ต้านกระแส EV ไม่ไหว เริ่มเห็นหลายคนหันไปจับจองรถไฟฟ้า หลังราคาน้ำมันขึ้นไม่หยุด
แต่สำหรับคนกระเป๋าเบา ทางเลือกที่มาแรงตอนนี้คือการยกเครื่องรถยนต์ใหม่ เปลี่ยนระบบจากน้ำมันเป็นไฟฟ้า คล้ายกับยุครถติดถังก๊าซ LPG และ NGV หลายปีก่อน
ตอนนี้เริ่มมีอู่รถยนต์เปิดให้บริการเปลี่ยนเครื่องยนต์ที่การันตีใบรับรองจากวิศวกร และมีบริการตรวจสภาพต่อทะเบียนได้เหมือนรถปกติ ส่วนราคาก็จัดงบได้ตามสเปค เริ่มต้นที่คันละ 3 แสนบาท ได้แบตเตอร์รี่นำเข้ามาจากจีน แต่ก่อนที่จะตัดสินใจ Techhub อยากให้พิจารณาดีๆ เพราะแบตเตอรี่ไฟฟ้ามาพร้อมกับความเสี่ยง
สรวิศ วณิชอนุกูล ผู้อำนวยการโปรแกรมเทคโนโลยี และการจัดการพลังงานยานยนต์ไฟฟ้า สวทช ยอมรับว่า มอเตอร์ไฟฟ้าให้ประสิทธิภาพดีกว่าเครื่องยนต์เชื้อเพลิงอยู่แล้ว ทั้งด้านอัตราเร่งหรือการทำความเร็วในช่วงเวลาต่างๆ ที่สามารถทำได้ดีกว่าเครื่องยนต์ อีกทั้งใช้พลังงานในการขับเคลื่อนน้อยกว่า เมื่อเปรียบเทียบประสิทธิภาพจะต่างกันอยู่ถึง 60-70%
การเปลี่ยนจากเครื่องยนต์ที่ใช้น้ำมันเป็นเชื้อเพลิงหลักในการขับเคลื่อนมาเป็นรถยนต์ไฟฟ้า แน่นอนว่ามันต้องเปลี่ยนเอาเครื่องยนต์ออกแล้วใส่มอเตอร์ และแบตเตอรี่ไฟฟ้าที่เป็นวัตถุไวไฟเข้าไปแทน ความยากของการเปลี่ยนน้ำมันเป็นไฟฟ้าคือทำอย่างไรให้ใช้งานได้ดีและปลอดภัย
เมื่อนำรถออกไปใช้ในสถานการณ์จริง การขับขี่ที่ความเร็วสูงเป็นเวลานาน อาจทำให้ความร้อนสูงขึ้น และมีโอกาสเกิดไฟลุกใหม้ ระบบระบายความร้อนของแบตเตอรี่ ต้องถูกออกแบบจัดการอุณหภูมิและแรงดันได้ เพราะหากปล่อยให้แรงดันสูง ก็จะยิ่งเพิ่มความเสี่ยงให้เกิดการสปาร์คในระบบไฟ และเกิดไฟฟ้าช็อตได้ อันนี้เป็นเรื่องสำคัญ
ดังนั้นผู้ที่ต้องการเปลี่ยนรถจากน้ำมันมาใช้ไฟฟ้า หรือ EV จำเป็นต้องศึกษาข้อมูล ตรวจสอบคุณภาพ และหมั่นสังเกตความผิดปกติที่เกิดขึ้นระหว่างการขับขี่ เพราะหากปล่อยไว้ ก็อาจจะมีผลต่อความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นจากอุบัติเหตุที่ไม่คาดคิดได้
#TechhubUpdate #EV