เรื่องนี้น่าจะเป็นเคสใหญ่ และเคสแรกที่ทำให้บริษัทต่าง ๆ เริ่มกลัวที่จะใช้ AI หรือ ChatGPT ที่พวกเขาไม่ได้พัฒนาขึ้นเอง เพราะมันทำให้ข้อความลับภายในหลุดออกไปถึงบริษัทภายนอกได้
ก่อนหน้านี้ Samsung Semiconductor ได้ให้วิศวกรใช้ ChatGPT เพื่อช่วยให้พวกเขาทำงานได้ไวและมีประสิทธิภาพมากขึ้น แต่คาดไม่ถึงว่าจะทำให้ข้อมูลความลับภายในหลุดรั่วไปถึงภายนอก
ข้อมูลที่หลุดออกไปนั้นค่อนข้างน่ากังวล เพราะพนักงานคนแรกได้ส่งซอร์สโค้ดของโปรแกรมที่เป็นกรรมสิทธิ์ไปยัง ChatGPT เพื่อแก้ไขข้อผิดพลาด ซึ่งโดยพื้นฐานแล้ว นั่นเป็นการเปิดเผยรหัสของแอปพลิเคชันที่ลับสุดยอดให้กับปัญญาประดิษฐ์ที่ดำเนินการโดยบริษัทภายนอก
กรณีที่สองคือ พนักงานอีกคนป้อนรูปแบบการทดสอบชิป เพื่อให้สามารถระบุชิปที่มีข้อบกพร่อง พร้อมทั้งใส่คำสั่งเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของชิปและลำดับการทดสอบ ซึ่งแน่นอนว่า ข้อมูลระดับนี้ก็ไม่ควรให้ตกไปอยู่ในมือบริษัทภายนอกเช่นกัน แต่ในขณะเดียวกัน การปรับลำดับการทดสอบเหล่านี้ให้เหมาะสม อาจสามารถเร่งขั้นตอนการทดสอบและการตรวจสอบซิลิกอน ซึ่งช่วยลดต้นทุนให้กับ Samsung ได้อย่างมาก
และพนักงานอีกคนใช้แอปพลิเคชัน Naver Clova เพื่อแปลงบันทึกการประชุมเป็นเอกสาร จากนั้นส่งไปยัง ChatGPT เพื่อเตรียมการนำเสนอ และแน่นอนว่า บันทึกการประชุมนั่นก็ยิ่งเป็นความลับของบริษัทครับ
การกระทำเหล่านี้ทำให้ข้อมูลที่เป็นความลับตกอยู่ในความเสี่ยงอย่างชัดเจน ทำให้ Samsung เตือนพนักงานเกี่ยวกับอันตรายของการใช้ ChatGPT Samsung Electronics แจ้งให้ผู้บริหารและพนักงานทราบว่าข้อมูลที่ป้อนใน ChatGPT นั้นถูกส่งและจัดเก็บไว้บนเซิร์ฟเวอร์ภายนอก ทำให้บริษัทไม่สามารถเรียกคืนได้
ที่มาข้อมูล
https://www.tomshardware.com/news/samsung-fab-workers-leak-confidential-data-to-chatgpt
