจมูฟเม้นต์การเต้นได้ผ่านการสัมผัสผลงานศิลปะจากเส้นลวดที่ถูกออกแบบให้เป็นท่าเต้น เมื่อเขาได้จับและรูดมือไปตามเส้นลวดนั้นทำให้เขาเข้าใจท่าเต้นต่าง ๆ ได้ หรือการสื่อสารเรื่อง ‘สี’ ผ่านการเลือกใช้กลิ่น เช่น กลิ่นเผ็ดร้อนเป็นตัวแทนของสีแดง กลิ่นสดชื่นของขนมเป็นตัวแทนของสีเหลือง เราสามารถสื่อสารเรื่องราวเหล่านี้ได้ เพียงแต่วันนี้สังคมยังขาดความรู้เรื่องคนพิการและมีพื้นที่ให้คนพิการได้มาพบปะพูดคุยกับคนปกติน้อยมาก ถ้าลองหันมามองสิ่งใกล้ตัวให้มากขึ้น ทุกคนอาจจะได้ไอเดียอะไรบางอย่างเหมือนกับที่ผมค้นพบเรื่องการใช้ประสาทสัมผัสในการเชื่อมโยงระหว่างคนปกติและคนตาบอด เราอาจจะสามารถนำไปต่อยอดเพื่อให้สังคมของเราน่าอยู่มากยิ่งขึ้นครับ”ไม่พลาดทุกข่าวสารและกิจกรรมของ SX Talk Series สามารถกดติดตามได้ทาง FB Page : Sustainability Expo, www.sustainabilityexpo.com และแอดไลน์ @sxofficial