จีนเล็งสร้าง Sandbox ทดสอบฟังก์ชั่นรถอัจฉริยะ
รถยนต์ไร้คนขับ เทคโนโลยีที่ถูกพัฒนาขึ้นอย่างรวดเร็วท่ามกลางข้อถกเถียงด้านความปลอดภัย ที่ยังเป็นเรื่องที่น่ากังวล
ล่าสุดรัฐบาลจีนกำลังพิจารณา Sandbox ให้เป็นพื้นที่ทดลองใช้งานจริงสำหรับยานยนต์ที่ควบคุมอัตโนมัติด้วยระบบดิจิทัล เพื่อสนับสนุนการพัฒนาเทคโนโลยีไปพร้อมกับแก้ไขความเสี่ยงด้านความปลอดภัย รวมถึงปูทางกฎระเบียบที่จะออกมารองรับกับจำนวนรถยนต์อัจฉริยะที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นถึง 28 ล้านคัน ในปี 2568
แนวคิดของ Sandbox เกิดขึ้นครั้งแรกกับธุรกิจฟินเทคในอังกฤษ เมื่อปี 2558 ก่อนที่จะถูกนำมาใช้ในหลายธุรกิจ อย่างการเงิน เภสัชกรรม และล่าสุดกับเทคโนโลยียานยนต์อัจฉริยะที่ประเทศจีน
Sandbox จะช่วยให้สตาร์ทอัพ รวมถึงนักประดิษฐ์ที่สนใจ ได้ใช้พื้นที่ทำการทดลองในสภาพแวดล้อมที่มีการควบคุม ทั้งการรับรู้ด้านสิ่งแวดล้อม การตัดสินใจขณะขับขี่แบบอัตโนมัติ การควบคุมฟังก์ชันต่างๆ โดยใช้เวลาทดสอบในพื้นที่ได้ถึง 2 ปี
เป้าหมายของพื้นที่ทดสอบคือช่วยให้นักพัฒนามองเห็นปัญหา และปรับปรุงการออกแบบ เพื่อลดความเสี่ยง เนื่องจากเทคโนโลยีมีการพัฒนาอย่างรวดเร็ว ซึ่งยานพาหนะที่เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต และขับเคลื่อนด้วยซอฟต์แวร์ กำลังกลายเป็นความท้าทายใหม่ๆ ในการจัดการกับปัญหาอุบัติเหตุบนท้องถนน ที่ยากต่อการตรวจสอบผู้ทำความผิด
การขยับของจีนครั้งนี้จะเป็นผลดีต่อรถยนต์ไฟฟ้า Nio ของจีนที่เป็นคู่แข่งของเทสล่า รวมถึงพัฒนาประสิทธิภาพซอฟต์แวร์ Over The Air (OTA) เพื่ออัปโหลดข้อมูลผ่านเครือข่ายมือถือ 5G หรือ Wi-Fi ซึ่งเทสล่าเคยเกิดข้อผิดพลาดทำให้รถสตาร์ทไม่ติดจนต้องเรียกคืนมากกว่า 2.9 ล้านคัน
ขณะที่ชาวจีนมากกว่า 77% แสดงความกังวลด้านความปลอดภัย และความเป็นส่วนตัว
รวมถึงไม่ต้องการแบ่งปันข้อมูลส่วนตัวกับบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ ซึ่งแนวคิดของ Sandbox จะช่วยป้องกันความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้นได้อย่างน่าสนใจ
ที่มา : https://www.chinadaily.com.cn/a/202204/11/WS62538ff4a310fd2b29e56320.html
#TechhubUpdate #Smartcar #Sandbox